ทำไมมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกถึงรวมกันไม่ได้?
แปซิฟิก (Pacific) เป็นมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่มหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic) มีขนาดเล็กกว่าแปซิฟิก โดยเส้นแบ่งระหว่างทั้งสองมหาสมุทรจะอยู่ที่ช่องดรากเกอร์ (Drake Passage) มีวิดีโอที่กระจายไปทั่วออนไลน์ที่แสดงให้เห็นถึงสีของน้ำทะเลที่คล้ายกันแต่มีความเข้มและอ่อนต่างกัน ดังนั้นสามารถเห็นเส้นแบ่งของทั้งสองมหาสมุทรได้อย่างชัดเจน หลังจากชมวิดีโอนี้ มีผู้คนที่สงสัยว่าทำไมแปซิฟิกและแอตแลนติกไม่สามารถผสมกันได้ แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิด มีผู้คนที่โพสต์ข้อมูลอธิบายแล้วว่าเป็นเรื่องที่ผิด
โลกมีทะเลครอบคลุมไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โลก ถ้ามองไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกเราจะเห็นดินแดนที่มนุษย์อาศัยอยู่ แปซิฟิกและแอตแลนติกเป็นทั้งสองมหาสมุทรขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ระหว่างทั้งสองมหาสมุทรมีทวีปอเมริกาเหนือและใต้คั่นอยู่
ก่อนหน้านี้มีการแพร่กระจายข่าวว่าที่เขตแดนระหว่างแปซิฟิกและแอตแลนติกนั้นมีทะเลสองสี คือน้ำเป็นสีเข้มและอีกฝั่งเป็นสีอ่อน และมีเส้นแบ่งสีที่ชัดเจน แต่ความจริงไม่ใช่ มีการแก้ไขข่าวนี้จากผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตแล้วว่าวิดีโอที่มีการแพร่กระจายกันไปทั่วโลกนั้นถูกถ่ายที่ชายฝั่งตะวันตกของแคนาดา ในพื้นที่เขตร้อนของแปซิฟิก และไม่ใช่ทะเลในขอบเขตของแอตแลนติก สาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลมีสองสีคือเนื่องจากที่ชายฝั่งอยู่ใกล้กับชั้นดิน ซึ่งมีภูมิประเทศสูงและมีน้ำเค็มจำนวนมากสะสมอยู่ จึงทำให้น้ำทะเลมีสีที่แตกต่างกันได้ในบางส่วนของชายฝั่ง
ไม่ว่าจะเป็นน้ำจากที่ไหน หากมีการเชื่อมกัน จะเริ่มเกิดการผสมผสานสมบูรณ์ต่อไป เป็นสิ่งที่ปกติ น้ำจากมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิกก็จะผสมกันได้เช่นกัน กระบวนการผสมผสานนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม อาจจะเนื่องจากความเค็มของน้ำ ความลึก ความเร็วของกระแสน้ำและอุณหภูมิของน้ำทะเลที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองมหาสมุทร ทำให้ยังมีเส้นแบ่งขั้วที่ไม่ชัดเจนที่ตั้งอยู่ระหว่างทั้งสองมหาสมุทร น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกจะสูงกว่ามหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแอตแลนติกจะมีความเค็มสูงกว่ามหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วย นอกจากนี้ หากมีสารสกัดจากสิ่งมีชีวิตเช่นสาหร่ายและตะไคร่น้ำในทะเลที่แตกต่างกัน ในจุดที่เข้ากันจะมีเส้นแบ่งขั้วที่ชัดเจนกว่า แต่สิ่งนี้ไม่หมายความว่าจะไม่ผสมกันได้
ที่มา: https://www.jueshifan.com/zh-sg/lqi/qiwenjiemi/459773.html