ตำนานขององค์สี่หูห้าตา และวิธีบูชาให้เฮงให้ปัง
ตำนานขององค์สี่หูห้าตา และวิธีบูชาให้เฮงให้ปัง
ตำนานขององค์สี่หูห้าตานั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากการแสวงหาข้อเท็จจริงตามเหตุการณ์และเวลาที่เป็นจริง แต่สร้างมาจากความเชื่อในเวลา และเรื่องราวที่สมมุติเพื่อการอยู่ร่วมกันทางสังคมอย่างมีจารีตประเพณีและศีลธรรมมากกว่าตำนาน
มีทั้งสืบเนื่องและหลากหลายอยู่ตลอดเวลา ทั้งตำนานของวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว ในจังหวัดเชียงราย และตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาจากนิทานพื้นบ้านของชาวล้านนา เรื่องพระอินทร์จำแลงมาเป็นแมงสี่หูห้าตา ดังนี้
กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีชายหนุ่มกำพร้าผู้หนึ่งฐานะยากจนขัดสนมาก มีที่ดินทำกินเพียงน้อยนิดไว้สำหรับปลูกข้าว มีอยู่ปีหนึ่งเกิดความแห้งแล้ง ต้นข้าวที่ปลูกไว้แห้งตายไปมากพอสมควร
มีพระอินทร์บนสวรรค์องค์หนึ่งซึ่งมองเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชายหนุ่มผู้นี้อยากช่วยเหลือให้พ้นจากความทุกข์ยาก จึงจำแลงกายมาปรากฏเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง ซึ่งมีหู 4 หู มีดวงตา 5 ดวง มาทำลายต้นข้าวในนา บังเอิญชายหนุ่มได้มาพบเห็นจึงเกิดความโมโห คิดจะฆ่าสัตว์ตัวนี้แต่ก็ไม่มีอาวุธใดทำร้ายได้ จึงคิดหาวิธีดักจับจนกระทั่งจับได้ จึงนำมาผูกติดไว้กับต้นเสากระท่อมที่พัก
พอตกเย็นชายหนุ่มก็ได้นำอาหารมาให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นกิน แต่มันไม่ยอมกินอาหารแต่อย่างใด กลับยืนตัวสั่นดูเหมือนว่ากำลังหนาวจัด คงต้องการความอบอุ่น ชายหนุ่มจึงหาฟืนมาก่อไฟให้มัน และในขณะที่ชายหนุ่มจะเข้าพักผ่อนภายในกระท่อมก็เห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังจับถ่านไฟก้อนแดง ๆ ที่กำลังร้อนจัดกินเข้าไปอย่างไม่รู้สึกร้อนแต่อย่างใด จนกระทั่งชายหนุ่มเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าสัตว์ประหลาดที่กินถ่านไฟก้อนแดง ๆ เข้าไปได้ถ่ายออกมาเป็นทองคำ ชายหนุ่มกำพร้าจึงนำทองคำไปขายจนร่ำรวย จึงได้ข้อคิดว่า ถ้าชายหนุ่มกำพร้าใจร้อนฆ่าสัตว์ประหลาดตาย เขาก็คงยากจนเหมือนเดิม คงเป็นเพราะมีความเมตตาที่คิดละเว้นชีวิตต่อสัตว์ประหลาดตนนั้น
เรื่องนี้จึงเป็นเหมือนคติเตือนใจว่า ถึงแม้จะเกิดความโมโหที่สัตว์ประหลาดมาทำลายต้นข้าวในนา แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ยังมีเมตตาจิต ดังนั้นอยากให้ทุกคนหมั่นรักษาศีล ภาวนา ให้มาก ๆ และมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ถ้าคนเรายึดถือสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตเราจะพบแต่ความสุขตลอดกาล
องค์สี่หูห้าตา หรือแมงสี่หูห้าตา เป็นชื่อของสัตว์ประหลาดในตำนานตามความเชื่อของภาคเหนือ เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เงินทอง ความอุดมสมบูรณ์
ลักษณะขององค์สี่หูห้าตา มีด้วยกัน 2 ลักษณะใหญ่ ซึ่งแบ่งตามตำนานที่เล่าขานกันมา ดังนี้
-
ตำนานของวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จังหวัดเชียงราย เชื่อกันว่าแมงสี่หูห้าตามีลักษณะเหมือนหมีขนยาวสีดำ ตัวอ้วนเตี้ย มีหู 2 คู่ และมีตา 5 ดวง ดวงตาเป็นสีเขียว กินถ่านไฟร้อนเป็นอาหาร และถ่ายมูลออกมาเป็นทองคำ ไม่ได้ปรากฏว่ามีอุปนิสัยดุร้ายหรืออย่างใด มีรูปปั้นของสัตว์นี้ปรากฏที่วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
-
ตำนานฉบับครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา จังหวัดลำพูน เชื่อกันว่าลักษณะของแมงสี่หูห้าตาจะคล้ายลิง เรียกว่า พญาวานรสี่หูห้าตา โดยได้เชื่อมโยงสัตว์นี้เข้ากับหลักธรรมทางพุทธศาสนาว่า จำนวน 4 หู และ 5 ตานั้น แสดงถึงหลักธรรมพรหมวิหาร 4 และศีล 5 เป็นการให้คติแก่พุทธศาสนิกชนให้พึงรักษาและปฏิบัติหลักธรรมดังกล่าว ทั้งนี้ มีรูปปั้นของพญาวานรนี้ในจังหวัดลำพูน และเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
สายมูคนไหนที่บูชาองค์สี่หูห้าตาไปแล้ว สามารถบูชาได้ตามวิธีดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณพระอินทร์เทพจำแลงสี่หูห้าตา สงบจิตแล้วภาวนาพระคาถาว่า
“พุทโธ อยู่หลัง พุทธัง อยู่หน้า ตัวข้า อยู่กลาง เวเวสิ ระตะนัง ปุระโต อาสิ มหาลาโภ ภะวันตุเม อิติปิโส ภควา เงินทองไหลมา อิติปิโส ภควา เงินคำไหลมา อิติปิโส ภควา เงินทองและเงินคำไหลมา เทมา หาข้าพเจ้าเสมอ”
หรือ
“สาธุ อหัง นะมามิ พระอินทร์ อากาเสจะ พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธายะอิอะระณัง อะระหัง กุสะลาธัมมา สัมมาสัมพุทโธ ทุสะนะโส นะโมทุทธายะ พระโสนามะ ยักโข เมตตามหาลาภา ปิยังมะมะ ทันตะ ปริวาสะโภ วาสุนี หะเต โนหตุ ชัยยะมังคลานิ”
หรือ
“นะโมเม พระสี่หูห้าตาเทวานัง ธูปะทีปะ จะบุปผัง สักการะวันทานัง สูปะพะยัญชะนะ สัมปันนัง
โภชะนานัง สาสีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะสุขายะ
พระสี่หูห้าตาเทวานัง มะหิทธิกา เตปิ อัมเห อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ เยนะ สุเขนะจะ
ข้าแต่พระสี่หูห้าตาเท้าตา พระอินทร์ผู้ทรงฤทธิ์ เทพแห่งโชคลาภอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ข้าพเจ้าขอบูชาท่านด้วยถ่านดำ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากภัยและอันตรายใด ๆ ขอให้ท่านประทานพรโชคลาภ ความร่ำรวยทั้งหลายทั้งปวง แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ”
ทั้งนี้ การบูชากราบไหว้นั้นสามารถทำได้ทุกวัน ทุกเวลา แต่ถ้าจะให้ดีต้องมากราบไหว้ในช่วงเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
เพราะเชื่อกันว่าถ้าใครมีความทุกข์ ความลำบาก เมื่อมาขอพรและเอาสิ่งที่ไม่ดีมาทิ้งไว้ ความทุกข์ ความลำบาก ก็จะหายไปพร้อมกับตะวันที่ตกดิน หลังจากนั้นจะมีโชคลาภและสิ่งดี ๆ ที่มาพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้น
สำหรับคนที่อยากจะไปไหว้ขอพรองค์สี่หูห้าตา สามารถไปได้ดังนี้
1. สำนักเรือนเทวะพระมุนี อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
-
โทรศัพท์ 06-5232-8991
2. วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
-
โทรศัพท์ 08-1286-3121
3. รูปปั้นองค์สี่หูห้าตา ตำบลองครักษ์ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
นอกจากนี้หลายวัดมีการจัดทำองค์สี่หูห้าตาองค์เล็ก ๆ เพื่อเป็นเครื่องรางให้เช่าบูชา ช่วยเสริมอำนาจวาสนา โดยเชื่อว่าแมงสี่หูห้าตาเป็นเครื่องรางนำโชค เนื่องจากถ่ายมูลเป็นทองคำนั่นเอง
อ้างอิงจาก: ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เฟซบุ๊ก เรือนเทวะพระมุนี, เฟซบุ๊ก สี่หูห้าตาเมตตาบารมี เชียงราย, เฟซบุ๊ก เชียงใหม่ CM108 ข่าวเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่