ทำไมการแก้จมูกถึงมีราคาสูงกว่าการเสริมใหม่ และวิธีเลือกคลินิกแก้จมูก

สำหรับคนที่เสริมจมูกทุกคน การแก้จมูก เพราะเจอปัญหาทรงจมูกไม่ถูกใจ หรือเสริมจมูกมาแล้วเจอปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยว หรือจมูกทะลุ ปัญหาเหล่านี้คงเปรียบเสมือนกับฝันร้ายที่ใครๆ ต่างก็ไม่อยากเจอ เพราะนั่นหมายถึงว่าเราจะต้องเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อแก้ทรงจมูกใหม่อีกครั้ง ต้องจ่ายเงินที่แพงกว่าการเสริมจมูกครั้งแรก ต้องเสียเวลาเข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้นซ้ำสอง

คำถามคือ ทำไมการแก้จมูกจึงมักมีราคาสูงกว่าการเสริมครั้งแรก? เราควรเลือกคลินิกเพื่อแก้จมูกแบบไหนจึงจะเห็นผลดีและปลอดภัยที่สุด? บทความนี้มีคำตอบ

แก้จมูก ทำอย่างไร ปัญหาแบบไหนต้องแก้จมูก?

การแก้จมูก จำเป็นที่จะต้องใช้เทคนิคการทำจมูกแบบโอเพ่น หรือแบบเปิด (Open Rhinoplasty) โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะผ่าตัดเปิดโครงสร้างของจมูกทั้งหมด เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนการแก้จมูกได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด โดยปัญหาจมูกที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ได้แก่

• ปัญหาที่คนไข้ไม่พอใจกับทรงจมูกที่ทำมาก่อนหน้า
• จมูกเริ่มมีทรงที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะจมูกเอียง จมูกเบี้ยว จมูกปลายตก จมูกงุ้มลงกว่าเดิม รูจมูกผิดรูป จมูกมีรอยบุ๋ม จมูกทะลุ ซิลิโคนทะลุ และอื่นๆ

โดยวัสดุที่ใช้ในการแก้จมูกก็มีหลากหลาย แต่โดยปกติแล้วจะใช้วัสดุจากร่างกายตนเอง เช่น กระดูกอ่อนหลังหู ,  กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นต้น

4 เหตุผลที่การแก้จมูกมีราคาแพงกว่าการเสริมจมูกครั้งแรก

เพราะการแก้จมูกจะมีความยากง่าย ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเคส ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้การแก้จมูกทำได้ยาก และมีราคาที่สูงกว่าการเสริมจมูกครั้งแรก มีดังนี้

1. ต้องเลาะพังผืดในจมูกออกจนหมด เพื่อวางโครงสร้างจมูกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเคสของคนที่ทำจมูกมานานหลายปี และการเสริมจมูกครั้งแรกมีการเลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างซิลิโคนและเนื้อเยื่อมากเกินไป เคสแบบนี้จะมีพังผืดหรือแคปซูลเกาะอยู่รอบซิลิโคนเยอะมาก จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาจมูกรัดแกนมากเกินไป ทำให้จมูกเอียง จมูกเบี้ยว ปลายจมูกเชิดจนทำให้เห็นรูจมูกดูใหญ่ เคสนี้แพทย์จะต้องเลาะพังผืดหรือแคปซูลที่เกาะอยู่รอบๆ ซิลิโคนออกมาจนหมด เพื่อปรับโครงสร้างจมูกใหม่
2. ต้องทำความสะอาดโครงสร้างภายในจมูกใหม่ทั้งหมด ด้วยการนำสารแปลกปลอมอื่น ๆ ออกจากจมูก เช่น เส้นไหม ฟิลเลอร์ หรือสารเหลว ในคนไข้บางรายนอกจากการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้วนั้น ก็อาจจะมีการทำหัตถการอื่น ๆ ที่จมูกร่วมด้วย เช่น การฉีดสารฟิลเลอร์หรือสารเหลว การร้อยไหม ซึ่งก่อนการแก้จมูกแพทย์ก็จะต้องเอาสารแปลกปลอมเหล่านี้ออกให้หมด และทำความสะอาดโครงสร้างจมูกใหม่อีกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยวที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการแก้จมูก
3. เคสที่โครงสร้างแกนกลางของจมูกถูกตัดแต่งจนมีขนาดสั้นเกินไป เคสแบบนี้จะยิ่งทำให้การแก้จมูกยากมากยิ่งขึ้น เพราะหากการเสริมจมูกครั้งแรกมีประวัติการตัดแต่งโครงสร้างจมูกไปแล้ว ก็อาจจะทำให้โครงสร้างจมูกที่เหลืออยู่มีขนาดสั้นมาก แพทย์จะต้องปรับโครงสร้างของจมูกใหม่ด้วยการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยยืดโครงสร้าง หรือปลายจมูกให้เรียวยาวมากยิ่งขึ้น และปรับแก้ทรงจมูกให้รับกับรูปหน้ามากที่สุด
4. ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแก้จมูก เพราะด้วยปัญหาที่ยุ่งยากและซับซ้อนเหล่านี้นี่เอง การแก้จมูกจึงใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน และจำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ด้านการแก้จมูกโดยเฉพาะเท่านั้น จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

วิธีเลือกคลินิกแก้จมูกที่ดี และปลอดภัย

แก้จมูกที่ไหนดี? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ถูกถามกันเข้ามามากที่สุด การเลือกคลินิกแก้จมูก ควรพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน เพื่อให้การผ่าตัดแก้จมูกปลอดภัย ช่วยให้จมูกกลับมาได้ทรงสวย และลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา

• คลินิกจะต้องมีมาตรฐานและปลอดภัย มีใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาล ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ออกให้ ภายในคลินิกจะต้องสะอาด เรียบร้อย มีการแบ่งสัดส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน
• อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดจะต้องสะอาด มีมาตรฐาน ซิลิโคนที่ใช้จะต้องเป็นของแท้ สามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้าได้
• แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมและการแก้จมูก สามารถตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ สามารถให้คำแนะนำก่อนการผ่าตัดแก้ทรงจมูก ได้อย่างละเอียดและชัดเจน
• มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเคสของการแก้จมูก ควรเลือกคลินิกที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ทั้งรีวิวของทางคลินิก รีวิวจากลูกค้าตัวจริง และรีวิวบนอินเทอร์เน็ต
• เลือกคลินิกที่มีระดับราคาเหมาะสม ไม่เลือกแก้จมูกเพราะมีราคาถูกมาก ๆ จนทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา
• มีการรับประกันหลังการแก้จมูก ไม่ทิ้งเคส เพราะการแก้จมูกจะต้องมีเวลาสำหรับการพักจมูกอย่างน้อย 4-6 เดือน ในระหว่างการพักหากมีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ทางคลินิกก็ควรจะมีการติดตามผล และช่วยแก้ไขปัญหาให้เราได้อย่างทันท่วงที

สรุป

เพราะงานแก้จมูกเป็นงานที่มีความยุ่งยากและค่อนข้างซับซ้อนมากกว่าการเสริมจมูกทั่วไป แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงทำให้การแก้จมูกมีราคาที่สูงกว่าการเสริมจมูกเป็นครั้งแรก เมื่อตรวจพบว่าจมูกที่เสริมมาเริ่มมีอาการผิดปกติ ก็ควรรีบเดินทางเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและแก้จมูกในทันที โดยควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการแก้จมูกเป็นอย่างดี เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่เห็นผล และปลอดภัยมากที่สุด