เลเซอร์บิกินี่ คือการกำจัดขนส่วนไหน? ตอนทำเจ็บมากไหม เป็นอันตรายต่อผิวหรือไม่?
ขนจิมิ ปัญหาของสาวๆ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการใส่ชุดว่ายน้ำ จะเลือกกำจัดขนด้วยวิธีอื่นก็ทำให้เส้นขนงอกขึ้นไว ต้องทำซ้ำบ่อยๆ หรือเกิดปัญหาผิวอักเสบ เป็นขนคุด รวมทั้งขนขึ้นเป็นตอตามมาได้ง่าย การทำเลเซอร์ขนจิมิจึงเป็นทางเลือกที่ดี เห็นผลไว และช่วยกำจัดขนจิมิได้ในระยะยาว เหมาะกับสายบิกินี่ที่ต้องการเผยผิวได้ทันที และเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้รักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นได้ดี เลเซอร์บิกินี่จะมีข้อดีอะไรอีก มีข้อจำกัดในการทำอย่างไร บทความนี้จะมาให้ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนทำเลเซอร์บิกินี่ทั้งหมดอย่างครอบคลุม
เลเซอร์บิกินี่คืออะไร
เลเซอร์บิกินี่เป็นการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์มากำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งเน้นเก็บช่วงขอบกางเกงในออกให้เกลี้ยงเกลา สำหรับเพิ่มความมั่นใจในการใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดที่รัดรูปช่วงล่าง เลเซอร์บิกินี่จะให้ผลลัพธ์การกำจัดขนจิมิในระยะยาว ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย พร้อมปรับสภาพผิวให้ดี ปลอดภัย อ่อนโยน ต่างจากการกำจัดขนขอบบิกินี่ด้วยวิธีอื่นที่เสี่ยงทำให้เกิดปัญหาผิวได้หากทำซ้ำด้วยวิธีเดิมเป็นเวลานาน
เลเซอร์บิกินี่อันตรายไหม?
เลเซอร์บิกินี่เป็นนวัตกรรมการกำจัดขนที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเครื่องเลเซอร์ได้รับการพัฒนาปรับใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามา เครื่องเลเซอร์หลายรุ่นที่ผลิตในยุโรปจะผ่านการรับรองมาตรฐานจาก FDA รวมถึงอย.ของไทย วางใจได้ในมาตรฐานการกำจัดขนจิมิโดยไม่เป็นอันตราย
เลเซอร์บิกินี่กำจัดขนได้ดีไหม?
เลเซอร์บิกินี่ให้ผลลัพธ์การกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ ด้วยหลักการกำจัดขนของเลเซอร์ที่มีการยิงลึกลงสู่ผิวระดับรากขน มีการจับเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติอย่างแม่นยำก่อนส่งความร้อนไปทำลายเซลล์ ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นจึงถูกกำจัดไปได้อย่างทั่วถึง และค่อยๆ เห็นผลโดยเส้นขนจิมิจะขึ้นช้าลง เส้นเล็กทและบางลง เมื่อขึ้นมาก็จะหลุดออกไปเองโดยไม่เจริญเติบโตไปเป็นขนเส้นยาวหรือแข็งแรงแบบก่อนทำเลเซอร์บิกินี่ แต่ต้องผ่านการทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ และเว้นระยะห่างให้เหมาะสมจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
เลเซอร์บิกินี่ vs แว็กซ์ขนบิกินี่
เทียบกับการกำจัดขนบริเวณขอบบิกินี่แบบเดิมๆ อย่างการแว็กซ์ขนบิกินี่ แม้ว่าการแว็กซ์จะเห็นผลได้ดี ใช้เวลาน้อยในการทำ แต่หลังแว็กซ์บิกินี่จะเกิดอาการแดง ตามมาด้วยผิวหนังไก่ ระคายเคืองสูง สำหรับบางคนที่ผิวบอบบางมากๆ อาจทำให้เกิดการแพ้เนื้อแว็กซ์ได้ นอกจากนี้หากทำบ่อยๆ เป็นประจำก็เสี่ยงเกิดขนคุดเนื่องจากเป็นวิธีที่ทำร้ายผิวหนัง ซึ่งในบางรายอาจถึงขั้นผิวอักเสบได้เลยทีเดียว
ในขณะที่การทำเลเซอร์บิกินี่แม้จะใช้ความร้อนที่ทำให้เกิดการระคายเคืองหลังทำได้เช่นกัน แต่เครื่องเลเซอร์ที่ดีจะลดอาการเจ็บ และยิงลึกลงไปในชั้นผิว กำจัดขนถึงต้นตอ จึงไม่ได้ทำร้ายผิวหนังด้านบน เลี่ยงโอกาสเกิดขนคุด ลดความรู้สึกเจ็บได้ดี ที่สำคัญคือเป็นการกำจัดขนบิกินี่ได้ในระยะยาว เมื่อทำจนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้วก็ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ อีก
เลเซอร์บิกินี่ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
ข้อดีของเลเซอร์บิกินี่ไม่ได้ช่วยเรื่องการกำจัดขนจิมิได้ในระยะยาวเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่ตามมาจากการไว้ขนหรือปัญหาผิวจากการกำจัดขนด้วยวิธีอื่นได้ดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหาอาการคันน้องสาวจากการโกนหรือแว็กซ์ขน
- ช่วยลดกลิ่นอับในคนที่มีเส้นขนยาว ไม่ได้กำจัดขนมาก่อน
- ช่วยให้รักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นได้ดี
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้สามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้
- ช่วยลดการอักเสบของผิวน้องสาว แก้ขนคุด และผิวหนังไก่
- ช่วยให้มีกิจกรรมทางเพศได้ง่ายขึ้น
เลเซอร์บิกินี่เหมาะกับใคร?
เลเซอร์บิกินี่เป็นการกำจัดขนที่ตอบโจทย์ให้กับคนยุคปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลายๆ ด้าน เหมาะกับคนที่มีความต้องการดังนี้
- คนที่ต้องการกำจัดขนบิกินี่โดยไม่ทำร้ายจุดซ่อนเร้น
- คนที่อยากได้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน ไม่ต้องทำซ้ำบ่อยๆ
- คนที่ต้องการให้น้องสาวเรียบเนียน ไม่เป็นตอ หรือหนังไก่
- คนที่อยากเผยผิว ใส่ชุดว่ายน้ำ บิกินี่ได้อย่างมั่นใจคนที่ต้องการดูแลจุดซ่อนเร้นได้ง่าย ทำความสะอาดทั่วถึงขึ้น
เลเซอร์บิกินี่เจ็บไหม?
เลเซอร์บิกินี่ในครั้งแรกอาจรู้สึกเจ็บเนื่องจากความไม่เคยชิน ให้ความรู้สึกเหมือนโดนหนังยางดีดใส่ ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับความไวต่อความรู้สึกของแต่ละคน แต่ส่วนมากคนที่ทำเลเซอร์บิกินี่ด้วยเครื่องรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะเครื่อง Long Pulse ND Yag จะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าเครื่องพลังงานอื่นๆ เป็นความเจ็บระดับที่ทนได้ แต่หากทำครั้งแรกและกังวลว่าจะทนไม่ไหวก็สามารถเลือกแปะยาชาก่อนยิงเลเซอร์เพื่อลดความเจ็บได้
เครื่องเลเซอร์บิกินี่แบบพกพา vs เครื่องเลเซอร์บิกินี่ในคลินิก ต่างกันอย่างไร?
เครื่องเลเซอร์แบบพกพาจะมีเฉพาะเครื่อง IPL เท่านั้น ซึ่งไม่ใช่พลังงานเลเซอร์โดยตรง แต่เป็นลำแสงความเข้มสูงที่ใช้ในการกำจัดขนได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้กำจัดขนบิกินี่ได้เช่นกัน แต่เนื่องจากมีค่าพลังงานที่น้อยจึงเห็นผลช้า เห็นผลได้ดีกับขนเส้นบาง ต้องทำอย่างน้อย 12 ครั้งจึงช่วยกำจัดขนได้ และการทำด้วยตนเองอาจไม่ทั่วถึงเท่าการทำที่คลินิก
เครื่องเลเซอร์ในคลินิกจะมีให้เลือกหลากหลายกว่า มีทั้งพลังงานแบบ IPL, Diode และ Yag ที่เหมาะกับสภาพผิวและเส้นขนที่แตกต่างกัน เครื่องในคลินิกยังสามารถตั้งค่าพลังงานได้มากกว่า ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า และมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทำให้จึงเก็บรายละเอียดได้ทั่วถึงกว่าด้วยนั่นเอง
เลเซอร์บิกินี่ เลือกเครื่องเลเซอร์แบบไหนดี?
เลเซอร์บิกินี่ที่เห็นผลลัพธ์ดีที่สุดคือเครื่อง Long Pulse ND Yag เพราะตัวเครื่องจะส่งพลังงานลงไปได้ลึกถึงรากขนเนื่องจากมีคลื่นความยาวสูงถึง 1,064 นาโนเมตร มีเทคโนโลยีที่จับเม็ดสีได้ดี จึงกำจัดขนได้ทั้งเส้นบางและหนา ใช้ได้กับทุกสภาพผิวต่างจากเลเซอร์รุ่นอื่นๆ ที่ไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำ เลเซอร์ Long Pulse ND Yag ยังเหมาะกับคนที่กลัวเจ็บอีกด้วย เพราะเป็นเครื่องที่มีการปล่อยลมเย็นระหว่างทำช่วยลดความแสบร้อน ความรู้สึกระหว่างทำจึงรู้สึกร้อนวูบเบาๆ สามารถทนได้ และผลข้างเคียงหลังทำต่ำ ไม่ตกสะเก็ดง่าย
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.gangnamlaserclinic.com/bikini-laser-removal/
ข้อดีของการเลเซอร์ขนบิกินี่ด้วยเครื่อง Long Pulse ND Yag
เลเซอร์ขนบิกินี่ด้วย Long Pulse ND Yag Laser มีจุดเด่นที่ช่วยลดอาการเจ็บระหว่างทำจึงเป็นตัวเลือกของใครหลายๆ คน เครื่องรุ่นนี้ยังมีความปลอดภัยสูงผ่านการยอมรับในยุโรป ได้มาตรฐาน FDA และอย. สามารถทำได้ในทุกสภาพผิวทั้งคนผิวขาวและผิวเข้มโดยไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย การกำจัดขนบิกินี่ได้ผลลัพธ์ดี และเกิดผลไวกว่าเครื่องรุ่นอื่นๆ เนื่องจากลงลึกได้ถึงรากขน ลดปัญหาผิวหนังไก่ ขนคุด และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวจุดซ่อนเร้นดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น
เลเซอร์บิกินี่กี่ครั้งถึงเห็นผล?
เลเซอร์บิกินี่โดยทั่วไปแล้วเมื่อทำถึงครั้งที่ 5 - 6 จะเริ่มเห็นผลในการกำจัดขนชัดเจนขึ้น เส้นขนจะขึ้นช้าลง มีความบางลง เว้นช่วงในการกำจัดขนออกไปได้นานกว่าเดิม รวมทั้งผลลัพธ์ในเรื่องของสภาพผิวก็จะดูเรียบเนียนขึ้นด้วย ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีสภาพเส้นขนและสภาพผิวอย่างไร
เลเซอร์บิกินี่แล้วขนจิมิจะกลับมาขึ้นอีกไหม?
เลเซอร์ขนบิกินี่จะเป็นการกำจัดขนแบบกึ่งถาวร เมื่อทำครบคอร์สประมาณ 6 - 8 ครั้ง หลายๆ คนจะขนขึ้นน้อยมาก หรือขึ้นบางมากๆ จนไม่ต้องกำจัดขนต่อได้เป็นปี แต่เมื่อหยุดการเลเซอร์บิกินี่ไปนานเข้า วงจรการเกิดขนก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้อีก แต่ก็จะขึ้นน้อยลงกว่าตอนก่อนเริ่มทำเลเซอร์ และอาจใช้เวลานานกว่าจะกลับมาขึ้นเยอะอีกครั้ง
เลเซอร์บิกินี่ต้องทำบ่อยแค่ไหน?
การทำเลเซอร์บิกินี่ในช่วงแรกๆ คลินิกจะนัดให้เข้ามาทำค่อนข้างถี่เพราะยังไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ทั่วถึง เส้นขนที่แข็งแรงมากๆ ยังไม่ตอบสนองกับเลเซอร์ ครั้งที่ 1 - 2 จึงต้องทำในระยะเวลาที่ค่อนข้างถี่ เว้นช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ แต่หลังจากนั้นเลเซอร์จะค่อยๆ ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ขนขึ้นช้าลง คลินิกจะแนะนำให้เว้นช่วงประมาณ 3 - 4 สัปดาห์ค่อยกลับมาทำใหม่
เป็นประจำเดือนเลเซอร์บิกินี่ได้ไหม?
ช่วงเป็นประจำเดือนควรเว้นจากการทำเลเซอร์ขนบิกินี่ไปก่อน เนื่องจากเสี่ยงทำให้รู้สึกเจ็บกว่าเดิม เพราะอยู่ในช่วงที่สภาพผิวมีความอ่อนแอ ซึ่งหากจำเป็นจริงๆ ก็สามารถทำได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญมักจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อนเนื่องจากเสี่ยงเกิดอากา้ำ หรือผิวหนังแพ้ได้ง่ายนั่นเอง
ทำเลเซอร์บิกินี่เสี่ยงน้องสาวไหม้ไหม?
เลเซอร์บิกินี่ที่ทำกับคลินิกที่มีประสบการณ์ ให้ผู้เชี่ยวชาญทำให้จะมีความปลอดภัยสูง เจ้าหน้าที่จะสามารถเลือกค่าพลังงานและเทคนิคในการทำที่เหมาะสมให้กับลูกค้าแต่ละคนได้โดยไม่ส่งผลให้เกิดผิวไหม้หลังทำ ทั้งนี้ต้องมีการดูแลหลังทำที่ถูกต้อง ไม่กระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรือสะสมความร้อนเพิ่มขึ้นด้วย การเลือกเครื่องเลเซอร์ก็มีส่วนเช่นกัน หากเป็นคนผิวเข้มควรเลือก Long Pulse ND Yag เพราะหากเป็นเครื่องรุ่นอื่นจะมีความเสี่ยงเกิดผิวไหม้ได้ เนื่องจากจับเม็ดสีได้ไม่ละเอียด แยกเม็ดสีผิวและเม็ดสีของเส้นขนได้ไม่ดีเท่าเครื่อง Yag
ก่อนเลเซอร์บิกินี่ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนเลเซอร์บิกินี่ควรเลี่ยงการเสียดสีบริเวณผิวจุดซ่อนเร้น ป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหลังทำ แนะนำให้ปฏิบัติตามวิธีดังนี้
- งดการโกนขน ถอนขน หรือแว็กซ์ขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่จุดซ่อนเร้น 2 - 3 วันก่อนทำ
- เลี่ยงการโดนแดด ความร้อน บริเวณจุดซ่อนเร้น1- 2 สัปดาห์ก่อนทำ
- หากมีอาการผิวแพ้ ระคายเคือง ประวัติแพ้ยา หรือโรคประจำตัวควรแจ้งทางคลินิกก่อน
เลเซอร์บิกินี่มีขั้นตอนอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการทำเลเซอร์บิกินี่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีอะไรน่ากังวล สำหรับคนที่ทำครั้งแรกสามารถแจ้งคลินิกได้เลยเพื่อที่จะได้มีการแนะนำแต่ละขั้นตอนให้ได้อย่างละเอียด โดยการทำเลเซอร์มีขั้นตอนดังนี้
- เจ้าหน้าที่ของทางคลินิกทำการเช็ดทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น
- ทำการโกนขนจิมิออกเพื่อพร้อมสำหรับการยิงเลเซอร์
- แปะยาชาหรือประคบเย็นก่อนเลเซอร์เพื่อลดอาการระคายเคืองผิว
- ทำการเลเซอร์บิกินี่จนทั่วถึงทุกบริเวณ
- หลังยิงเลเซอร์เสร็จเจ้าหน้าที่จะแจ้งวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ
แนะนำวิธีดูแลหลังเลเซอร์บิกินี่
หลังเลเซอร์บิกินี่ผิวจะมีความบอบบางและระคายเคืองต่อปัจจัยต่างๆ ได้ง่าย ควรดูแลให้ดีขึ้นเป็นพิเศษ โดยเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง และทำตามข้อปฏิบัติดังนี้
- หากรู้สึกระคายเคืองให้ประคบเย็นหรือใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์จากทางคลินิกทา
- ควรเลี่ยงการใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์จุดซ่อนเร้นที่มี BHA และ AHA
- งดว่ายน้ำ เนื่องจากคลอรีนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
- เลี่ยงการโดนแสงอาทิตย์และความร้อน
- งดกำจัดขนบิกินี่ด้วยการถอน โกน หรือแว็กซ์
- ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี งดใส่ชุดรัดรูป
วิธีเลือกคลินิกเลเซอร์ขนบิกินี่
การเลือกคลินิกเลเซอร์ที่ดีจะช่วยให้การทำเลเซอร์บิกินี่ออกมาได้ผลลัพธ์ที่ดีตาม ด้วยเครื่องที่มีประสิทธิภาพ และประสบการณ์รวมทั้งความใส่ใจของผู้เชี่ยวชาญที่ยิงเลเซอร์ให้ แนะนำให้พิจารณาคลินิกที่มีคุณสมบัติดังนี้
- เลือกใช้เลเซอร์ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผ่านการรับรองมาตรฐาน ผลข้างเคียงต่ำ อย่างเครื่อง Long Pulse ND Yag
- เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีชื่อเสียงในด้านการทำเลเซอร์
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงก่อนตัดสินใจ
- คลินิกควรมีหลายสาขาและเดินทางสะดวก ใกล้บ้าน เนื่องจากต้องทำบ่อย
- มีราคาที่ย่อมเยาว์ สามารถเลือกทำเป็นคอร์สในราคาที่คุ้มค่ากว่าได้
- คลินิกยินดีให้คำปรึกษาหรือจองคิวได้ง่าย มีช่องทางออนไลน์บริการตอบคำถามได้ตลอด
สรุป
เลเซอร์ขนบิกินี่เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน ด้วยไลฟ์สไตล์สาวยุคใหม่ที่มีแฟชั่นการแต่งกายที่มั่นใจมากขึ้น รวมทั้งการใส่บิกินี่ เลือกทำเลเซอร์บิกินี่ก็จะช่วยให้สามารถแต่งกายได้หลากหลาย โดยไม่ต้องมาคอยกำจัดขนบ่อยๆ หรือกังวลว่าจะมีขนขึ้นเป็นตอ หนังไก่ หรือความหมองคล้ำ