"Bokator - Kun Khmer" เส้นทางของมวยเขมรที่โลกกังขา? (1)
จากข่าวร้อนที่เขมรตัดคำว่า ‘Muay’ ออก ใช้เพียง ‘Kun Khmer’
โดยจะลำดับเรื่องและวิเคราะห์ตามประสา เริ่มตั้งแต่ต้นทางที่เขมรกรุยทางศิลปะการต่อสู้ จนถึงจุดที่คนไทยตื่นตัวในวันนี้
………………………………….
“อะไรเอ่ย? … 🇰🇭Bokator - Kun Khmer”
🔴 ราว 3-4 ปีก่อน เขมรเริ่มใช้สื่ออวดศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมในชื่อ ‘Bokator’ จุดมุ่งหมายหลัก คือ เพื่อบรรจุลงซีเกมส์ 2023 ในฐานะศิลปะการต่อสู้ศิลปะประจำชาติเขมร
🔴 คนไทยสังเกตุว่า น่าจะ inspired มาจาก “จา พนม” ในหนังเรื่ององค์บากและ ต้มยำกุ้ง ซึ่งเขมรค่อยๆ นำมาโมใหม่ทีละท่าสองท่า
🔴 พอรู้ว่าไทยจับผิด ก็เร่งสร้างเรื่องให้ ‘จา พนม‘ เป็นชาวเขมรที่เรียนมวยเขมรจากครูเขมรทันที
🔴 เริ่มต้นจากหาชื่อครูมวยเขมร “Kim Sean” วางให้เป็นผู้บุกเบิก แต่ไม่ปรากฏสถิติการชก ทั้งในเขมรและต่างประเทศ แม้แต่ครั้งเดียว
🔴 Influencer ชาวเขมร ทะยอยทำคลิปโปรโมทฤทธิ์เดชการต่อสู้ของเขมร แต่ใช้ท่าแบบ ‘จา พนม’ เป๊ะ!
🔴 ระยะหลัง มีสูตรท่าแม่ไม้มวยไทย , ดนตรีปี่มวย , ไหว้ครู , สวมมงคล , เชือกพันมือแบบมวยโบราณ , ลายสักยันต์ ฯลฯ ชัดขึ้นแบบเอาไปยกชุด!
🔴 ในอีกทาง สื่อเริ่มนำเสนอ ‘นักมวยชาวเขมร’ ที่เข้ามาชกสังเวียนมวยไทย คนเขมรปลุกใจกันเรียกการชก ‘มวยไทย’ ว่า ‘Kun Khmer’ ภายในประเทศ (มาอีกชื่อแล้ว)
🔴 เมื่อมีทั้ง ‘Bokator และ Kun Khmer’ คนไทยจึงเริ่มตั้งคำถามว่า “มันคืออันเดียวกัน หรือ คนละอัน?”
🔴 ต่อมา มีโปรโมเตอร์จัดชก ‘Kun Khmer‘ ในเขมร โดยเชิญ ‘บัวขาว’ ไปชกโชว์ เป็นการยกระดับมวยเขมรให้มีตัวตนมากขึ้น
🔴 ทางด้าน ‘Bokator’ เขมรวางให้เป็นการต่อสู้สมัยอังกอร์ เรียก ‘Lion Martial Art’ (มวยสู้สิงโต) และเป็นต้นตำรับมวยไทย โดยอ้างอิงภาพหินสลักโบราณ แล้วนำข้อมูลเหล่านี้ไปขึ้นทะเบียน unesco ในนาม ‘Lbokator‘ โดยไม่มีการรับรองจากองค์กรกีฬาใดมาก่อน (มาอีกชื่อละนะ ไอ้ทิด!)
🔴 ที่สำคัญ แอบสอดไส้ชื่อ ‘Kun Khmer’ ในเอกสารประกอบ ให้เหมือนว่าเป็นการต่อสู้อันเดียวกัน
🔴 ต้น ธ.ค. 2565 unesco รับรองประกาศขึ้นทะเบียน
🔴 บทบรรยายระบุไปทาง “มวยรำ เพื่อการบำบัด-ออกกำลัง ไม่ใช่มวยเพื่อการต่อสู้”
จึงเป็นที่น่าสงสัยถึง ‘กฎกติกา’ ที่จะนำมาแข่งขันในซีเกมส์ว่า จะเป็นอย่างไร?
🔴 เวลาเดียวกัน ชาวเน็ตไทยสืบพบ “ชมรมโบกาตอร์ ใน จ.สุรินทร์” จึงถล่มสอบถามหน่วยงานราชการไทยที่เกี่ยวข้องเนื่องจากยอมรับไม่ได้
🔴 กลายเป็นเผือกร้อนให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ และ พบว่า ‘ประธานชมรม’ ได้แอบอ้างชื่อ “กกท.” อย่างมิควร
🔴 ทำให้ “การจัดอบรมวิชาโบกาตอร์ + มอบ C-License แก่ผู้เข้าอบรม’ ที่กำลังจะจัดขึ้นในขณะนั้น ต้องสะเทือน
🔴 ผู้จัดงานต้องรีบนำชื่อหน่วยงานราชการไทยออกจากป้ายงาน ก่อนงานเริ่มเพียง 1 วัน เป็นการด่วน
🔴 ปัจจุบันได้บทสรุปว่า “ชมรมนี้ ยังไม่สามารถดำเนินการอย่างเป็นทางการได้ในขณะนี้”
ก็ต้องรอดูอนาคตต่อไป
……………………………………
🟢 จะเห็นได้ว่า เขมรวางหมากการเคลมศิลปะและวัฒนธรรมของไทยไว้อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับราชการ สื่อสารกับประชาชนผ่านเหล่า Influencer บนสื่อโซเชียล สร้างความน่าเชื่อถือในระดับสากล เรียกว่าทำทุกทางจริงๆ














