เรื่องเล่าสยองขวัญ : จากวง AB Normal
ประสบการณ์เรื่องหลอน จากวง AB Normal คนทุกมาพร้อมเรื่องเล่าที่ชวนขนลุกจากประสบการณ์จริง ของแต่ละคน น่ากลัวขนาดไหนไปติดตามกันเลยคะ
คนแรกที่มาเล่าเรื่องหลอน ก็คือ กวาง AB Normal ได้ตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า “จักรวาลกุมารทอง” เนื่องด้วยคุณแม่ของคุณกวางเป็นคนเลี้ยงกุมารทอง ซึ่งมีซินแซ เคยทักในวันที่ขึ้นบ้านใหม่ที่บ้าน ซินแซได้ทักคุณแม่ว่า “บ้านเธอมีเด็กวิ่งอยู่ 5-6 นะ ลองขึ้นไปดูที่ห้องพระดูนะ” คุณแม่จึงขึ้นไปตามหาดูตามที่ซินแซได้บอก และได้พบว่ามี ตุ๊กตาอยู่ในขัน 5-6 ตัว เป็นตัวเล็กๆ ผสมอยู่กับพระองค์เล็กอยู่จริงๆ หลังจากนั้นคุณแม่ก็นำมาเลี้ยงดูโดยตลอดการถวายน้ำแดง ขนม
หลังจากนั้นก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น คุณแม่เล่าว่า ที่บ้าน ได้มีการต่อเติมตกแต่งบ้าน และได้มีช่างเข้าๆ ออกๆ บ้านตลอดเวลา คุณแม่ได้ พูดสั่งกับน้องกุมารว่า “เฝ้าบ้านดีๆ นะ อย่าให้ของในบ้านหายน่า” ปรากฏว่า พระหาย เป็นพระพุทธรูปหายไปจากบ้าน คุณแม่โมโหเลยไปโวยกับน้องกุมารว่า “ทำไมไม่ดูแลบ้าน อุส่าเลี้ยงน้ำดงน้ำแดงให้แล้วนะ ทำไมไม่ทำตามที่ตกลง” หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีผู้รับเหมานำพระมาคืนที่เดิม และบอกว่ามีลูกน้องได้หยิบไป แต่ไม่ได้บอกว่า ลูกน้องคนนั้นได้เจออะไรหรือไม่ แต่ได้นำกลับมาคืนไว้ที่เดิมแล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่แปลก หลังจากที่คุณแม่ได้พระคืนแล้วจึงได้ไปพูดขอบคุณน้องกุมาร และได้ถวายของเล่นเป็นของตอบแทน
นอกจากนี้ยังมีคนพบเจอน้องกุมารอีก คนถัดมาที่เจอ ก็คือ พี่โอ่ง สมาชิกของวง AB Normal อีกท่านหนึ่งที่ได้เคยไปนอนที่บ้าน กวาง AB Normal ก็เคยพบเจอเหมือนกัน
คุณกวาง ยังเล่าต่อว่า ยังเคยมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง ตอนนั้น ผมป่วยจนต้องแอดมินนอนโรงพยาบาล คุณหวานไปทำงานเลยไม่สะดวกที่จะมาเฝ้าไข้คืนนั้น เลยต้องให้ผู้จัดการมาเฝ้าแทน
คืนนั้น ผู้จัดการนอนไม่พูดจาอะไร แต่พอถึงตอนเช้าพร้อมจะออกจากโรงพยาบาลทันที เมื่อคุณหวานมาเปลี่ยนกะตอนเช้า ผู้จัดการเลยเล่าให้ฟังว่า “เมื่อคืน ผมฝัน เห็นเป็นเด็ก 2 คน นั่งอยู่บนเตียงพี่กวาง แล้วนั่งเล่นอะไรไม่รู้จุกจิกจุกจิกกันไม่รู้ ผมเลยบอกว่า เบาๆ พี่กวางนอนอยู่” เด็กทั้งสองคนนั้นก็หันหน้ามามองผม เหมือนจะทำหน้าดุ แล้วแลบลิ้นใส่ “แฮ่” เหมือนเด็กที่แกล้งหยอก หลังจากนั้น “ผมก็ตกใจตื่นเลย และไม่ได้นอนต่ออีก จนคุณหวานมาเปลี่ยนนี่แระครับ” แต่คุณหวานไม่เคยพบเจอเลย คุณกวางคาดว่า คุณแม่น่าจะส่งน้องกุมารมาดูแลตนเอง มากกว่า
เรื่องต่อไปเป็นเรื่องจากคุณเก่ง มือเบสของวง คุณเก่งเล่าว่า ครั้งหนึ่งเคยไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัดร่วมกับวงอื่นอีกหลายวง ซึ่งตนเองได้แซวเพื่อนๆ วงอื่นว่า “คืนนี้มึงเจอแน่ๆ มึงโดนแน่ๆ” ที่ไปนอนโรงแรมแห่งนี้ในจังหวัดนั้น เพราะเคยฟังเรื่องเล่ามาก่อนน่านี้ว่าโรงแรมนี้ผีดุมาก แต่ตัวเองไม่ได้นอนที่นั้น แต่ได้ไปนอนอีกที่หนึ่ง ที่รู้สึกโอเคกว่า แต่พอลองสำรวจ บ้านพักที่ตนเองจะนอนคืนนั้น พอเปิดระเบียงไป ก็จะตรงกับทางสามแพร่ง อีก คุณเก่งจึงได้พูดกับเพื่อนที่จะนอนพักร่วมกันประมาณ 3-4 คนนั้นว่า “ยังไงบ้านนี้ก็มีแน่แน่”
หลังจากนั้นไม่ได้คิดอะไรก็ไปทำงานปกติ เล่นคอนเสิร์ตเสร็จกลับมานอนพักที่ห้อง แต่คืนนั้นจู่จู่ก็สะดุ้งตื่นมากลางดึก คุณเก่งเล่าว่า “ผมลืมตาเหมือนมีคนกดสวิตซ์ไฟเปิดแบบนั้นเลย แต่ในห้องคือมืดมาก แต่ก็ยังมีแสงไฟจากริมทางที่สาดเข้ามาในห้องพอเห็นสลวนๆ ผมเห็นผู้ชายรูปร่างโปร่งแสง เดินมาจากระเบียง แล้วมาหยุดที่ปลายเท้าผม แล้วก็นั่งโก้งโค้งนั่งจองผมอยู่ แต่ผมขยับตัวได้นะ ผมก็พยายามหยิกเพื่อนที่นอนข้างกันให้ตื่น พยายามเท่าไรก็ไม่ยอมตื่น จนชายคนนั้น ลุกขึ้นยืน แล้วเดินทะลุเข้าไปทางห้องน้ำ แล้วก็หายไป”
หลังจากนั้น เพื่อนที่ตนพยายามปลุก ก็ลุกขึ้นมาถามว่า “พี่ปลุกผมทำไม” คุณแจ็คสายสิญจน์ ก็พูดเสริมว่า “นี่แระฮะ จะเป็นอาการของคนที่จะเจอผี จากสถิติที่ผมฟังมา” คุณเก่งบอกว่า “นี่แระคับ เป็นเหตุการณ์ที่ชัดที่สุด เท่าที่เคยเจอมาคับ”
แถมให้อีกหนึ่งเรื่องจาก คุณโอ่ง มือกีต้าร์ เล่าว่า “เรื่องของผมจะโกอินเตอร์หน่อยนะคับ เพราะผมไปเจอมาที่ประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนากาโน ไปดูธรรมชาติ มีลิงแช่น้ำร้อน และได้ไปพักที่ เรียวกังเก่าแก มีออนเซนอยู่ตรงกลางของที่พัก หลังจากนั้นเจ้าของที่พักได้พาไปแนะนำสถานที่พักตามปกติ ซึ่งตอนนั้นเป็นฤดูหนาว อากาศเย็นมาก และที่พักก็ไม่ค่อยมีคนพุงพลานมาก สไตล์แบบเงียบๆ คืนแรกก็ผ่านไปตามปกติ ไม่ได้เกิดเหตุการณ์อะไร แต่พอเข้าคืนที่สองอากาศคืนหนาวมาก ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นก็จะมีโต๊ะแล้วก็มีผ้าห่มหนาๆ ที่อยู่ใต้โต๊ะไว้ให้เอาขาสอดเข้าไปเพื่อกันหนาว แล้วพอมองขึ้นไปก็จะมีดวงไฟอยู่ตรงกลางห้อง ดวงเดียวเลยถ้าผมจำไม่ผิด ผมก็นอนต่อ แต่ก่อนที่จะนอนเนี่ย! ผมรู้สึกหนาวมาก ผมเลยเอาผ้ามาห่อตัว แล้วมองขึ้นไปบนเพดาน ปรากฎว่า ดวงไฟที่ผมเห็นกลายเป็นหน้าเด็ก ชัดมาก แว็บแรกที่เห็นคือ ตกใจ ผมเลยพยายามเพ่ง หน้าเด็กคนนั้น เค้าไม่ได้มองหน้าดุ แต่ทำหน้านิ่งๆ ผมเลยสะกิดคนข้างๆ แต่ก็ไม่ตื่น ผมเลยทำอะไรไม่ถูก ผมเลยสวด นะโมตัสสะ และนึกถึงเทวรูปของญี่ปุ่น ทำให้เหมือนหน้าของเด็กคนนั้น จะคลายหายไปนิดนึง แต่ก็ไม่หาย แต่เหมือนเด็กคนนั้นจะส่งกระแสจิตบอกให้ผมเอาตัวสอดเข้าไปในผ้าห่มนั่นสิ และด้วยวินาทีนั้นผมก็ทำตาม ด้วยความตกใจด้วยและด้วยความงง เลยลองเอาตัวสอดเข้าไป ปรากฎว่า ร่างกายสบายขึ้น อุ่นขึ้น ไม่ต้องพลิกไปพลิกมา แล้วเด็กคนนั้นก็หายไปแบบดื้อๆ เลย เหมือนเค้ามาแนะนำประมาณนั้น หลังจากนั้นทราบว่า เด็กผีที่เห็นมีชื่อด้วย ทราบจากแฟนพี่เก่งที่อยู่ญี่ปุ่น เค้าจะเรียกเด็กผีแบบนี้ว่า “ชากิฮาราชิ” จะเป็นผีเด็กที่อยู่บ้านในเรียวกัง”
สามเรื่องเล่าจาก 3 สมาชิกจากวง AB Normal ยังกล้าไปนอนที่ไหนหรือป่าว ระวังนะคะ อาจจะมีใครมายืนบนหัวเตียงนอนก็เป็นได้ อย่าหาว่าแอดไม่เตือนนะบึ๋ย