มองการเมืองของคนรุ่นใหม่
การเมืองของประเทศที่เจริญแล้ว ที่เขามีประชาธิปไตยแบบแท้จริง ทุกสิ่งตรวจสอบได้
อย่างโปร่งใส รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศอย่างแท้จริง และแน่นอนว่าประเทศมีประธานาธิบดี มาดำรงตำแหน่งผู้นำทางการเมืองสูงสุด ยกตัวอย่างก็สหรัฐอเมริกา ทหารไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ไม่มีการแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งศาล ผู้พิพากษา การเมืองแบบประเทศที่เจริญแล้วที่เขาสนใจและดูแลประชาชนเป็นอย่างดี และสนใจเสียงของ ประชาชนในประเทศ ทำผิดก็น้อมรับและขอโทษประชาชนแบบตรงไปตรงมา คิดถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน
มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว คิดถึงคนชายขอบ ดูแลคนในประเทศอย่างดีที่สุดและบริการสาธารณะครอบคลุมทั่ว ประเทศและทุกชนชั้น ให้สัญชาติแก่คนชายขอบทางภูมิศาสตร์ ให้เขาได้มีสิทธิ์ในการเข้าถึงบริการของรัฐ”
จากการให้คำนิยามถึงการเมืองในทัศนคติที่หลายคนพูดถึงและต้องการคือ การเมืองแบบที่เป็น ประชาธิปไตย ต้องการที่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดและศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ ต้องการให้ทุกคนอยู่ ภายใต้กฎหมายนี้และเคารพสิทธิซึ่งกันและกันมากขึ้นเพราะการอยู่ภายใต้การปกครองแบบประชาธิปไตยคือการ
ยอมรับฟังเสียงส่วนน้อยเช่นกันไม่มีใครเห็นพ้องต้องกันไปซะทุกอย่างหรือทุกเรื่องจึงต้องการให้เกิดการเคารพสิทธิ ซึ่งกันและกัน การเจรจาอย่างสันติ การทำงานบริหารการเมืองอย่างสุจริต ตรวจสอบได้มีความโปร่งใสและ ต้องการให้คนที่เข้ามาทำงานบริหาร ณ ตรงนี้ มีความสามารถจริงๆ ที่จะเข้ามาทำไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้และมีการพูดถึงระบบอุปถัมภ์ที่มีอยู่ในระบบของการเมือง ต้องการให้หมดไปเพราะมองว่าการเข้ามาทำงานตรงนี้ควรมาจาก ความสามารถและการเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมา สุจริตอย่างแท้จริงพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้เสมอพวกเขาเชื่อว่า การมีสิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศพัฒนาไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้คือ ถ้าการเมืองดีชีวิตความเป็นอยู่ของทุก คนจะดีตามไปด้วยได้มีนโยบายดีๆ สวัสดิการดีๆ มีสาธารณูปโภคดีๆ การขนส่งคมนาคมที่ดี ทุกอย่างจะดีขึ้นหากมี การบริหารจัดการที่ถูกต้องทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีควรเริ่มจากการตระหนักรู้ถึงสิทธิของตนว่ามีอะไรบ้างทำอะไรได้ บ้างสุดท้ายแล้วประเทศจะขับเคลื่อนไปโดยภาษีประชาชนที่ทุกคนต้องจ่ายทุกปีแต่แล้วทำไมเราจะไม่มีสิทธิ์ในการ เรียกร้องสิ่งที่ควรได้.





















