หลายวันที่ผ่านมา มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการรวมบริษัทของทรูและดึแทค โดยบางคนยังเข้าใจว่า จะไม่มีชื่อ "ดีแทค" ในธุรกิจโทรคมนาคมแล้ว แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะความเป็นจริงก็คือ ชื่อ "ดีแทค" และ แบรนด์ "ดีแทค" ยังคงอยู่เหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปคือ ชื่อบริษัท จากเดิม “บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)” จะเปลี่ยนไปเป็น “บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ซึ่ง “ชื่อบริษัท” กับ “ชื่อแบรนด์” เป็นคนละส่วนกัน
สาเหตุที่เปลี่ยนจาก บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น เป็น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็เกิดจากการตกลงร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย คือ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” และ “เทเลนอร์” ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ทรูมีบริการที่หลากหลาย ในตลาดที่กว้างกว่า ขณะที่ดีแทคมีเพียงตลาดมือถืออย่างเดียว ดังนั้น การใช้ชื่อบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม หากเปลี่ยนป็นชื่ออื่น ๆ ก็จะต้องลงทุนทำการตลาดใหม่ รวมถึงลงทุนสร้างการรับรู้ใหม่ด้วย ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูงและใช้เวลายาวนานมาก การใช้ชื่อเดิมที่มีอยู่แล้ว จึงประหยัดทั้งต้นทุนและเวลา
นอกจากนี้ การนำชื่อเดิมของบริษัทใดบริษัทหนึ่งมาเป็นชื่อบริษัทใหม่ ก็สามารถกระทำได้ ไม่ผิดทั้งหลักกฎหมายและหลักการตลาด
ในแง่ของการบริหาร ทั้งสองบริษัทก็มีสัดส่วนการถือหุ้นที่เท่าเทียมกัน คือ ถือหุ้นฝ่ายละประมาณ 30% ที่เหลือเป็นสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนและประชาชนทั่วไป
ส่วนในด้านของบริการนั้น ลูกค้าของทั้งสองแบรนด์ คือ แบรนด์ “ทรู” และ แบรนด์ “ดีแทค” ก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ยังคงใช้มือถือได้ตามปกติ ไม่ต้องปรับแต่งระบบใด ๆ ไม่ต้องแก้ไขบิล แต่จะได้สัญญาณโครงข่ายที่ดีขึ้น รวมถึงบริการและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นจากการรวมกันอีกด้วย
สรุปว่า “ทรู” และ “ดีแทค” ยังอยู่นะจ๊ะ อย่าเชื่อเฟคนิวส์จ้า