หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10วัน'ที่ถูกทำให้หายไป'ในปฏิทิน

เนื้อหาโดย origin


วันนี้มีเรื่องราวที่ฟังดูแปลกและชวนสงสัย
ในด้านประวัติศาสตร์ของ 'ปฏิทิน' มาแบ่งปันกัน

ปฏิทินจูเลียน (Julian Calendar) ของโรมัน ก่อนหน้าที่จะมาเป็นจูเลียนได้นั้น
โรมได้เคยพัฒนาระบบ ปฏิทินโรมิวซุส ที่มี 304 วันต่อปีและ ปฏิทินนูมา ที่ซอยย่อยสำหรับศาสนากับสำหรับประชาชน
สร้างความสับสนอย่างมาก จูเลียส ซีซาร์ (Gaius Julius Caesar) ซึ่งควบตำแหน่งปุโรหิตสูงสุด (Pontifex Maximus)
จึงได้คิดทำการปฏิรูปปฏิทินใหม่โดยบัญชาให้นักดาราศาสตร์ไปคำนวณปฏิทินใหม่ขึ้นมา (ระบบปฏิทินใหม่ได้ชื่อตามคนสั่งนั่นเอง)
ปฏิทินจูเลียนได้รับอิทธิพลมาจากปฏิทินปวงชนของอียิปต์จากการใช้จำนวน 365 วันเท่ากันและเป็นการผสมระหว่างสุริยคติกับจันทรคติ
เดือนมีการผสมกันทั้งแบบ 30 และ 31 วัน มีการเพิ่มวันอธิกสุรทินเข้าไปด้วยในทุกๆ 4 ปี มีหลายทฤษฎีที่ยังถกกันอยู่ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่กระตุ้นซีซาร์ให้สั่งแก้นั้นเป็นเพราะเหตุอะไรกันแน่ บ้างก็กล่าวว่าเป็นการกำจัดขั้วนักบวชเก่าที่ชอบเลื่อนวันตามอำเภอใจเพื่อปรับวันจ่ายภาษีให้เร็วหรือช้าลง บ้างก็บอกว่าต้องการผสานการปกครองดินแดนโรมันให้เป็นปึกแผ่นมากขึ้นโดยเฉพาะดินแดนอียิปต์ที่ผนวกได้มาในตอน 46 ปีก่อนคริสตกาล (ปีเดียวกับที่ประกาศใช้ระบบปฏิทินจูเลียน) แม้จะมีการปรับแก้ลำดับและชื่อเดือนตามเกมการเมืองของรัชสมัยต่างๆ จนดูพิลึกไปบ้าง เช่นเดือนกันยายนหรือ September ที่ควรจะเป็นเดือน 7 หากยึดตามรากศัพท์แต่กลับไปวางอยู่ที่เดือน 9 แต่สิ่งหนึ่งที่ผมและผู้อ่านสามารถมั่นใจได้คือระบบปฏิทินจูเลียนนี้ยังคงเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุดที่จักรวรรดิโรมันได้ทิ้งเอาไว้ให้เราสัมผัสครับ

ถ้ายึดตามปฏิทินจูเลียนของซีซาร์ ในห้วงเวลาหนึ่งปีจะประกอบด้วย 365 วันกับอีก 6 ชั่วโมง การทดด้วยปีอธิกสุรทินทุก 4 ปีก็ดูจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่เดี๋ยวก่อน หากเราคำนวณให้ละเอียดมากขึ้นก็จะพบว่ายังมีติ่งของเวลาอีก 11 นาที 14 วินาทีที่ไม่ได้ถูกคิดเข้าไปด้วย สะสมนานเข้าก็ชักจะเจอปัญหาเดียวกับปฏิทินปวงชน แม้จะไม่หนักเท่า แต่ชีวิตของชาวโรมันก็จะคลาดเคลื่อนไป 1 วันในทุก 131 ปี ใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่านักดาราศาสตร์ อาลอยเซียส ลิเลียส (Aloysius Lilius) จากอิตาลีจะตรวจพบความผิดพลาดนี้ ลิเลียสจึงได้ร่างหนังสือแจ้งต่อ พระสันตะปาปาเกรโกรี ที่ 13 (Pope Gregory XIII) ถึงความคลาดเคลื่อนที่จะกระทบกับวันสำคัญทางศาสนาโดยเฉพาะวันอีสเตอร์ (Easter) เข้าอย่างจัง

ตามแต่เดิม ชาวคริสเตียนได้ยึดถือเอาตามพระราชโองการของจักรพรรดิคอนสแตนตินซึ่งให้นับวันอาทิตย์หลังวันที่ 14 ของเดือนนิสาน (เดือนแรกตามปฏิทินยิว อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนเมื่อเทียบกับสมัยนี้) ซึ่งเมื่อนับไปก็จะพบว่าวันอาทิตย์นั้นอยู่หลังวันวสันวิษุสวัต (Vernal Equinox) หรือวันแรกของฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะตรงกับวันที่ 21 มีนาคม ปีที่จะเกิดปัญหาตามที่คริสตจักรกังวลคือ ค.ศ.1582 วันวสันวิษุสวัตจะมีการเลื่อนมาเป็นวันที่ 11 มีนาคมแทน เทศกาลที่ระลึกถึงการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูคริสต์นี้จึงคลาดเคลื่อนตามอย่างไม่สามารถยอมรับได้ (การที่ผูกวันอีสเตอร์กับฤดูใบไม้ผลิเปรียบเหมือนการเริ่มต้นของชีวิตใหม่อีกครั้งเช่นเดียวกับพระเยซูที่ฟื้นคืนชีวิตมา)

นักดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ถูกเกณฑ์มาคิดแนวทางแก้ปฏิทินที่จักรพรรดิซีซาร์บัญชาไว้ อย่างแรกคือต้องปรับปีให้ใกล้เคียงปีดาราศาสตร์ (Tropical Year) ที่แท้จริงเสียก่อน พวกเค้าจึงทำการทอนเวลาในหนึ่งวันลงเหลือ 365.2425 วันแทน 365.25 ของเดิม เพิ่มกฎการคำนวณปีอธิกสุรทินว่าจะเพิ่ม 1 วันก็ต่อเมื่อปี ค.ศ.นั้นสามารถหารด้วยเลข 4 และเลข 100 ลงตัวเท่านั้น ปีที่หารด้วย 400 ลงตัวจะไม่นับ ดังนั้น ค.ศ.1700 หรือ 1800 จึงไม่เป็นปีอธิกสุรทิน

พระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 13 ยังได้ทำการตีตราประกาศตัดวันที่ 5-14 ตุลาคมของปี ค.ศ.1582 ทิ้งเพื่อชดเชยระบบปฏิทินที่เพี้ยนมานานนับพันปี ดังนั้นวันที่ 4 ตุลาคมจึงเป็นวันสุดท้ายปฏิทินจูเลียน นับวันที่ 5 ตุลาคมใหม่เป็น 15 ตุลาคมโดยอัตโนมัติ ปฏิทินเกรโกเรียน (Gregorian calendar) นี้ก็คือปฏิทินที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันนั่นเอง เรียกได้ว่าศาสนาเป็นส่วนช่วยเร่งผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาก็ไม่ผิดนัก

แต่ช้าก่อน... ด้วยเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ทำให้เราเริ่มตรวจพบความไม่ชอบมาพากลของระบบปฏิทินเกรโกเรียน (อีกแล้ว!) ความจริงเผยตนออกมาว่าระยะเวลาในการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์แท้จริงนั้นอยู่ที่ 365.24219 วัน ความผิดพลาดอยู่ในระดับวินาทีจึงยังไม่ส่งผลอะไรรุนแรงเท่าที่ผ่านๆมา กว่าจะเลื่อนไป 1 วันก็ต้องรออีกกว่า 3,323 ปี อย่างไรก็ตาม มีความพยายามแก้ไขให้ถูกต้องด้วยการเสนอระบบ ปฏิทินโลก (World Calendar) ขึ้นในปี ค.ศ.1930 ในระยะเวลา 12 เดือนจะแบ่งออกเป็น 4 ตอน เดือนแรกของแต่ละตอนจะพิเศษโดยมี 31 วัน (อีก 2 เดือนที่เหลือในตอนจะมีเดือนละ 30 วัน) กำหนดวันที่ 1 มกราคมของทุกปีให้ตรงกับวันอาทิตย์ เปลี่ยนวิธีแก้ไขด้วยปีอธิกสุรทินเดิมด้วยระบบวันอธิกสุรทิน (Leapyear Day) เข้าไป 1 วัน ทั่วโลกจะต้องทำการเว้นเวลา 24 ชม.หลังวันที่ 30 มิถุนายนทิ้งไปแล้วค่อยเริ่มกลับมานับเป็นวันที่ 1 กรกฎาคมตามปกติ นอกจากนี้ยังเพิ่มวันโลก (World Day) เข้าไปทุกหลังวันที่ 30 ธันวาคมแล้วจึงค่อยนับเริ่มปีใหม่ ข้อดีของระบบปฏิทินโลกคือมนุษยชาติจะบอกลาความสับสนในการจะเพิ่มหรือลดวัน ทั้งยังสามารถพิมพ์ปฏิทินล่วงหน้าได้ยันลูกหลานบวชเพราะเดือนต่างๆในแต่ละตำแหน่งถูกปรับให้มีความเหมือนกัน (เดือนกุมภาพันธ์จะกลายเป็น 30 วัน) ปฏิทินแต่ละชุดจะแตกต่างแค่เลขปีเท่านั้น

เนื้อหาโดย: นำทาง
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
origin's profile


โพสท์โดย: origin
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
วิธีล้างผักให้สะอาดปราศจากสารพิษตกค้างจริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสีย
ตั้งกระทู้ใหม่