ฤดูร้อนค่าไฟแพง มาส่องนโยบายแต่ละพรรคเรื่องราคาพลังงาน
เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ปัญหาที่ตามมาสุดคลาสิกในสภาพภูมิอากาศไทยปัญหาน้ำแล้ง ค่าไฟแพง
ส่งผลให้รายจ่ายในภาคครัวเรือนและภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
.
เรามาดูกันเลยดีกว่าแต่ละพรรคมีนโยบายแบบใดบ้าง
1.“ชาติพัฒนากล้า”
รื้อโครงสร้างพลังงาน-เลิกผูกขาดสายส่ง
สำหรับ “พรรคชาติพัฒนากล้า” ที่มี นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรค ถือเป็นพรรคการเมืองที่มีการเสนอนโยบายด้านพลังงานที่ชัดเจนที่สุด โดยเสนอ 2 แนวทางเพื่อให้ราคาพลังงานของไทยถูกลง ได้แก่
1.1 รื้อโครงสร้างพลังงาน ทั้งธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้า เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้าเชื่อในเรื่องของการแข่งขัน เชื่อว่าภาคเอกชนมีประสิทธิภาพในการแข่งขันและดูแลประชาชนได้ดีที่สุด
1.2 เลิกผูกขาดกิจการสายส่งไฟฟ้า สืบเนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้ามีแนวคิดว่ารัฐจำเป็นต้องปรับโครงสร้างวัตถุดิบในการผลิต
ไฟฟ้าที่ไม่สมดุล เนื่องจากปัจจุบันไทยผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติกว่า 70% และใช้พลังงานหมุนเวียนเพียง 20% จึงต้องเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานทดแทนให้มากขึ้น ราคาพลังงานจะถูกลง
2.“พรรคไทยสร้างไทย”
ลดค่าไฟเหลือหน่วยละ 3.5 บาท
พรรคต่อมาที่มีการประกาศนโยบายพลังงานในการหาเสียงเลือกตั้งคือ “พรรคไทยสร้างไทย” โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ได้ประกาศในการลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.กาฬสินธุ์ ว่าถ้าไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาลจะลดค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกิน
3.5 บาท/หน่วย พร้อมสโลแกนว่า “เรามั่นใจเราพูดจริง ทำได้ เลือกไทยสร้างไทย ค่าไฟถูกลงแน่”
- “ภูมิใจไทย” ฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์
ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันละ 6 พันบาท
ขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาอย่าง “ภูมิใจไทย” ได้ประกาศนโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายให้ประชาชน โดยดำเนินการผ่าน 2 โครงการหลัก คือ
3.1 โครงการฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ ลดค่าไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 บาท
3.2 โครงการให้สิทธิซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแก่ประชาชนในราคาคันละ 6,000 บาท โดยผ่อนจ่ายเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 งวด โดยจะให้สิทธิในการซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแก่ประชาชนที่นำบ้าน ที่พักอาศัยเข้าร่วมโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ บ้านละ 1 คัน และสามารถใช้เครดิตพลังงานเติมกระแสไฟฟ้าสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าพลังงาน ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายให้แก่ประชาชนทั้งการซื้อรถราคาถูก และไม่ต้องเสียเงินค่าพลังงาน
- “เพื่อไทย” ลดค่าไฟ-ราคาแก๊ส-น้ำมัน
เร่งขุดก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อน
ส่วนพรรคการเมืองใหญ่ที่ประกาศแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่าง “เพื่อไทย” ก็ประกาศนโยบายพลังงานในการหาเสียงเลือกตั้งเช่นกัน โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายพลังงาน 2 เรื่องหลักๆ คือ
4.1 จะลดราคาพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้า ราคาแก๊สหุงต้ม และราคาน้ำมัน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
4.2 จะมีการเจรจาเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อที่จะนำก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนขึ้นมาใช้ประโยชน์ โดยมีการจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างเป็นธรรม
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ
- “พลังประชารัฐ” ลดราคาพลังงาน
ดันโครงการโซลาร์-โรงไฟฟ้าประชารัฐ
สำหรับพรรคการเมืองที่ตั้งเป้าจะเป็นแกนนำรัฐบาลอีกสมัยอย่าง “พลังประชารัฐ” นั้น ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พลังประชารัฐมีนโยบายพลังงานทั้งนโยบายระยะสั้นและระยะยาว โดยนโยบายระยะสั้นนั้นหากได้เป็นรัฐบาลพลังประชารัฐจะลดราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าแก๊สหุงต้ม และราคาน้ำมัน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน
6.“ก้าวไกล” ชูนโยยายลดค่าไฟ
ผลักดันการใช้โซลาร์เซลล์
ขณะที่ “พรรคก้าวไกล” มีนโยบายด้านพลังงานที่น่าสนใจเช่นกัน โดย นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งดูแลนโยบายด้านพลังงานของพรรค เปิดเผยว่า พรรคได้วางนโยบายพลังงานไว้ 2 เรื่องหลักๆ คือ ลดค่าไฟฟ้า และผลักดันให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์
1) สำหรับการดำเนินการเพื่อ “ลดค่าไฟฟ้า” นั้น รัฐต้องยกเลิกการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ซึ่งจะส่งผลให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยในการผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ถึง 70 สตางค์ต่อหน่วย
2) “ผลักดันให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์” โดยการไฟฟ้าฯ
- พรรคชาติไทยพัฒนา โดยพรรคชาติไทยพัฒนา เน้นโครงสร้างของเกษตรที่เป็นกำลังหลักสำคัญของชาติ โดยการลดราคาค่าไฟการเกษตร ลดลงเพียงแค่หน่วยละ 2 บาท เพื่อใช้กระแสไฟฟ้าในการสูบน้ำเข้านา เพื่อการอุปโภคบริโภค และแน่นอนว่าค่าไฟเพื่อการเกษตรอาจมีการคิดมิเตอร์ที่แตกต่างจากไฟบ้านทั่วไปที่ถูกกว่า และเป็นการขยายความเจริญลงสู่ชนบทที่ห่างไกล ตรงนี้คือส่วนนโยบายของพรรคชาคิไทยพัฒนา
.
นโยบายทั้งหมดเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ยกมา ในส่วนของการอุปโภคที่สำคัญคือไฟฟ้า และ การอุปโภคที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน ก็ต้องให้ประชาชนตัดสินกันครับว่า นโยบายพรรคไหนตอบโจทย์คนไทยได้มากกว่า