โรงเรียนมัธยมปลายในประเทศญี่ปุ่น
โรงเรียนในประเทศญี่ปุ่น มีทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน ซึ่ง กฎระเบียบก็จะแตกต่างกันออกไป
โรงเรียนรัฐบาล กฎระเบียบก็จะคล้ายๆของประเทศไทย
ส่วนโรงเรียนเอกชนบางที่* สามารถย้อมผมได้ รวมถึงการใส่ชุดไปรเวทไปได้เช่นกัน
ในบางโรงเรียน หากมาช้าเกิน08:30 จะต้องเข้าไปรายงานตัว และโดนหักคะแนน
ภายในโรงเรียน**
ในบริเวณทางเข้าของอาคารเรียน จะมีล็อกเกอร์สำหรับเก็บรองเท้า ซึ่ง นักเรียนทุกคนจะต้องใส่รองเท้า うわばき(uwabaki) ที่เป็นรองเท้าสำหรับใส่ภายในอาคาร
และบริเวณทางเดินในอาคารก็มีล็อกเกอร์สำหรับนักเรียนและกระดานติดประกาศต่างๆ
ภายในห้องเรียน โต๊ะเรียนจะจัดอย่างเป็นระเบียบ นักเรียนทุกคนจะได้นั่งโต๊ะเดี่ยว
ในคาบเรียน เด็กทุกคนจะตั้งใจเรียน จะไม่มีการคุยกันกับเพื่อน และจะไม่ยืมของกันหากไม่จำเป็น
และในช่วงเวลาพัก จะเป็นช่วงที่นักเรียนจะได้นั่งพูดคุยสนทนากันอย่างเต็มที่
ภายในห้องเรียน ทุกห้อง จะไม่มีแอร์หรือพัดลมเลย เนื่องด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน จึงไม่ต้องมีแอร์หรือพัดลมในห้องเรียนเหมือนประเทศไทย
บางโรงเรียนจะมีโรงยิมสำหรับเล่นกีฬาที่ใช้พื้นที่น้อย เช่น บาสเกตบอล แบตมินตัน
การเดินทาง*
เด็กนักเรียนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะชอบปั่นจักรยานมาโรงเรียนกันมากๆ แต่จะมีส่วนน้อยที่ให้ผู้ปกครองมาส่งเนื่องจากบ้านอาจจะอยู่ไกล
คาบเรียนของนักเรียนญี่ปุ่น**
ส่วนใหญ่นักเรียนมัธยมญี่ปุ่นจะเรียนวันละประมาณ6คาบ แต่จะมี1วันในสัปดาห์ทีาจะเรียน7คาบ
ส่วนใหญ่จะเรียนคาบละ50นาที โดยเวลาเริ่มเรียนจะแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน เช่นเดียวกับของไทย
ตัวอย่างตารางเรียน#
ในช่วงพักกลางวัน นักเรียนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะห่อข้าวมาเอง หรือที่เรียกว่า お弁当(bento) และจะนำมานั่งกินในห้องเรียนกับเพื่อนๆ จะมีส่วนน้อยที่จะซื้ออาหารที่โรงอาหารกิน แต่โรงอาหารก็ยังคงต้องมีข้าวขายอยู่ตลอด
ตัวอย่างเบนโตะ
##การเรียนในโรงเรียนมัธยมของญี่ปุ่น##
โรงเรียนมัธยมในญี่ปุ่น จะเริ่มปีการศึกษาในเดือนเมษายนและสิ้นสุดในเดือนมีนาคม
ช่วงปิดเทอมที่นานที่สุดคือ ช่วงปิดภาคฤดูร้อน เป็นเวลา1เดือน 10วัน ตั้งแต่ราวๆ20กรกฎาคม ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคเรียนเทอม1
**ทำไมต้องปิดภาคฤดูร้อน??
สาเหตุคือ สภาพอากาศที่ญี่ปุ่นในช่วงเดือนกรกฎาคม จนถึงกลางเดือนสิงหาคมจะร้อนมากๆ บางพื้นที่อุณหภูมิแตะถึง40องศาเซลเซียส **
นอกจากนี้ ยังมีปิดภาคฤดูหนาว ซึ่งเป็นการปิดภาคเรียนเทอม2 ตั้งแต่ ราวๆวันที่25ธันวาคม จนเลยเทศกาลปีใหม่
**ในช่วงกลางเดือนธันวาคม สภาพอากาศค่อนข้างหนาว และหิมะตกหนัก**
และสุดท้าย ปิดภาคฤดูใบไม้ผลิประมาณ10วันหลังจบเทอม3 ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
รวมจำนวนวันปิดภาคเรียนทั้งสิ้นประมาณ2เดือน
ในขณะที่โรงเรียนมัธยมของไทยส่วนใหญ่จะเริ่มปีการศึกษาใหม่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมและสิ้นสุดปีการศึกษาที่เดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างเทอมต้นกับเทอมปลายมีช่วงปิดภาคเรียน 1เดือน คือ เดือนตุลาคม เมื่อรวม1 เดือนนี้กับช่วงปิดภาคเรียนเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคมอีกครึ่งเดือนแล้ว ก็จะเท่ากับว่า ช่วงปิดภาคเรียนทั่งสิ้นประมาณ 3เดือนครึ่ง
หากนับเฉพาะวันไปโรงเรียนของเด็กมัธยมญี่ปุ่น โดยหักลบวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ออก นักเรียนญี่ปุ่นจะไปโรงเรียนราวๆ 200 วันต่อปี ในขณะที่นักเรียนไทยไปโรงเรียน 170วันต่อปี
สำหรับใครที่อยากเรียนรู้ หรืออยากลองเข้าไปในโรงเรียนญี่ปุ่นแบบสมจริง สามารถลองเล่นเกมยันเดเระซิมูเลเตอร์ ได้เลย (ดาวน์โหลดได้เฉพาะ ในคอมพิวเตอร์,โน๊ตบุ๊คเท่านั้น)
เป็นเกมส์ที่จำลองชีวิตนักเรียนมัธยมของญี่ปุ่นได้ดีมาก ใครสนใจลองหาโหลดมาเล่นได้นะคะ
คำศัพท์น่ารู้****
วิชาต่างๆ
しゃかい สังคมศึกษา
ほけんたいいく สุขศึกษา
びじゅつ ศิลปะ
えいご ภาษาอังกฤษ
れきし ประวัติศาสตร์
かていか การงาน
すうがく คณิตศาสตร์
たいいく พละศึกษา
ちり ภูมิศาสตร์
ぶっきょう พระพุทธ
りか วิทยาศาสตร์
日本ご ภาษาญี่ปุ่น
おんかく ดนตรี
ข้อมูลเรื่องของโรงเรียนในญี่ปุ่น
อ้างอิงจากหนังสือ อากิโกะ (อากิโกะโตะโทะโมะดะจิ1 ) ฉบับปรับปรุง
あきこと友だち