การเติบโตของราคาคาร์บอนเครดิตร กับบทบาทแห่งอนาคตกับปัญหาโลกร้อน

.

ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 อุณหภูมิของโลก ร้อนขึ้น 1 องศาในระยะเวลาเพียงแค่ 200 ปี นับว่า เป็น เศษ 0.01 ล้าน เมื่อเทียบกับวิวัฒนาการของมนุษย์เกิดขึ้นมา เราได้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และทำลายชั้นบรรยากาศ เกิน 50% ของพื้นที่บนโลกใบนี้ 

การเติบโตของโลกทุนนิยมยุคใหม่ที่ ที่ชีวิตต้องขับเคลื่อนไปโดยการใช้ทรัพยากรเพื่อแลกกับสิ่งที่เรียกว่า "เงิน" อันเป็นสิ่งที่สมมุติเป็นอัตราแลกเปลี่ยนสากลที่ใช้ในการซื้อสินค้าและบริการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

อีกทั้งการบริโภคของมนุษย์ ที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ของเสียของมนุษย์หรือ มลภาวะที่เกิดขึ้นก็เกิดจากสิ่งที่มนุษย์สร้างมาทั้งสิ้น

เป็นเรื่องยากที่มนุษย์จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม กลับไปใช้ชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือยุคหินโบราณที่อยู่กันตามมีตามเกิด

ในเมื่อเราสร้างมลพิษ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือการต้องอยู่กับมันให้ได้ แต่การอยู่ให้ได้ คือเราจะต้องมีกระบวนการคือการลด และการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่สิ่งที่ตามมาคือต้นทุนที่สูง แต่จะดีกว่าไหมถ้าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล และเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ และประเทศเราก็นำร่องในเรื่องนี้ กับสิ่งที่เรียกว่า คาร์บอนเครดิตร 

ปัจจุบันคาร์บอนเครดิตรเป็นอุตสาหกรรมการซื้อขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดอันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงในชั้นบรรยากาศโลกโดยการซื้อขายที่ฟังดูอาจเป็นนามธรรม แต่สามารถจับต้องได้และมีความมั่นคงที่แน่นอนกว่า เงินออนไลน์ประเภท คริปโตเสียอีก

โดยธุรกิจดังกล่าว เป็นการซื้อขายเครดิตรที่ได้จากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือกระบวนการปล่อยคาร์บอนเป็น "ศูนย์" ที่พูดถึงกันในปัจจุบัน 

สำหรับตลาดคาร์บอนเครดิตรเป็นรูปแบบการสมัครใจมิใช่การบังคับ และ ตลาดคาร์บอนเครดิตรส่วนใหญ่คือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพราะฉนั้นรายได้ของการขายคาร์บอนเครดิตรย่อมมีตลาดรับซื้อที่แน่นอนและค่อนข้างมั่นคงอีกด้วย

ไทยเราขยับแล้ว โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เห็นความสำคัญของคาร์บอนเครดิตร จึงบินไปประชุมที่ประเทศสวิสต์เซอร์แลนด์ในการเจรจาความต่อรองในการเปิดตลาดขายคาร์บอนเครดิตรในยุโรป 

หลังจากการเจรจาความครั้งแรก คาร์บอนเครดิตรยังราคา ไม่ถึง 30บาท/1ตัน จนล่าสุด นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส. สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนาได้ออกมาเผยว่า ราคาของคาร์บอนเครดิตรในปัจจุบัน ทะลุ 470บาท /1ตัน

จากการที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ขายคาร์บอนเครดิตรโดยตรงให้แก่นายทุนของประเทศสหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นก้าวแรกของคนไทยที่เข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว 

ก็น่าจับตามองนะครับว่า ในอนาคตการผลักดัน และราคาของคาร์บอนเครดิตรจะเพิ่มขึ้นกี่เท่าตัวในอีก 5-10 ปีข้างหน้า