เตือนภัยโดนดูดเงิน
กลายเป็นภัยใกล้ตัวคนใช้มือถือ กรณี คุณวิษณุ หรือคุณป็อก โพสต์เล่าอุทาหรณ์ที่แค่วางโทรศัพท์ชาร์จแบตไว้เฉย ๆ ก็โดนดูดเงินออกจากบัญชีแบบงง ๆ เป็นเงินราว 100,000 บาท ยืนยันว่าไม่เคยมีการกดลิงก์แปลก ๆ หรือโหลดแอปฯ แต่อย่างใด โดยหลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์ไปปรากฏว่ามีคนที่โดนดูดเงินจากบัญชีในลักษณะแบบนี้นับ 10 ราย
ล่าสุด (15 มกราคม 2566) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานเรื่องราวร้องทุกข์จาก ข้าราชการหนุ่มในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นอีกรายที่ถูกดูดเงินออกจากบัญชี 92,709 บาท ขณะชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา จู่ ๆ หน้าจอโทรศัพท์ก็ดับไป แต่ว่ายังสามารถฟังเสียงกดโทรศัพท์ได้อยู่ หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง โทรศัพท์ก็กลับมาใช้ได้ ก่อนที่บัญชีธนาคารหนึ่งแจ้งเตือนมาว่า "เนื่องจากนโยบายความปลอดภัยของธนคาร ระบบตรวจสอบได้ว่าได้มีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ดาวน์โหลดจาก Play Store มาใช้งาน กรุณาถอนการติดตั้งแอปฯ ดังกล่าวก่อนใช้งานแอปฯ ของธนาคาร"
นอกจากนี้ เมื่อลองตรวจสอบชื่อของบัญชีปลายทาง พบว่าเป็นบุคคลในแบล็กลิสต์รายชื่อคนที่เป็นข่าวเคยโกงพระไปก่อนหน้านี้ที่ที่ย่านบางแค เป็นการหลอกขายตู้โชว์ฝังมุก ซึ่งเป็นชื่อบัญชีเดียวกัน เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ตนมองว่าคงไม่ได้เงินคืน โดยบัญชีนี้คงเป็นบัญชีม้า แต่ตนก็พยายามค้นหาในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งพบน้องสาวของเจ้าของบัญชีปลายทาง น้องสาวเขาบอกกับตนว่า เจ้าของบัญชีนี้ เป็นคนเกเร ไม่รู้ว่าอยู่ไหน ทำอะไร ติดต่อไม่ได้
ก่อนเงินจะถูกดูดออกไป มองว่าโทรศัพท์ของถูกควบคุม ทำให้รู้ข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์ และหากเราเผลอ พวกนี้ก็จะเล่นงานเรา เช่น ช่วงที่ชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ไว้หรือโทรศัพท์ไม่ได้ใช้งาน จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจถูกควบคุมจากระยะไกล ส่วนใหญ่ผู้เสียหายที่โดนในลักษณะเดียวกัน จะใช้โทรศัพท์แบบ Android ซึ่งตอนนี้พวกตนได้ตั้งกลุ่มกันขึ้นมาแล้วประมาณ 13 คน พบว่ายอดที่ถูกดูดเงินรวมกันประมาณ 500,000 บาท ยอมรับว่าจากนี้ตนรู้สึกว่าไม่ค่อยกล้าที่จะฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคารอีกแล้ว
ขณะที่ เฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง โพสต์เตือนภัย เสียบสายชาร์จไม่ระวัง เสี่ยงถูกแฮกข้อมูลไม่รู้ตัว ปัจจุบันพบว่ามีสายชาร์จที่ฝังตัวส่งสัญญาณไร้สาย Access Point ที่เมื่อเราเสียบสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเราแล้ว จะทำให้เหล่าแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ของเราได้จากระยะทางไกล โดยแฮกเกอร์จะสามารถโจรกรรมข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เลขบัญชีธนาคาร, รหัสธนาคาร, รหัสผ่าน หรืออาจจะถูกส่ง Malware อันตรายเข้ามายังอุปกรณ์