สารอาหารที่ควรเน้นและให้ความสำคัญในการเพิ่มความสูงในวัยเด็ก

การที่เราใส่ใจในเรื่องอาหารการกินสำหรับเด็กนั้น ถือเป็นการวางรากฐานสำคัญในเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย รวมไปถึงการเจริญเติบโตในส่วนอื่นๆด้วย เช่น สมองและกระดูก ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของร่างกายมนุษย์ เนื่องจากสมองนั้นคือส่วนสำคัญในการสั่งการส่วนอื่นๆของร่างกายทั้งภายในและภายนอก อย่างที่เราเคยได้ยินว่า หากสมองตาย ทางการแพทย์ก็เหมือนว่าร่างกายเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนกระดูกนั้น เมื่อเราอายุมากขึ้น มวลกระดูกก็จะลดน้อยลง จึงทำให้เราปวดตามข้อต่างๆ อีกทั้งยังทำให้เราหลังค่อมได้ เหมือนที่เราเห็นผู้สูงอายุที่เดินช้าลง และหลังค่อมขึ้น

หากเราได้ดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะใส่ใจการรับประทานอาหารและเพิ่มในส่วนสารอาหารตั้งแต่ยังเด็ก ก็ถือเป็นการช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในวัยที่เน้นการเจริญเติบโตและช่วยให้สูงขึ้นได้อีกด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านจึงไปปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการเพิ่มส่วนสูงในวัยเด็กและวัยรุ่น เพิ่มความแข็งแรงของกระดูก ว่ากิจกรรมใดและสารอาหารประเภทใดที่ควรเพิ่มเข้าไปอย่างเหมาะสม อย่าลืมความสำคัญในเรื่องสัดส่วนและปริมาณว่าเหมาะกับเด็กที่มีน้ำหนักและส่วนสูงเท่าไร ถ้าให้มากไปหรือน้อยไป อาจจะไม่เห็นผลได้ เว็บไซต์ Nestle ได้แชร์บทความที่น่าสนใจไว้ว่า แคลเซียม เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญสำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกที่จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตสมวัย สูงตามเกณฑ์ และยังมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งแหล่งของแคลเซียมหรืออาหารเพิ่มแคลเซียมให้ร่างกายที่เรารู้จักกันดีก็คือ นม ซึ่งตรงกับความเชื่อพ่อแม่หลายคนที่ว่า “ดื่มนมเยอะ ๆ จะได้ตัวสูง” ทำให้ผู้ปกครองปลูกฝังให้เด็กดื่มนมเป็นประจำ แต่ปัญหาที่พบในปัจจุบันคือคนไทยดื่มนมได้น้อยกว่าคำแนะนำเป็นอย่างมาก โดยจากการสำรวจทำให้เห็นว่า คนไทยดื่มนมเพียงแค่ 2 แก้วต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่าน้อยกว่าคำแนะนำที่ควรให้ดื่มนม 1 - 2 แก้วต่อวัน ด้วยเหตุนี้อาจทำให้มีเกิดภาวะขาดแคลเซียมที่จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและความสูงของเด็ก แล้วแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมอาหารอย่างไร ที่จะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้เด็กเจริญเติบโตอย่างสมวัย อาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมเช่น นม ผลิตภัณฑ์จากนม งาดำ งาขาว ผักใบเขียว เป็นต้น หากเด็กๆ ไม่ได้ทานอย่างเพียงพอต่อปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ทำให้ได้รับแคลเซียมต่ำกว่าเกณฑ์ โดยเด็กไทยมีภาวะขาดแคลเซียม จากการสำรวจพบว่า คือได้รับแคลเซียมเฉลี่ยเพียงวันละ 361 มิลลิกรัม ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันเป็น เช่น อายุ 1 – 3 ปี ควรได้รับแคลเซียม 500 มิลลิกรัมต่อวัน อายุ 4 – 8 ปี ควรได้รับแคลเซียม 800 มิลลิกรัมต่อวัน อายุ 9 – 18 ปี ควรได้รับแคลเซียม 800 มิลลิกรัมต่อวัน เสริมแคลเซียมเพื่อลูกเติบโตสมวัย โดยเลือกกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง หรือจะเป็นแคลเซียม l threonate เป็นแคลเซียมโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถละลายเข้าสู่ร่างกายเราได้ดีอีกด้วย นมสดรสจืดและผลิตภัณฑ์จากนม สำหรับเด็กที่มีการเติมวิตามิน ดี และควรดื่มอย่างน้อยวันละ 2 แก้วเพื่อให้ได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอ ธัญพืชต่าง ๆ เช่น งาดำ งาขาว เป็นต้น