Ep.2 ถ้าตั้งใจเรียน
หลังจากที่ผมได้จบการศึกษา ม.ปลาย กศน. จบแบบไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านเขาเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้ผม จบการศึกษาได้รวดเร็ว ในแบบที่ผมต้องการ ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกัน จบแค่ ชั้น ม.4
ผมได้หาสถานที่ศึกษาต่อโดยระดับชั้นที่ผมเลือกก็คือ ปวส. และผมได้เลือกเรียนในส่วนที่เป็นภาคสมทบ คือเรียนแค่วันเสาร์กับวันอาทิตย์ผมรู้สึกว่าตัวผมเองเริ่มขี้เกียจในการเรียนแล้วไม่เอาแล้ว แต่ที่ผมยังต้องเรียนอยู่เพราะว่าพ่อกับแม่ตั้งความหวังไว้กับผมสูงมาก ผมก็เลยต้องเรียน และอีกอย่างหนึ่งผมคิดว่าเรียนไปมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร แค่ประคับประคองตัวเองให้มันจบ และอีกอย่างหนึ่งผมเลือกเรียนแค่วันเสาร์อาทิตย์จันทร์ถึงศุกร์ผมจะได้มีเวลาว่าง
ซึ่งในตอนนั้น เวลาว่างของเด็กต่างจังหวัดแบบผม ก็ไมได้มีอะไร ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้ทำงานที่ร้านน่ะ แต่เป็นเด็กวิ่งอะไหล่ ค่าแรงได้บ้างนิดหน่อย ในระหว่างนั้นผมก็ ทำงานไปเรียนไปแล้วจนถึงช่วงที่ผมฝึกงานงานในปีที่ 2 ผมตัดสินใจเลือกสถานที่ฝึกงานคือโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ซึ่งผมก็ได้ไปฝึกงานที่นั่น ในตำแหน่งธุรการ จนจบ พอจบทางโรงอรียนที่ผมฝึกงานก็ได้คุยกับผมว่า ถ้าจบแล้ว ทำงานที่นี่ต่อไหมเนื่องจากตำแหน่งยังว่างอยู่ผมก็เลยบอกว่าสนใจครับเพราะว่าผมก็ไม่ได้ไปที่ไหนต่อหลังจากที่จบแล้วยังไม่ได้คิดว่าจะไปเรียนต่อหรืออะไรก็อยากจะทำงานอยู่ใกล้บ้านก่อน ผมก็เลยรับปากที่จะทำงานอยู่ที่นั่นด้วยอัตราค่าจ้างไม่แพงเท่าไหร่ผมก็ทำไปเพราะมันอยู่ใกล้บ้าน
จากนั้นในปีถัดมาอายุผมเข้าปีที่ 20 ผมก็ได้รับหมายเรียก ให้เข้ารับการเกณฑ์ทหารในการเกณฑ์ทหารครั้งนั้นผมจับได้ใบแดง เป็นทหารที่ขอนแก่นสังกัด ม.พัน 14 ในตอนนั้น ถามว่าผมอยากเป็นทหารไหมตอบได้เลยครับไม่ได้อยากเป็นเลยแต่ในเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ผมก็ฝึกไปประมาณ 2 เดือนครึ่งแล้วก็ได้ขึ้นประจำกองร้อยเพื่อนๆต่างก็แยกย้ายกันไปประจำการในที่ต่างๆส่วนผมก็อยู่บนกองร้อยในฐานะที่ผมทำงานธุรการมาก่อนเขาให้ผมทำงานธุรการที่กองร้อยแล้วผมก็ทำตรงนั้นมาได้สักพัก มีนายทหารท่านหนึ่งขอให้ผมไปช่วยงานอยู่ที่บ้านแถวจังหวัดมหาสารคามในตัวเมืองผมก็ไปอยู่ที่นั่นประมาณเดือนนึงก็ช่วยเขาทำงานด้านเอกสารผมไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรแต่พอสุดท้ายผมพึ่งรู้ว่ามันคือวิทยานิพนธ์ของคุณนายนายทหารท่านนั้นก็สำเร็จแล้วผมก็ได้กลับมากองร้อย
แล้วหลังจากที่ผมกลับมากองร้อยได้แค่สัปดาห์เดียวผมก็ถูกนายทหารอีกท่านหนึ่งขอให้ไปช่วยงานพ่อกับแม่ของท่านที่เขาเป็นครูแล้วก็เป็นชาวนาด้วยให้ไปช่วยงานด้านเอกสารแต่ว่าคราวนี้จะดีกว่าตอนแรกหน่อยเพราะว่าผมได้ไปพักอยู่ที่ทุ่งนาของท่านที่เป็นทุ่งนาใกล้บ้านแล้วใกล้โรงเรียนที่พ่อกับแม่ของนายทหารท่านนี้สอนอยู่ผมก็เลยได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นสักประมาณเกือบเดือนนั่นแหละแล้วผมก็ได้กลับมาที่กองร้อย จากนั้นผมกลับมาถึงแล้วผมได้คุยกับจ่ากองร้อยขอร้องว่าผมอยากจะพักผ่อนแล้วผมอยากจะกลับบ้านไปเยี่ยมบ้านขอลากลับบ้านได้ไหมครับ เขาก็เลยถามว่าจะกลับอีกนานไหม ใกล้จะปลดแล้ว
ผมก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นผมขอกลับยาวจนปลดได้ไหมครับเดี๋ยววันปลดผมจะกลับมา จ่ากองร้อยเขาก็โอเคให้ผมไปพักที่บ้านได้รอวันปลด พอถึงวันปลดประจำการแล้วผมก็กลับเข้ามาเดินสวนสนามตามปกติแล้ววันสดก็ไม่ได้มีอะไรมากทำพิธีตามกระบวนการก็แยกย้ายกันกลับบ้านก็ลาเพื่อนๆลาครูฝึกต่างๆที่เคยอยู่ด้วยกันมันเป็นอะไรที่ที่ดีมากนะการเป็นทหารแล้วคือได้อยู่กับเพื่อนๆแบบเคยลำบากมาด้วยกันในตอนฝึกก็ไม่ได้ลำบากเท่าไหร่แต่มันเป็นชีวิตช่วงหนึ่งของลูกผู้ชายที่ครั้งหนึ่งได้ผ่านมันมามันเป็นความทรงจำที่มีค่ามากจริงๆสำหรับคนๆหนึ่งถึงแม้ว่าผมจะฝึกไม่ได้เรื่องก็ตามแต่ผมก็มีความสุขที่ผมได้อยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นผมก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อหางานทำและจากนี้จะเป็นชีวิตที่ผมเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯเป็นครั้งแรกผมไม่รู้ว่าผมจะเจอกับอะไรแต่สิ่งที่ผมรู้คือมันไม่สบายเหมือนเดิมแน่นอน.... To be.....