รถแทรกเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก นั้นความเร็วแรงกว่ารถสปอร์ตบางรุ่น
รถแทรกเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก นั้นความเร็วแรงกว่ารถสปอร์ตบางรุ่น
JCB Fastrac Two เป็นรถแทรกเตอร์ JCB Fastrac ที่ลดขนาดลงและปรับปรุงสมรรถนะ สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุด 247 กม. ต่อชั่วโมง (153.8 ไมล์ต่อชั่วโมง)
หากคุณเคยขับตามหลังรถแทรกเตอร์ คุณคงทราบดีอยู่แล้วว่ามันมีหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ก็ไม่เร็วอย่างแน่นอน
รถแทรกเตอร์ถูกสร้างมาเพื่อกำลัง ไม่ใช่ความเร็ว แต่ถ้ามีคนต้องการให้รถแทรกเตอร์วิ่งเร็วมากล่ะ?
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมงานของผู้ผลิตรถแทรกเตอร์ในอังกฤษ JCB ได้เริ่มทำสิ่งนั้นและสามารถสร้างสถิติใหม่ของกินเนสส์สำหรับรถแทรกเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกด้วยรถแทรกเตอร์ Fastrac รุ่นดัดแปลงของบริษัท วิ่งสองกิโลเมตรกว่าสองกิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ย 135 ไมล์ต่อชั่วโมง (217.6 กม. / ชม.) และความเร็วสูงสุด 153.771 ไมล์ต่อชั่วโมง (247 กม. / ชม.)
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแมกซ์ 6 สูบ 7.2 ลิตรที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ JCB รถ Fastrac Two ที่ทำลายสถิติมีกำลังสูงสุด 1,016 แรงม้า สำรองด้วยแรงบิดกว่า 2,500 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่โปรดจำไว้ว่าแม้จะอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เจ้าสิ่งนี้ก็หนักถึง 5 ตัน ดังนั้นทีมงานจึงต้องพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการปรับปรุงแอโรไดนามิกเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
Tim Burnhope ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมและการเติบโตของ JCB กล่าวว่า “การให้รถแทรกเตอร์ขนาด 5 ตันทำความเร็วได้ถึง 150 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างปลอดภัยและหยุดอีกครั้ง นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”
“เราทุกคนภูมิใจมากที่ไม่เพียงบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ แต่ยังทำเกินเป้าหมายเหล่านั้นด้วย”
ที่น่าสนใจคือ รถแทรกเตอร์ JCB Fastrac อีกคันหนึ่งได้สร้างสถิติความเร็วโลกเมื่อหลายเดือนก่อน – ความเร็วเฉลี่ย 103.6 ไมล์ต่อชั่วโมง (166 กม./ชม.) – แต่ทีมวิศวกรมั่นใจว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้
ดังนั้นหลังจากทำการปรับเปลี่ยนบางอย่างแล้ว พวกเขาจึงทำอย่างอื่นต่อไป และในเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่สนามบินเอลวิงตันในสหราชอาณาจักร พวกเขาสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้
“เมื่อเราทำ Fastrac ไปถึง 103.6 ไมล์ต่อชั่วโมงในฤดูร้อน ผมมั่นใจว่าเราจะไปได้เร็วกว่านี้ และทีม JCB ก็ก้าวขึ้นมาท้าทายด้วยการสร้างสถิติใหม่นี้” ลอร์ด แบมฟอร์ด ประธาน JCB กล่าว
“มันเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมากๆจากทีมวิศวกรรุ่นใหม่ที่มีความกระตือรือร้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องและควรภาคภูมิใจในส่วนผลงานที่พวกเขาได้แสดงความสามารถทางวิศวกรรมของอังกฤษอย่างดีที่สุด”
ที่มา:odditycentral/auto,google และ YouTube