แปะจี้ สมุนไพรจีนสรรพคุณยามากมาย..รากและใบของพืชมีกลิ่นหอมมาก รากมีกลิ่นหอมคล้ายกับแคร์รอตป่า
แปะจี้ สมุนไพรจีนสรรพคุณยามากมาย..รากและใบของพืชมีกลิ่นหอมมาก รากมีกลิ่นหอมคล้ายกับแคร์รอตป่า
วันนี้เรามีสมุนไพรจีนแปลกๆมานำเสนอสมุนไพรตัวนี้ชื่อว่าแปะจี้ สมุนไพรต่างๆถ้ารู้จักใช้มันก็มีประโยชน์นะครับแล้วก็มีทั้งโทษทุกสิ่งทุกอย่างมันมีประโยชน์และมีโทษมีพิษควบคู่กันไปมันขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะนำไปใช้ในลักษณะไหน...
🌿แปะจี้ในภาษาจีนแต้จิ๋ว หรือ ไป๋จื่อในภาษาจีนกลาง (จีน: 白芷; พินอิน: bái zhǐ;) ชื่อวิทยาศาสตร์: Angelica dahurica) อยู่ในวงศ์ผักชี (Apiaceae) เป็นพืชท้องถิ่นใน ไซบีเรีย ตะวันออกไกลของรัสเซีย มองโกเลีย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และ ไต้หวัน รากภายนอกเป็นสีเทาขาวหรือสีเหลืองขาว ด้านในสีขาวรากใช้เป็นยาแก้ปวดบวม ไข้หวัด
👉🏿🌿ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้ต้นขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 1–2.5 เมตร พืชมักมีรากกลมสีน้ำตาล หนาประมาณ 2–5 เซนติเมตร ลำต้นมีสีเขียวอมม่วง มีลายนูน และมักมีเส้นผ่านศูนย์กลางหนา 2-8 เซนติเมตร
👉🏿ในปีแรกต้น
จี้ยังคงสภาพเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก พุ่มสูงไม่เกิน 75 เซนติเมตร เดิบโดได้ดีในดินที่อุดมสมบูรณ์ ลำต้นออกสีม่วงแดงเข้มที่โคนต้น เมื่ออายุสองหรือสามปี เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นมีขนาด 2.5 เซนติเมตร กลวงเป็นโพรงตรงกลางและแข็ง สูงได้ 2.5 เมตร
🌿ใบประกอบแบบขนนก ซับซ้อน ยาว 25–50 เซนติเมตร กว้าง 25–40 เซนติเมตร ใบย่อย ยาว 4–10 เซนติเมตร กว้าง 1–4 เซนติเมตร
👉🏿ดอกไม้สีขาว โคนดอกเขียว ช่อดอกบานกว้างมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 30 เซนติเมตร ดอกกะเทย ผสมเกสรด้วยแมลง อาจผสมเกสรด้วยตัวเอง ออกดอกในฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม หรืออาจถึงกันยายน
เมื่อดอกแก่ ช่อดอกเปลี่ยนช่อเมล็ด กลายเป็นสีน้ำตาลและมีลักษณะเป็นแผ่น ๆ เมื่อแก่ ออกผลตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม
👉🏿รากและใบของพืชมีกลิ่นหอมมาก รากมีกลิ่นหอมคล้ายกับแคร์รอตป่า (Daucus carota) และรสขมฉุน
ถิ่นกำเนิดและการแพร่กระจายพันธุ์
แปะจี้ (A. dahurica) เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออก เช่น ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และบางส่วนของไซบีเรีย เจริญได้ดีที่ความสูง 500–1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนพื้นที่ป่าโปร่ง หรือพื้นที่เปิดแดดส่องถึงระหว่างยอดไม้สูง และใน ทุ่งหญ้า เพาะปลูกมากในประเทศจีนเพื่อเป็นยาแผนจีน เช่น พันธุ์ปลูก A. dahurica var. dahurica และ A. dahurica var. formosana
👉🏿🙄พิษ
นอกจากสรรพคุณทางยาของพืชชนิดนี้แล้ว แปะจี้นี้ยังประกอบด้วย furocoumarins ซึ่งทำให้ผิวหนังเพิ่มความไวต่อแสงแดดและอาจชักนำให้เกิดโรคผิวหนังบางอย่างได้ สารประกอบอีกชนิดหนึ่งคือ angelicotoxin เป็นสารออกฤทธิ์พบในราก
ซึ่งมีผลกระตุ้นต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาทส่วนกลาง และระบบหลอดเลือดของร่างกาย โดยมีผลเพิ่มอัตราการหายใจ ความดันโลหิต ลดอัตราชีพจร เพิ่มการผลิตน้ำลาย และกระตุ้นให้อาเจียน หากบริโภคในปริมาณมากสารพิษ angelicotoxin สามารถทำให้เกิดอาการชักและเป็นอัมพาตได้
👴ก่อนจะจบบทความนี้ผมก็มีคลิปวีดีโอมาประกอบให้ชมเพื่อความเข้าใจในสมุนไพรลักษณะนี้.....
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันมีทั้งคุณและโทษควบคู่กันไปนะครับไม่ว่าจะสมุนไพรหรือว่ายาฝรั่งมันก็แล้วแต่...เราจะนำมาใช้นะครับ.....ทางที่ดีเราควรรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงสมบูรณ์ดีกว่าครับ...การปลอดภัยจากโรคต่างคือลาภอันประเสริฐที่แท้จริงสำหรับมนุษย์ครับ
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดียแปะจี้,google และ YouTube