สยามไม่ใช่ไทย?
สยำกุก ที่จารึกไว้บนผนังระเบียงนครวัด จารึกก่อนสถาปนานครรัฐสุโขทัย (พ.ศ.1781) หลายปี ดังนั้นแล้ว สยำกุก ที่นครวัดคงจะไม่ได้หมายถึงสุโขทัย แล้วสยามคือใคร ?
.
จิตร ภูมิศักดิ์ สอบค้นไว้อยู่ในหนังสือความเป็นมาของคำสยามฯ สรุปว่าชื่อสยามมาจาก ซัม, ซำ หมายถึง ตาน้ำ, แหล่งน้ำ(พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2519) ว่าสยามเป็นทั้งชื่อดินแดนและเป็นทั้งชื่อกลุ่มชน ไม่จำกัดเผ่าพันธุ์
.
“ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ความพยายามที่จะแปลคำสยามให้เป็นคำสันสกฤตนี้ล้วนห่างไกลความเป็นจริงทั้งสิ้นทีเดียว. ตามสมมุติฐานของเรานั้น สยามคือกำเนิดออกมาจาก ซาม-เซียม, และแหล่งกำเนิดของมันอยู่ในบริเวณยุนนานตะวันตกเฉียงใต้และพะม่าเหนือ, เราจะต้องคลำหาต้นกำเนิดของมันจากภาษาในเขตนี้ในยุคโบราณ และหาคำแปลจากคำดั้งเดิมนั้น มิใช่จับเอาสยามซึ่งเป็นรูปคำที่ถูกดัดแปลงแล้วมาแปล.”
.
คำว่า ซำ นี้มีใช้เรียกเป็นชื่อเมืองใหญ่ๆ ที่ขึ้นชื่ออยู่สองแห่ง คือเมืองซำเหนือและซำใต้, อยู่ในแขวงหัวพัน (หัวพันห้าทั้งหก) ในประเทศลาวบัดนี้. เมืองทั้งสองนี้มีชื่อเช่นนี้มาแต่โบราณ.ทางเวียตนามเรียกบริเวณซำทั้งสองว่า ซ่ำโจ็ว (แค้วนซัม) มาตั้งแต่ราว พ.ศ. ๑๘๕๐-๑๙๐๐, นั่นคือเวียตนามเอ่ยถึงซ่ำโจ็วหรือแคว้นซัมขึ้นในระยะเดียวกับที่พงศาวดารจีนราชวงศ์หยวนกล่าวถึง “ส่าน” ทางหนานเจ้าและไตมาว.
.
ซำ หรือ ซัม ในภาษาไตดั้งเดิม, ซึ่งบัดนี้ยังมีอยู่ในภาษาลาวและผู้ไท, หมายความถึงบริเวณน้ำซับน้ำซึมประเภทที่พุขึ้นจากแอ่งดินโคลน. น้ำดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากน้ำที่รากต้นไม้บนภูเขาหรือเนินดอนอุ้มไว้ แล้วซึมเซาะซอนใต้ดินมาพุขึ้นที่บริเวณที่ราบเชิงเขาหรือเนินดอน
..
ในทางภาษาศาสตร์ จิตร ภูมิศักดิ์ เสนอว่า “เสียมกุก” นี้หมายถึงชาวสยามแห่งลุ่มแม่น้ำกก แถบที่ราบลุ่มเมืองเชียงราย เพราะอักขรวิธีเขมรที่เขียน“กุกฺ” ต้องอ่านว่า “กก” และบริเวณที่ราบลุ่มลำน้ำกก เมืองเชียงราย มีร่องรอยอารยธรรมอุดมสมบูรณ์ (ก่อนจะมีรัฐสุโขทัยหลานร้อยปี)
.
อาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม เสนอว่า “เสียมกุก” ที่ปราสาทนครวัด ควรเป็นพวกรัฐโคตรบูรที่อยู่บริเวณสองฟากแม่น้ำโขงตั้งแต่ย่านอีสานเหนือจนถึงเวียงจัน โดยอ้างว่าเอกสารจีนสมัยหลัง พ.ศ. 1700 (หรือพุทธศตวรรษที่ 18) กล่าวถึงพวกสยาม (เสียม-เสียน) ไว้หลายแห่ง แต่จำแนกเป็นพวกใหญ่ๆได้อย่างน้อย 2 พวก คือพวกที่เคลื่อนไหวทางทะเล เช่น สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, นครศรีธรรมราช กับพวกที่เคลื่อนไหวทางบก เช่น บ้านเมืองสองฝั่งโขง มีเวียงจัน เป็นต้น
.
บันทึกของโจวต้ากวานในคณะทูตจีนที่เดินทางเข้าไปในเมืองพระนครหลวงเมื่อ พ.ศ. 1839 (ปีที่สร้างเมืองเชียงใหม่) ระบุว่ามีพวกสยาม(เสียน) เข้าไปทำมาหากินอยู่ในกัมพูชา(เมืองพระนครหลวง-นครธม) มีอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าไหม และรับจ้างทำงานบางอย่าง รวมถึงค้าขาย แล้วเคยยกทัพโจมตีหมู่บ้านชายแดนเมืองพระนครหลวง เป็นหลักฐานนั้น แสดงว่าสยามพวกนี้มิได้เคลื่อนไหวไปทางทะเล แต่เคลื่อนไหวไปทางบก
.
เมืองเวียงจัน(หรือ ศรีโคตรบูร) เป็นศูนย์กลางของพวกสยาม มี เครือข่ายขึ้นไปถึงลำน้ำอูอยู่ตอนเหนือของลาว ถึงลำน้ำกกอยู่ทางเหนือของไทย แล้วมีเส้นทางคมนาคมต่อเนื่องเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มชนลุ่มแม่น้ำแดง-แม่น้ำดำที่ภาคเหนือทางเวียดนาม รวมทั้งดินแดนทางใต้ของจีน(เขตยูนนาน) ที่มีอาณาจักรใหญ่ตั้งอยู่คือน่านเจ้าและคุนหมิง
.
เมื่อเกิดนครรัฐสุโขทัยขึ้นแล้ว จีนจึงเอาคำว่า สยาม มาใช้เรียกรัฐนี้ว่า เสียนก๊ก/เสียมก๊ก ต่อมาเมื่ออยุธยากลืนรัฐสุโขทัยเข้าไว้ในอาณาจักรได้แล้ว จีนก็เรียกรวมสยาม-ละโว้ทั้งหมดว่า เสียนหลอก๊ก/เสียมหลอก๊ก แล้วเราก็ตู่เอาคำว่า "สยาม" มาเป็นของเรา และบอกให้ลูกหลานฟังว่า สยามคือไทย !!!
.
อ้างอิง
จิตร ภูมิศักดิ์ - ความเป็นมาของคำสยาม ,ไทย , ลาว , ขอม
ศรีศักร วัลลิโภดม - ศรีโคตรบูร บ้านเมืองสองฝั่ง ก่อนสมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม
สุจิตต์ วงษ์เทศ - มาจากไหน? สยามเป็นชื่อดินแดน ไม่ใช่ชื่อ “คนไทย”
.
(ใน 3 ท่านนี้ มี จิตร ภูมิศักดิ์ คนเดียวที่กล้าฟันลงไปว่า สยามไม่ใช่ไทย อีกสองท่านหลังยังแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ตามข้อมูลที่ท่านนำเสนอก็ออกมาในแนวทางที่สยามไม่ใช่ไทย แต่จำเป็นต้องอะลุ่มอะล่วย เพราะ ... คงกลัวลัทธิชาตินิยมแบบคลั่งมังครับ )