ศึกภายใน ก้าวไกล พังแน่!!!

จ

ครบรอบ 3 ปี ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คือ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ส่งผลให้ คณะกรรมการบริหารพรรคโดนตัดสิทธิ์ ทางการเมือง 10 ปี ดังนี้

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้ (21 ก.พ. 2563) ซึ่งผลการพิจารณามีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ทำให้ส่งผลต่อกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ในทันที โดยทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี และผู้ที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ก็ต้องพ้นสมาชิกภาพไปด้วย อีกทั้งกรรมการบริหารพรรคไม่สามารถไปร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้

สำหรับ กรรมการบริหารพรรค ที่เป็น ส.ส. 11 คน (ส.ส.บัญชีรายชื่อ) ซึ่งจะต้องหลุดจาก ส.ส. มีดังนี้

1. ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค

2. กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค

3. ชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค

4. พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค (ลาออก กก.บห. เมื่อ 16 ก.พ. 2563)

5. พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค

6. ไกลก้อง ไวทยกา นายทะเบียนพรรค

7. เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์

8. สุรชัย ศรีสารคาม

9. เจนวิทย์ ไกรสินธุ์

10. จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ

11. นายนิรามาน สุไลมาน

12. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค สิ้นสุดการเป็น ส.ส. ก่อนหน้านี้ไปแล้ว

นั่นคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์เรื่องต้นพรรคก้าวไกล โดยการได้ นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์มานั่งเป็นหัวหน้าพรรคนำทีมพรรคก้าวไกลสานต่อเจตนารมณ์ และมีทีมคณะก้าวหน้าเป็นเหมือนองค์กรคู่ขนานในการทำงานให้สอดคล้องกันไป

ล่าสุดฟัดกันนัวจนขึ้นเทรนทวิตเตอร์ระหว่าง ปิยบุตร - พิธา ถึงประเด็น ที่นายพิธาหาว่า นายปิยบุตร "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ" วิจารณ์แต่ไม่ทำ ลงใน Facebook ส่วนตัว นับว่าเป็นประเด็นที่ฮิตตั้งแต่เมื่อคืน จนทำวันนี้ข่าวยังระอุอยู่ 

ไม่มีลม ไฟก็คงไม่แรงมากแต่ตอนนี้ไฟเป็นมหาเพลิง เมื่อปิยบุตร ออกมาโต้กลับ ผ่านFacdbook ส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าว โดยบอกว่า "พรรคก้าวไกลทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว คะแนนเสียงไม่เพิ่มไม่ลด แต่สำคัญตัวเองผิด คิดจะเกาะเพื่อไทยอย่างเดียวตั้งรัฐบาล "

นับว่าสร้างแรงเดือด และไฟลามทุ่งกันเลยทีเดียว 

จะว่าไปตามความเป็นจริง พรรคก้าวไกล ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอะไรเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากเกินกว่า การเกาะโซเชียล กับโหนและวิจารณ์ มาตรา 112 อีกทั้งเป็นผู้สนับสนุน การชุมนุม ของม็อบสามนิ้วอีกด้วย 

พอทีเมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามุกแป๊ก ไปไม่ถูก หาหลักเกาะไม่ได้ พอมีเหตุให้ต้องวิจารณ์กันเอง กลับรับไม่ได้ การเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นก็เริ่มที่จะผุด 

ก็ลองดูกันต่อไปนะครับว่า จุดจบของพรรคนี้รอบนี้อาจไม่ใช่ปัจจัยภายนอก แต่อาจเป็นธรรมชาติจัดสรรแหละครับ ทรงนี้