10 พ่อมดในโลกแห่งความจริง / Top 10 Real Life Wizards of The World

หากพูดถึงพ่อมด หลายคนคงนึกถึงเมอลิน จอมขมังเวทย์ที่มีเรื่องราว แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็มีพ่อมด เพียงแต่ไม่ใช่พ่อมดที่มีพลังเหนือธรรมชาติ จอมขมังเวทย์ แต่ก็น่าสนใจที่เขาทำสิ่งที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา
อย่างเราจะเข้าใจ ด้วยศาสตร์มหัศจรรย์มากมายจนเรียกว่าลึกลับไม่แพ้พ่อมดในนิยายเลย และนี่คือ 10 พ่อมดที่มีตัวตนอยู่จริง

10. Nicholas Flamel นิโคลัส เฟลมเมล
นักวิชาการ นักเขียนและนักเล่นแร่แปรธาตุชาวฝรั่งเศส นักประวัติศาสตร์เขียนว่าเฟลมเมลหลงใหลในศาสตร์มืด ขณะเดินทางไปซานเตียโก เด กอมโปสเตลา หลังจากนั้นเฟลมเมลและภรรยาก็ร่ำรวยมหาศาล
ทำให้เชื่อว่าเขาเป็นพ่อมด แก่นชื่อเสียงของFlamelก็คือ เขาประสบความสำเร็จในการเล่นแร่แปรธาตุ คือ เขาสามารถประดิษฐ์ศิลานักปราชญ์ ซึ่งเปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทอง และว่าเขากับภรรยา บรรลุความเป็นอมตะโดยการดื่มยาอายุวัฒนะ
Flamelเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1418 แต่มีเรื่องเล่าว่าครั้งที่ขุดหลุมศพและเปิดโลงของเขาออกนั้น ปรากฏว่าโลงนั้นว่างเปล่า ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนอยากได้ศิลานักปราชญ์มาครอบครอง
เงื่อนงำสุดท้ายของเขาก็คือหนังสือลึกลับที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์เล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งเชื่อกันว่าเนื้อหาคือกาสร้างศิลานักปราชญ์

9. Hayyim Samuel Jacob Falk ฮายยิม ซามูเอล จาค็อบ ฟอล์ค
เกิดในเยอรมนีในปี 1708 แต่หนีไปลอนดอนในปี 1940 เพราะถูกกล่าวหาใช้เวทมนต์และอาจถูกเผาทั้งเป็น ฟอล์คเป็นที่รู้จักในทันทีว่าบาอัลเชมแห่งลอนดอน เนื่องจากทักษะลึกลับ เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของด้วยความคิด
และครั้งหนึ่งเขาเคยเติมถ่านหินในห้องใต้ดินโดยใช้คาถาไม่กี่คำ มีการกล่าวด้วยว่ารับบีช่วยโบสถ์ยิวในลอนดอนจากการถูกเพลิงไหม้ โดยการเขียนคำในภาษาฮีบรูสองสามคำไว้บนเสา เขายังมอบแหวนเวทย์มนตร์ให้กับดยุคแห่งออร์ลีนส์
เพื่อส่งเสริงการสืบทอดราชบัลลังก์ แหวนถูกส่งมอบให้กับบุตรชาย ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นกษัตริย์ หลุยส์ ฟิลิปป์ Louis Philippe แห่งฝรั่งเศส

8. Paracelsus แพราเซลซัส
เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ นักเล่นแร่แปรธาตุ นักเทววิทยาและนักปรัชญาชาวสวิส ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาเยอรมัน ผู้กำหนดกฎแห่งพิษวิทยา และถูกขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งวิชาพิษวิทยา พาราเซลซัสยังเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับธาตุสังกะสี
โดยให้ชื่อว่า zincum ที่มาจากศัพท์เยอรมันที่แปลว่าแหลมคมตามรูปร่างของตัวผลึกสังกะสี อีกทั้งเขายังเป็นผู้ริเริ่มนำสารเคมีและแร่ธาตุมาใช้เป็นยารักษาโรค
และมองว่าโรคภัยไข้เจ็บและสุขภาพนั้นขึ้นอยู่กับความลงตัวของมนุษย์และธรรมชาติ ที่มนุษย์ต้องอยู่ในสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย และอาการเจ็บป่วยบางประการของร่างกายก็สามารถรักษาให้หายได้ด้วยสารเคมี

7. Papus ปาปุส
ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม Gerard Encausse แพทย์และไสยศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาคับบาลาห์ นิกายหนึ่งของศาสนายิว หรือศาสนายูดาย มีแนวคิดลึกลับมาแต่โบราณอันมีจดหมายเพื่อ
เชื่อมโยงจักรวาลเข้ากับพระเจ้าซึ่งเป็นหนทางที่จะบรรลุฝ่ายจิตวิญญาณ โดยเขาได้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับศิลปะมืดที่เขาฝึกฝนเป็นประจำ ในปี 1888 Papus ได้ก่อตั้งกลุ่มลึกลับชื่อ Kabbalistic Order of the Rose-Croix และสมาชิกองกรณ์เวทมนตร์อื่นๆอีกมากมาย
ช่วงปี 1900 เขาไปเยือนรัสเซียสามครั้งเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับ Tsar Nicholas II และบอกด้วยว่า Tsar จะยังคงมีอำนาจอยู่ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อ Papus เสียชีวิต 141 วันต่อมา Nicholas II ก็ถูกโค่นบัลลังก์

6. Hugh Draper ฮิวจ์ เดรเปอร์
ในช่วงทศวรรษที่ 1500 มีชายคนหนึ่งชื่อ Hugh Draper หรือ Hew Draper ผู้ดูแลโรงแรมที่ร่ำรวยในเมือง Bristol ต่อมาถูกจับและถูกคุมในใน Tower of London
ด้วยข้อหาใช้เวทมนตร์เพื่อทำร้ายวิลเลียม เซนต์ โลว์และภรรยา ซึ่ง Hew ยอมรับว่าเขาเคยคลั่งไคล้ในเวทมนตร์มาก่อน แต่เขาได้เผาหนังสือและเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ทั้งหมดไปแล้ว ระหว่างที่เขาถูกคุมขัง
อยู่ในหอคอยเกลือ เขาได้แกะสลักภาพวาดบนผนัง เป็นลูกโลก ลวดลายทางโหราศาสตร์และจักรราศี อย่างละเอียดซับซ้อน แสดงให้เห็นทั้งความแม่นยำทางภูมิศาสตร์ ที่ทำเอาทุกคนประหลาดใจ ซึ่งนั้นเขาก็ได้เขียนชื่อและวันที่
– 30 พฤษภาคม 1561 ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเลือกวันนั้น แต่เมื่อถึงวันดังกล่าวเขาก็หายตัวไป อย่างไร้ร่องรอย ไม่ปรากฎหลักฐานว่าเขาหนีหรือไม่ตายในคุก ผู้คนต่างเลยเชื่อว่าเขาเป็นพ่อมด

5. Cornelius Agrippa คอร์นีเลียส อากริปปา
จอมเวทย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เชี่ยวชาญหลายด้าน Agrippa เป็นนักเขียนที่โดดเด่น เขาเขียนหนังสือสองสามเล่มเกี่ยวกับการทำงานและการใช้งานเกี่ยวกับศาสตร์มืด หนังสือที่มีชื่อเสียงที่สุดเล่มหนึ่งคือ
หนังสือสามปรัชญาลึกลับ หนังสือที่ศึกษาเวทย์มนตร์สามระดับ เวทมนตร์ธรรมชาติหรือการเล่นแร่แปรธาตุ ดาราศาสตร์ และเวทมนตร์เสียงหรือการเรียกวิญญาณ เขาเชื่อและเขียนว่าเวทมนตร์ทั้งหมดมีรากฐานมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่า Agrippa จะเป็นพ่อมดที่ทรงพลัง แต่ในที่สุดเมื่อราวปีทศวรรษที่ 1530 เขามั่นใจว่าการศึกษาและเชื่อในไสยศาสตร์จะพาเขาไปนรก และยังเตือนผู้อ่านในหนังสือเล่มล่าสุด เกี่ยวกับการใช้พลังเหล่านี้
ในปี 1535 ถูกประณามว่าเป็นพวกนอกรีตโดยผู้สอบสวนแห่งโคโลญจน์ ทำให้เขาต้องหนีออกมา และก็ล้มป่วยจนเสียชีวิต

4. John Dee จอห์น ดี
นักปรัชญา โหราจารย์ และนักเล่นแร่แปรธาตุชาวอังกฤษ และที่ปรึกษาของคลีวเอลิซาเบธที่ 1 โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นแร่แปรธาตุ การทำนายและปรัชญาลึกลับ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเมือง
ดีสนับสนุนการก่อตั้งอาณานิคมเพื่อสร้าง " จักรวรรดิอังกฤษ" ในปี ค.ศ. 1564 Dee ได้เขียนงาน Hermetic Monas Hieroglyphica ซึ่งเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ลึกลับ ที่หมายถึงการสร้างความสามัคคีอันลึกลับ
ดีพยายามติดต่อกับโลกแห่งวิญญาณ และมองหาวิธีเชื่อมต่อกับวิญญาณ ตอนนั้นเองที่ Dee ได้พบกับ Edward Talbot (ภายหลังเป็นที่รู้จักในนาม Edward Kelley) จนเป็นคู่หูที่สนิทกัน
และทั้งคู่เดินทางไปทั่วยุโรปเพื่อแสดงทักษะเวทย์มนตร์ต่อราชวงศ์ ในปี ค.ศ. 1587 Edward บอก Dee ว่าเขาได้ติดต่อกับ "เทวดา" และบอกว่าเขาทั้งคู่ต้องแบ่งสมบัติและภรรยากัน
Dee ได้ยินดังนั้นจึงหนีจาก Edward และกลับไปอังกฤษ และกลายเป็นผู้คุมในแมนเชสเตอร์

3. Edward Talbot เอ็ดเวิร์ด ทัลบอต
รู้จักในชื่อเอ็ดเวิร์ด เคลลีย์ เป็นเพื่อนสนิทกับ จอห์น ดี ทั้งคู่ใช้เวลาสองสามปีในยุโรปเพื่อแสดงทักษะเวทย์มนตร์ เชื่อกันว่าเคลลี่ได้สร้างเอโนเชียน (ตัวอักษรวิเศษ)
และยังอ้างว่าเขาใช้ลูกแก้วคริสตัลเพื่อพูดคุยกับวิญญาณด้วย Kelley เป็นผู้เชื่อในการเล่นแร่แปรธาตุ เขาค้นพบหนังสือเวทย์มนตร์ในยุค 1580 ที่เรียกว่า หนังสือดันสตัน "Book of Dunstan"
หนังสือเล่มนี้มีคาถาที่สามารถเปลี่ยนโลหะให้เป็นทองคำได้โดยใช้ผงสีแดงวิเศษ เมื่อ Dee และ Kelley แยกทางกัน เขายังคงอยู่ในยุโรปและทำงานเล่นแร่แปรธาตุต่อไป และทำงานให้กับ วิเลี่ยม โรเซนเบิร์ก Vilem Rozmberk
เคานต์ชาวโบฮีเมียน จนมีชีวิตหรูหรา ในปี 1590 กษัตริย์รูดอล์ฟที่ 2 ได้แต่งตั้งให้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ น่าเศร้าที่เขาถูกจับกุม โดยข่าวลือบอกว่าเป็นเพราะกษัตริย์ต้องการให้เขาเปลี่ยนโลหะเป็นทองคำให้กับเขาแต่งเพียงผู้เดียว

2. Eliphas Levi เอลิฟาส เลวี
หรือ อัลฟองส์ หลุยส์ ในภาษาฮีบรู นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส กวี และผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์คับบาลาห์ การศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุและไสยเวทมากกว่า 20 เล่ม เขาเป็นนักบวชในคริสตจักรคาทอลิก
จนเมื่อเขาได้พบกับ Edward Bulwer-Lytton ในปี 1853 นักเขียนที่แนะนำเลวี ให้รู้จักกับโรซิครูเซี่ยน Rosicrucianism (สมาคมเวทย์มนตร์ลับในยุคกลางของเยอรมนี)
ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือการนำหลักการพื้นฐานสามประการของเวทมนตร์มาใช้ในยุควิกตอเรีย
จิตตานุภาพของมนุษย์สามารถบรรลุผลสำเร็จทั้งแบบปกติและปาฏิหาริย์
สิ่งที่เราเห็นในจักรวาลวัตถุเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเป็นจริงและการที่มนุษย์เป็นภาพสะท้อนของเอกภพในระดับเล็กๆ และเชื่อมโยงกัน หากพวกเขากระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อีกสิ่งหนึ่งก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน

1. Aleister Crowley อลีสเตอร์ โครลีย์
ได้ชื่อว่าเป็น “คนที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก” เขาเป็นนักไสยเวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้เกิดในครอบครัวร่ำรวย จบการศึกษาจากเคมบริดจ์ ในสาขาปรัชญาและวรรณกรรม แล้วหันมาสนใจศึกษาเวทมนต์และไสยศาสตร์
โครลีย์ ได้เดินทางไปทั่วเพื่อศึกษาเวทมนต์ รับความเชื่อทางอิทธิพลหลากหลายทั้งจากอียิปต์ ฮินดู พุทธ ในที่สุดเขาก็ได้ตั้งลัทธิทีเลมา Thelema การนำความเชื่อจากศาสนาเก่าแก่ของไอยคุปต์โบราณมาประยุกต์
โดยระบุว่าตัวเองเป็นผู้เผยพระวจนะ ที่ได้ รับมอบหมายให้นำทางมนุษยชาติไปสู่ อิออน of Horus ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แม้ว่าโครลีย์จะเป็นคนดังแต่ชื่อเสียงส่วนใหญ่ของเขาเป็นเรื่องไม่ดี เช่น การเล่นยา
รักร่วมเพศ วิจารณ์สังคม คนสติไม่ดี แต่คนทั่วไปมองว่าเขาเป็นพวกบูชาซาตาน ทำให้หนังสือพิมพ์กล่าวถึงเขาในแง่ร้าย ฐานะคนชั่วร้ายที่สุดในโลก จนถึงปัจจุบัน