หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รู้หรือไม่!! สมัยก่อนแพทย์ใช้หูของตัวเองแนบฟังอวัยวะภายในส่วนต่าง ๆ

แปลโดย ลูกสาวอบต

ในสมัยก่อนนักจิตวิทยาใช้หูของตัวเองแนบฟังอวัยวะภายในส่วนต่าง ๆ เช่นปอดและหัวใจของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดแบบในภาพ ก่อนที่เรอเน แลนเน็กจะคิดค้นหูฟังทางการแพทย์สำเร็จ

โดยที่ การฟังเสียง การตรวจคนไข้ (Auscultare "ฟัง" ; Physician auscultation ) คือการฟังเสียงภายในร่างกาย โดยปกติจะใช้เครื่องฟังเสียง การตรวจคนไข้จะดำเนินการเพื่อตรวจสอบ ระบบ ไหลเวียนโลหิตและระบบทางเดินหายใจ ( เสียงหัวใจและ ลมหายใจ ) รวมถึงช่องทางเดินอาหาร

ภาพประกอบจากปี พ.ศ. 2449 แสดงให้เห็นแพทย์ที่วางเครื่องตรวจฟังเสียงที่ทำจากไม้ Laennec ไว้ระหว่างหูซ้ายของเขากับหลังของผู้ป่วยที่รัดตัวเพื่อฟังเสียง

René Laennec ได้ใช้การฟังเสียงร่างกายเพื่อวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัย ซึ่งนั่นก็มีมีต้นกำเนิดอาจเป็นช่วงต้นของอียิปต์โบราณ (การฟังเสียงและการคลำไปพร้อมกันในการตรวจร่างกายและเหมือนกันตรงที่ทั้งสองอย่างมีรากฐานมาแต่โบราณ ทั้งสองอย่างต้องใช้ทักษะ และทั้งสองอย่างยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน) ผลงานของ Laënnec คือการปรับแต่งขั้นตอน

Laennec ฟังผู้ป่วยต่อหน้านักเรียนของเขา

การเชื่อมโยงเสียงกับการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพเฉพาะในทรวงอก และการประดิษฐ์ เครื่องมือที่เหมาะสม (หูฟังของแพทย์) เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างร่างกายของผู้ป่วยและหูของแพทย์

ปัจจุบัน  การตรวจร่างกาย หรือ การตรวจร่างกายโดยแพทย์ ( Physical examination : PE, Medical examination หรือ Clinical examination) คือ ขั้นตอนสำคัญอย่างหนึ่งที่แพทย์ปฏิบัติเพื่อใช้ในการช่วยวินิจฉัยโรค วินิจฉัยแยกโรค ประเมินวิธีการรักษา ติดตามผลการรักษา และประเมินสุจภาพโดยรวมของผู้ป่วย

การตรวจร่างกายของแพทย์มักจะอยู่ในกรอบการปฏิบัติใหญ่ ๆ 4 ข้อ คือ

1. การตรวจด้วยสายตา (Inspection) โดยอาศัยหลักการที่ว่า รูปกายภายนอกย่อมบอกสิ่งผิดปกติภายใน แพทย์จะดูผู้ป่วยทั้งตัวตั้งแต่ลักษณะของการเดิน นั่ง ยืน เคลื่อนไหว สีของใบหน้า เล็บ ผิวหนัง ผิวของลูกนัยน์ตา ผิวหนังภายในลำคอ เป็นต้น เพราะจะเป็นตัวช่วยบ่งบอกถึงโรคและสุขภาพของผู้ป่วยได้

2. การตรวจด้วยการใช้มือกดสัมผัส (Palpation) โดยอาศัยหลักที่ว่า “สิบตาเห็นไม่เท่าหนึ่งมือคลำ” เช่น การใช้นิ้วมือกดผิวหนังบริเวณหลังเท้าเพื่อดูว่ามีรอยบุ๋มหรือไม่, การใช้นิ้วและ/หรือฝ่ามือคลำตามส่วนต่าง ๆ เพื่อตรวจหาก้อนเนื้อ ขนาดอวัยวะ ความนุ่ม ความแข็ง ความเกร็ง และอาการเจ็บปวด (เช่น คลำเต้านม คลำช่องท้อง คลำต่อมน้ำเหลือง)

3.การตรวจด้วยการเคาะ (Percussion) โดยอาศัยหลักการที่ว่า “ถ้าเจ้าอยากเข้าประตูก็จงอย่ารีรอที่จะเคาะประตู” ซึ่งแพทย์จะวางมือหนึ่งบนตำแหน่งที่ต้องการตรวจ แล้วจึงใช้นิ้วมืออีกข้างเคาะบนหลังมือที่วางอยู่บนอวัยวะของผู้ป่วย เพื่อตรวจรับการสะท้อนของเสียง ดูลักษณะ และ/หรือขนาดของอวัยวะนั้น ๆ เช่น การเคาะปอด การเคาะช่องท้องเพื่อดูปริมาณของแก๊สในลำไส้ นอกจากนี้ยังมีการใช้ค้อนยางเคาะตรวจตรงบริเวณหัวเข่าด้วย การตรวจด้วยการฟังเสียง (Auscultation) โดยอาศัยการที่ว่า “เสียงเป็นสื่อสัมผัสซึ่งให้ความรู้สึกที่ลุ่มลึก” เช่น

4. การฟังเสียงพูดของผู้ป่วยว่าแหบผิดปกติหรือไม่, การใช้หูฟัง (Stethoscope) มากดฟังที่อกหรือแผ่นหลังเพื่อฟังเสียงการหายใจของปอด หรือกดฟังที่ช่องท้องเพื่อฟังเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ลูกสาวอบต
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพชรกล้า เด็กชายนำโชค งวด 2 พฤษภาคม 2567เลขเด็ดวันแรงงาน เลขไหนดัง เลขไหนเข้า มาเช็คกันก่อนลุ้นรางวัลเลย!!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไมโครซอฟท์ลงทุนในไทย!หวังGDPพุ่ง4.3ล้านล้าน!ไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!"อนุทิน" ประกาศรับวันแรงงาน ปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เริ่ม 1 ต.ค. เป็นต้นไป
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
กินข้าวหมดจาน เสียมารยาท จริงหรือ?สายคณะสุดแกร่งแทบไม่มีโอกาสตกงานwary: ระมัดระวังbetray: ทรยศ
ตั้งกระทู้ใหม่