Pmed Clinic อัพเดท! เทรนด์ศัลยกรรม 2023 การทำศัลยกรรมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง-การทำศัลยกรรมจมูกแบบโอเพ่น โดย หมอต้น ปิยพล พัฒนครู
จะเสริมจมูก อัพดั้งทั้งที ต้องปังให้สุดกับ “คุณหมอต้น ปิยพล พัฒนครู” คุณหมอเจ้าของ “พีเมด คลินิก” (pmed clinic) ที่ออกมา อัพเดทเทรนด์เสริมจมูก 2023 ด้วยประสบการณ์ที่อยู่ในวงการศัลยกรรมมานานมากกว่า 10 ปี งานนี้ทางคุณหมอต้น เน้นทำทรงจมูกให้เหมาะกับใบหน้า และร่วมออกแบบกับคนไข้ว่าทรงไหนดี ทรงไหนปัง ทำแล้วปลอดภัย สวยหล่อหายห่วงได้แบบมั่นใจ
โดยเฉพาะเรื่องการทำศัลยกรรมจมูกแบบโอเพ่น และการศัลยกรรมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงตัวเอง ซึ่งทางคุณหมอต้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณหมอมือหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ เรียกว่ามีเคสรีวิวมากกว่า 10,000 เคส และเป็นการเสริมจมูกที่ถือว่ากำลังมาแรงในปี 2023 ถือเป็นเทรนด์เสริมจมูก 2023 ที่คุณหมอต้นเน้นความปลอดภัย และทรงสวยอยู่ได้นาน
ซึ่งงานนี้ทางคุณหมอต้นเผยว่า “การทำศัลยกรรมเสริมจมูก ด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง (Rib Cartilage Rhinoplasty) เป็นการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบพรีเมียม ถือเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการของการทำศัลยกรรมจมูก ที่ปลอดภัย แข็งแรง ซึ่งทางพีเมดคลินิก เรามีประสบการณ์ทางด้านนี้มาอย่างยาวนาน เราเลือกใช้กระดูกอ่อนซี่โครงจากในร่างกายของคนไข้เอง 100% ในการนำมาเสริมสร้างปลายจมูกแทนแบบเก่าที่เน้น silicone ที่ปลายจมูก จะทำให้เนื้อบางลง และมีความเสี่ยงต้องแก้บ่อยๆ คนไข้หลายๆ คนฟังแบบนี้ อาจรู้สึกหวาดเสียว แต่จริงๆ เป็นวิธีที่ทำมานานแล้ว แต่เทคนิคในปัจจุบันสามารถทำให้ทรงสวยได้ดั่งใจมากขึ้น ปรับองศาจมูกให้รับเข้ากับหน้า โดยเป็นการใช้ซี่โครงชิ้นเล็กๆ บริเวณใต้ราวนมของคนไข้ และอีกหนึ่งเทคนิคคือการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ซึ่งจะทำให้ได้รูปทรงที่ชัดเจน แข็งแรง และเหมาะกับใบหน้าของคนไข้”
ในส่วนของรายละเอียดต่างๆ ทางคุณหมอต้นยังได้เสริมข้อมูลแบบละเอียด โดยให้ความสำคัญในการทำศัลยกรรมยุคสมัยนี้ คือการ ทำออกมาให้ดูเป็นธรรมชาติ โดยหลักจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1.ส่วนปลายจมูก อาจมีการสร้างปลายจมูกโดยการใช้ silicone ยาวไปถึงปลาย ในกรณีนี้ต้องระมัดระวังมากเพราะโดยธรรมชาติเทคนิคนี้จะทำให้เนื้อปลายจมูกบางลง ถ้าตึงมากก็มีความเสี่ยง และเป็นข้อห้ามสำหรับคนไข้ที่ฐานจมูกเอียงเพราะ silicone จะพลิกและมีความเสี่ยงในการทะลุ หรืออีกวิธีคือการทำแบบ open เป็นการทำปลายจมูกให้สวย โดยใช้กระดูกหู ร่วมกับการต่อความยาวจมูกด้วยผนังกั้นจมูก หรืออีกวิธีคือการใช้กระดูกซี่โครง ซึ่งสำหรับคนที่เน้นความแข็งแรง และความโด่ง วิธีนี้ก็จะได้ความแข็งแรงที่มากกว่า และปลายที่ได้จะโด่งกว่า
2.ส่วนของสันจมูกมีการทำได้หลายแบบ โดยอาจใช้ซี่โครงเหลาให้เป็นแท่ง ก็จะได้ความหนา แต่ก็ต้องระมัดระวังในระยะยาว เพราะมีโอกาสบิดงอได้ 2-5% หรือบางครั้งอาจใช้กระดูกซี่โครงมาหั่นให้ละเอียด ก็จะมีโอกาศยุบตัวได้บ้างในระยะยาว ซึ่งเทคนิคนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจทำให้ผิวเป็นคลื่นได้ ถ้าผิวบาง บางครั้งอาจใช้เป็นไขมัน ซึ่งในระยะยาวทรงจะไม่ค่อยคงตัว เหมาะสำหรับคนที่เนื้อบางมาก หรือผิวหนังไม่เรียบ บางครั้งก็อาจใช้วัสดุสังเคราะห์เช่น Gore Tex ซึ่งมีทั้งแบบแผ่นและสำเร็จรูป เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มีรูพรุน ในระยะยาวอาจมีการยุบตัวลงเล็กน้อย หรือการใช้ silicone ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในกรณีเนื้อบางถ้าใส่หนาเกินไป ก็จะทำให้เนื้อบางแดง และใสได้ สรุปคือสันจมูกสามารถเสริมได้ด้วยหลายวัสดุ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่จะต้องการแก้ไขในคนไข้แต่ละคน และความถนัดของแพทย์ผู้ที่ทำการผ่าตัด
ซึ่งในปัจจุบันนี้การทำศัลยกรรมจมูกในประเทศไทย ยังคงเป็นศัลยกรรมยอดนิยม และมีเทคนิคที่มีความหลากหลาย และความพึงพอใจในทรงจมูก ที่มีความละเอียด และความจำเพาะมากขึ้น ทางคุณหมอต้น จึงแนะนำให้ผู้สนใจทำศัลยกรรมจมูกพิจารณาเป็นข้อๆ ดังนี้
1.ใช้เวลาในการหาข้อมูล และเทคนิคต่างๆ ให้เข้าใจ และข้อจำกัดในแต่ละเทคนิคก่อนที่จะพิจารณาทำจมูก
2.ผู้เข้ารับบริการมีสิทธ์เข้าถึงข้อมูล และประวัติของแพทย์ที่ทำการผ่าตัด จึงแนะนำให้คุยกับแพทย์ที่จะผ่าตัดให้ก่อนที่จะมัดจำเงินเพื่อการผ่าตัด
3.ราคาเริ่มต้นอาจไม่ใช่ราคาสุดท้าย จึงอยากแนะนำให้เข้ารับการปรึกษา และรู้ราคาสุดท้ายก่อนทำการมัดจำ เพื่อทำการผ่าตัดศัลยกรรม
4.ก่อนทำการผ่าตัดแนะนำให้สอบถามข้อมูลจากแพทย์ที่ทำการผ่าตัด เพื่อให้เข้าใจว่าเทคนิคในการผ่าตัด ใช้วัสดุอะไรมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร
5.ถ้ามีสัญญาณอันตรายเช่น มีอาการเนื้อปลายจมูกบางอย่างรวดเร็ว มีอาการเจ็บ หรือแดงมากขึ้น มีอาการบวม แนะนำให้รีบพบแพทย์ทันที
6.การดื่มสุราหรือสูบบุหรี่ มีผลต่อโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงของการอักเสบ หลังผ่าตัดแนะนำให้หลีกเลี่ยงในช่วงก่อนผ่าตัด และหลังผ่าตัด
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณหมอต้น ปิยพล พัฒนครู คุณหมอเจ้าของ พีเมด คลินิก
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Line : @pmed
Facebook : https://www.facebook.com/Pmedclinic/
Instagram : @pmedclinic
Website : http://www.pmedclinic.com