วิชาลูกเสือ มีต้นกำเนิดมาจาก กิจกรรมชายรักชาย?
จริงๆวิชาลูกเสือ อาจเป็นแค่คลับหรือกิจกรรมของผู้ชาย ถ้าเทียบสมัยนี้ก็ประมาณคลับซาวน่า เม้ามอยนางงาม หรือเข้ายิมปั้นหุ่น ถอดเสื้อโชว์กล้าม ลูบไล้กล้ามเนื้อกัน ออกแนวคลับของกลุ่ม LGBT ของผู้ชายสมัยก่อน เพียงแต่ค่านิยมสมัยนั้น การเป็นรักร่วมเพศเป็นเรื่องผิดบาปทั้งทางสังคมและศาสนา บวกกับศาสนจักรมีอิทธิพลมาก เลยทำให้การเเสดงออกเรื่องรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม และโทษหนักถึงตายได้ในบางวัฒนธรรม กิจกรรมต่างๆเลยออกไปแนวแมนๆ เดินป่า ตั้งแคมป์ รอบกองไฟ ฯลฯ ประมาณนั้น
ถ้าถามว่า "หลักสูตรลูกเสือ" นั้นมันมีความจำเป็นหลักสูตรการศึกษาปัจจุบันไหม? ...ตอบแบบตัดจบเลยคือ "ไม่มีอ่ะ" เว้นไว้แค่สักเรื่อง แค่เรื่องการได้ทำกิจกรรมเป็นทีม การได้ทำกิจกรรมเอ้าท์ดอร์แค่นั้น คือแบบแค่นี้ มันไม่ต้องถึงกับเป็นสาขาวิชาอะไรแยกมาเป็นพิเศษก็ได้เข้าใจป่ะ มันควรเป็นวิชาเลือก ที่จะเลือกก็ได้ ไม่เลือกก็ได้ แบบนั้นจะดีกว่า
เสริมประเด็นเรื่องคลับของผู้ชาย คือ วัฒนธรรมการมีคลับ มีสโมสรของเหล่าผู้ชาย ไม่ว่าจะรักร่วมเพศ หรือไม่รักร่วมเพศ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณก่อนยุค Gsus อีกนะ อย่างภาพเขียนสีบนจานเซรามิคที่เเสดงให้ภาพแกงแบงสามแตง ในสโมสรแบบนึงที่เรียกว่า symposium คือประมาณว่า symposium เนี่ย มันก็คือสโมสรของเหล่าผู้ชายในสมัยโบราณ ถ้าระดับเล็กๆหน่อย ก็จะเหมือนๆ ชมรมตามโรงเรียนเป็นหน่วยย่อยของสถานศึกษา หรือสังคมนั้นๆอีกที นั้นแหละ ซึ่งแต่ละชมรม แต่ละคลับ ก็อาจจะมีหลายๆความหัวข้อของการชุมนุมแตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าจะเป็นชมรมตำแตงกันท่าเดียว เช่น การประชุมวิชาการ, คณิตศาสตร์, การเมือง , การทหาร ฯลฯ สรุปคือ มันมีนานแล้วอ่ะ ไอ้การรวมกลุ่มทำกิจกรรมนั่นๆนี่ๆของผู้ชาย ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่าในยุคสมัยกรีกโรมันไม่มีความคิดต่อต้านรักร่วมเพศแบบศาสนาคริสต์ ส่วนการร่วมกลุ่ม หรือชมรม ชุมนุมอะไรของผู้หญิงจะมีให้เห็นน้อยมาก มีให้เห็นเฉพาะบางวัฒนธรรม เพราะโลกเราเป็นสังคมชายเป็นใหญ่มาหลายพันปี สตรีในแทบทุกวัฒนธรรมโบราณ แทบไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีกลุ่มก้อนทางสังคมเป็นของตัวเอง
ปล. นำเสนอเรื่อง ปวศ. และความเป็นมา ไม่ได้เหยียดหรือดูแคลนเรื่องรสนิยมทางเพศใคร เพราะฉะนั้นไม่ woke นั่นนี่นะ