หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แอบรักลุงข้างบ้าน ตอน6

เนื้อหาโดย wvalai

ตอนที่ 6

บ้านน้อยกลางฝน

 

 

รุ้งขวัญไม่ได้มาเที่ยวเล่นและกวนประสาทคุณลุงเป็นเวลาหลายอาทิตย์ เพราะติดกิจกรรมรับน้องใหม่ ที่ทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงและหลับเป็นตายทุกครั้งเมื่อหัวถึงหมอน

เมื่อวิถีชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเริ่มกลับเข้าสู่การเรียนการสอนตามปกติ เธอจึงแวะเวียนมาที่นี่อีกครั้งโดยเส้นทางเดิม แต่นึกแปลกใจที่สายจนป่านนี้แล้ว คุณลุงยังไม่ยอมออกมารดน้ำแปลงผักที่เคยทำเป็นประจำเหมือนเช่นเคย

เธออ้อมไปหาที่บ้านและต้องตกใจกับภาพของชายสูงวัยที่นอนฟุบคว่ำหน้าคาประตู ท่าทางเหมือนกำลังคลานออกมาจากห้อง

        “คุณลุงคะคุณลุง! คุณลุงเป็นอะไรไป?” วิ่งเข้าไปประคองเพื่อนบ้านนอนหงาย

        “คุณหนู ลุง...ปวด...ท้อง...โอย...”

        “ปวดท้องหรือคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”

เขาไม่ตอบ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเหมือนทรมานมาก เหงื่อซึมตามหน้าผาก เอามือกุมหน้าท้องของตนไว้ตลอด

        “คุณลุงอดทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวหนูจะพาไปโรงพยาบาล” 

สาวน้อยวิ่งหน้าตาตื่นเข้าทางประตูหน้าบ้าน และตรงดิ่งขึ้นไปยังห้องนอนของตน หยิบโทรศัพท์มือถือหาเบอร์แท็กซี่ที่เคยบันทึกไว้เผื่อฉุกเฉิน แล้วคว้ากระเป๋าสตางค์กับกระเป๋าสะพายวิ่งกลับไปบ้านข้าง ๆ

        “คุณลุงมีเอกสารหรือบัตรประจำตัวอะไรรึเปล่าคะ?” 

เจ้าของบ้านยกมือชี้ไปที่ถุงย่ามห้อยข้างฝา เธอค้นได้บัตรประชาชนมาก็จับยัดใส่กระเป๋าสะพายของตนแล้วพยุงชายสูงวัยออกไปรอรถแท็กซี่ และเป็นเมฆาเองที่เปิดประตูรถออกมาช่วยประคองลูกค้าที่คาดไม่ถึงไปนั่งยังเบาะหลัง พร้อมถามด้วยอาการตื่นตระหนกไม่แพ้กัน

        “ลูกพี่! ลูกพี่เป็นอะไรไป?”

 

ระหว่างที่ยื่นเอกสารและรอซักประวัติ อาการของลุงหนูค่อยทุเลาลงแล้วแต่ใบหน้ายังซีดเซียวอยู่ เมื่อถึงเวลาตรวจรุ้งขวัญก็ช่วยประคองมิตรข้างบ้านเข้าไป พลอยทำให้คุณหมอข้างในเข้าใจผิดว่าเธอเป็นลูกสาวของคนป่วย

        “คนมีอายุมากมักจะมีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหาร ให้ดูแลเรื่องการทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่เครียด ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือนอนพักหลังทานข้าวอิ่มใหม่ ๆ ทานยาที่หมอสั่งให้ครบก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะครับ เดี๋ยวเอานี่ไปยื่นให้พยาบาลที่อยู่ข้างหน้า รอรับยาแล้วก็พาคุณพ่อกลับบ้านได้เลย”

ทั้งคู่พากันออกมาโดยไม่โต้แย้งแก้ไขความเข้าใจผิดแม้แต่น้อย เพราะเห็นว่ามันไม่ใช่ธุระอะไร เมื่อพยาบาลสอบถามเพิ่มเติมเธอก็สวมรอยว่าเป็นลูกสาวของเขาไปตามนั้น เสร็จธุระก็พากันเดินออกมาเห็นว่าเมฆายังอยู่รอไม่ไปไหน

        “เป็นอย่างไรบ้างพี่?”

        “ไม่เป็นไรแล้วแค่โรคกระเพาะธรรมดา”

        “แน่ใจนะว่าแค่โรคกระเพาะเฉย ๆ ตรวจดูละเอียดดีแล้วใช่ไหม? เผื่อเป็นโรคร้ายแรงอะไรจะได้รักษาทัน”

        “นี่แกแช่งฉันรึไง บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ”

        “ก็คนมันเป็นห่วงนี่นา”

รุ้งขวัญนั่งฟังผู้ใหญ่สองคนคุยกันเงียบ ๆ ตลอดทาง รู้สึกถึงความห่วงใยและความสนิทสนมกันเป็นอย่างดีจึงนึกแปลกใจ เพราะเคยคิดว่าชายสูงวัยอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อนฝูงและคบหาสมาคมกับใครที่ไหน

        “เดี๋ยวหนูไปทำข้าวต้มให้นะคะ คุณลุงจะได้ทานยา”

เธอบอกเมื่อรถจอดสนิทที่ประตูหน้าบ้านตน เมฆาจึงช่วยประคองรุ่นพี่เดินผ่านไปยังดงกล้วยที่อยู่ถัดไป และยืนสำรวจมองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ

        “พี่อยู่ที่นี่คนเดียวหรือ?”

        “ใช่”

        “แล้วแม่สาวน้อยเมื่อกี้ล่ะ?”

        “เพื่อนบ้านน่ะ”

ตอบสั้น ๆ พร้อมไล่รุ่นน้องกลับเพราะกลัวเขาจะถามอะไรมากไปกว่านี้

        “กลับไปทำงานเถอะ เสียเวลามาหลายชั่วโมงแล้ว ขอบใจมากที่มาส่ง”

        “งั้นวันนี้ผมกลับก่อนละกัน วันหลังผมจะมาเยี่ยมใหม่ ดูแลสุขภาพตัวเองดี ๆ นะครับ”

รุ่นพี่พยักหน้ารับ ขยับตัวนั่งพิงฝาบ้านเปิดดูห่อถุงยาที่มีอยู่หลายขนานแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนครันดังอยู่ไม่ไกล

        “คุณลุงคะ”

รุ้งขวัญเรียกเสียงค่อย เอาถ้วยข้าวต้มมาวางลงตรงหน้า

        “ทานข้าวก่อนนะคะจะได้ทานยา”

        “ขอบใจ”

ตอบสั้น ๆ และฝืนทานข้าวอย่างเงียบ ๆ นั่งฟังรุ้งขวัญอ่านฉลากยาและบอกวิธีการทานอย่างชัดเจน

        “เห็นประโยชน์ของโทรศัพท์รึยังคะ นี่ถ้าหนูไม่มาคุณลุงจะเป็นอย่างไรบ้าง รู้ตัวไหม?”

        “ก็คงนอนตายอยู่ตรงนี้แหละมั้ง”

        “คุณลุง! ทำไมพูดอะไรอย่างนี้ล่ะคะ”

        “ทำไมหรือ? มันเป็นเรื่องธรรมดานี่ ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน เกิดมาทุกคนล้วนต้องตาย และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะตายวันไหน ตายร้ายหรือตายดี เตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่เนิ่น ๆ จะได้วางลงปลงง่าย”

หญิงสาวทำหน้าเศร้า ฟังและคิดตามที่เขาพูด แม้มันจะเป็นสัจธรรมของชีวิตแต่ก็ยังทำใจไม่ได้ง่าย คงเพราะเธออายุน้อย เรื่องความตายจึงดูยังห่างไกลจากชีวิตตนเองนัก แล้วจู่ ๆ เมฆฝนครึ้มที่ตั้งเค้าทำท่าจะตกมาเมื่อวานตอนกลางวัน ก็เกิดเทกระหน่ำลงมาในทันทีไม่มีปี่มีขลุ่ย พร้อมกับลมพายุกรรโชกแรงไม่ขาดสาย เสียงคำรามที่ร้องอยู่ไกล ๆ ขยับเคลื่อนย้ายเข้ามาใกล้ ส่งเสียงดังกัมปนาทอยู่เหนือหัวราวกับฟ้าถล่ม และผ่าลงในรัศมีใกล้ ๆ

รุ้งขวัญตกใจกลัวตัวสั่นเทา ยกมือขึ้นอุดหูและตัวแข็งนิ่ง เมื่อฟ้าแลบแปลบปลาบส่งแสงวูบวาบมาให้เสียวสันหลังเป็นระยะ ข้าวของก็ปลิวว่อนเพราะแรงลม หลังคาต่อเติมที่สร้างมาจากท่อพีวีซีน้ำหนักเบาและป้ายไวนิลโยกคลอนปลิวหวือ กระพือดังพึ่บพั่บ

ลุงหนูไล่เก็บข้าวของสำคัญที่คาดว่ามันจะปลิวหายยัดใส่ใต้ถุนเตี้ย แล้วคว้ามือสาวน้อยวิ่งเข้าห้องปิดประตูแน่นหนา

บ้านน็อคดาวน์หลังน้อยราคาถูก ไม่แข็งแรงพอจะต้านทานพายุฝนที่หอบกระหน่ำซัดมาอย่างบ้าคลั่ง จึงโยกไหวเอนและชุ่มไปด้วยน้ำฝนที่กระเซ็นเล็ดลอดเข้ามาตามรูร่อง เขาจับที่นอนสำเร็จรูปแบบพับได้ของตัวเองตั้งขึ้นล้อมชิดฝาทำเป็นที่กำบัง จับคนตัวเล็กที่กำลังหวาดกลัวยัดเข้าไป แล้วเอาผ้าห่มคลุมไว้ข้างบนเหนือหัว

รุ้งขวัญนั่งคุดคู้ตัวสั่นกอดหมอนแน่นอยู่ข้างใน กลัวว่าพายุจะหอบเอาบ้านหลังนี้ลอยไปทั้งหลัง เธอไม่เคยนึกชอบเวลาฝนตกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไหนจะการจราจรติดขัดและความเศร้าหมองในจิตใจ ยิ่งมาเจอสถานการณ์น่ากลัวแบบนี้เข้าก็ยิ่งไม่ชอบไปใหญ่

หลายชั่วโมงผ่านไป พายุฝนก็สงบลงเหลือเพียงลมเย็นสบายและสายฝนโปรยปรายเท่านั้น

เจ้าของบ้านเปิดประตูนั่งพิงกรอบประตูห้อง ทอดสายตายาวเหม่อมองออกไปไกลถึงในอดีตเมื่อสามสิบปีก่อน ยังบ้านหลังแรกในชีวิตที่นอนแออัดยัดเยียดกันกับคนในครอบครัว

เวลาหน้าหนาวมันก็อุ่นดี แต่หน้าฝนทีไรก็เหมือนในขณะนี้ที่แทบจะไม่มีที่อยู่ ต้องนั่งทนง่วงเอาถังรองน้ำฝนที่หยดรั่วมาจากหลังคาตลอดคืน มันเป็นความทรงจำที่ประทับอยู่ในความรู้สึกของเขามาเนิ่นนาน เมื่อยามฝนตกทีไรก็มักจะนึกถึงความลำบากลำบนในวัยเยาว์เช่นนี้เสมอแม้จะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตามที

หญิงสาวผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัว ทีแรกก็นึกว่าฟ้ามืดแล้ว แต่ไม่ใช่ จึงเลิกผ้าห่มที่คลุมอยู่บนหัวโผล่ออกไปดูสภาพข้างนอก

ภาพแรกที่เห็นคือแววตาของชายสูงวัยที่เหม่อลอยอย่างหม่นเศร้า มันดูว้าเหว่ โดดเดี่ยว และอึมครึมเหมือนเมฆฝนบนท้องฟ้า เห็นอย่างนี้เข้าเธอก็รู้สึกใจบางเหลือเกิน เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดพลอยหวั่นไหวข้างในอย่างไรก็ไม่รู้ เผลอมองอยู่อย่างนั้นนานโดยไม่รู้ตัวเหมือนถูกมนตร์สะกดไว้ แม้ลุงหนูจะเบือนหน้ามาหาก็ยังไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งถูกจ้องมองเขม็งเข้มจึงได้สติรับรู้ว่ากำลังถูกสายตาคมคู่นั้นดึงดูดเข้าไปในห้วงลึกล้ำสุดคาดคะเน เกินจะถีบตัวเองหลุดพ้นลอยเหนือน้ำได้

หากดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ รุ้งขวัญไม่พบสิ่งใดซ่อนอยู่นอกจากความอ้างว้างและว่างเปล่า

เธอผลุบหัวลงกลับไปซุกหลังที่กำบัง อะไรบางอย่างกระตุกหัวใจดวงน้อยให้มันหวิวหวั่นและจดจำความรู้สึกที่ยากจะอธิบายนี้ไปจนกระทั่งถึงในเวลากลางคืนที่ทำให้นอนไม่หลับ เพราะสายตาคู่นั้นยังประทับอยู่ไม่คลาย จึงเปิดประตูกระจกบานเลื่อนออกมายืนตรงระเบียง ชะเง้อข้ามกำแพงมองมาทางหลังคาบ้านของลุงหนูที่มืดสนิท

...ฝนหยุดตกไปนานแล้ว แต่ทว่ามันกลับย้ายมาตกที่ในใจของสาวน้อยแทน

 

โรงอาหารมหาวิทยาลัย

รุ้งขวัญกับกลุ่มเพื่อนกำลังต่อแถวเข้าซื้ออาหารและคุยกันถึงเรื่องที่จะเตรียมตัวไปเที่ยวราตรีในคืนนี้ด้วยกันเป็นครั้งแรกอย่างตื่นเต้น โดยได้นัดแนะให้ไปรวมตัวที่ห้องของหนูนิดเพื่อช่วยกันแต่งเนื้อแต่งตัวและออกมาพร้อมกัน

รุจิราที่เดินเชิดหน้าผ่านรุ้งขวัญไปเหมือนไม่รู้จักก็วกกลับมา เพราะนึกอยากแกล้งโดยการเข้าไปแทรกแถวต่อคิวหน้ารุ้งขวัญ

        “นี่...”

เธอทักออกมาเบา ๆ รุจิราจึงหันข้างมาแลและสะบัดหน้าพรืดกลับไป

        “ทำไมคุณไม่ไปต่อแถวข้างหลังคะ?”

หนูนิดเพื่อนของรุ้งขวัญที่ยืนถัดกันเอ่ยขึ้นมา ทำให้รุจิราโกรธหันมาพูดจาเสียงดัง ตวาดใส่ทันที

        “นี่เธอ! อยู่ห้องไหน รหัสอะไร? ถึงไม่รู้จักสัมมาคารวะและการให้เกียรติรุ่นพี่ ไม่รู้รึไงว่าน้องใหม่ต้องทำตัวยังไง”

 หนูนิดหน้าซีดตัวสั่น ก้มหน้านิ่งโดยอัตโนมัติ เพราะมีอาการแพนิคอ่อน ๆ จากการโดนรุ่นพี่ว้ากในกิจกรรมรับน้องที่ผ่านมา รีบกล่าวคำขอโทษตะกุกตะกัก

        “ขอโทษค่ะ”

        “ขอโทษอย่างเดียวหรือ? มือไม้ไปไหนหมด”

รุจิราเห็นอาการกลัวของเพื่อนรุ้งขวัญจึงได้ทีตะเบ็งเสียงดังหนักกว่าเดิม แต่ก่อนที่หนูนิดจะยกมือขึ้นมารุ้งขวัญก็จับแขนเพื่อนไว้ก่อน

        “ไม่ต้องหนูนิด เค้าไม่ใช่รุ่นพี่คณะเรา”

        “ทำไมยัยรุ้ง กล้าทำตัวมีปัญหาหรือ?”

        “อย่ามาเนียน! เธอไม่ใช่รุ่นพี่คณะเราไม่มีสิทธิ์ หรือต่อให้จะใช่ ก็ควรทำตัวอย่างที่ดีกว่านี้ถึงจะให้รุ่นน้องเคารพได้ ถ้าทำไม่เป็นก็ไม่ต้องมาสอน!”

รุ้งขวัญโต้กลับเอาคืน เพราะไม่พอใจที่รุจิราทำให้เพื่อนของเธอตกใจกลัว

        “นังรุ้ง!”

พี่สาวต่างแม่หน้าชา เงื้อมือมาหมายจะตบ แต่กลุ่มเพื่อนของรุ้งขวัญดาหน้าเข้ามาชิดและจ้องหน้ารุจิราอย่างเอาเรื่อง คนเจ้าอารมณ์จึงกล่าวอาฆาตและจากไปด้วยความอับอาย

        “ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะฟ้องพ่อ!”

 

รุจิราสะบัดแปรงบรัชออนในมือทิ้งบนโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องหน้าตัวเองในกระจกที่ยังกรุ่นโทสะจากการปะทะคารมที่โรงอาหารเมื่อตอนกลางวัน

        “นังรุ้ง ฉันจะทำให้แกได้อับอายมากกว่านี้” ว่าแล้วก็นัดแนะเพื่อนชายหลายคนทางโปรแกรมแชทให้ไปเจอกันยังร้านที่ได้ยินว่ารุ้งขวัญกับเพื่อนจะไปเที่ยวกันในคืนนี้ โดยได้คิดวางแผนการร้ายไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว

 

หญิงสาวห้านางสวมชุดเดรสสวยงามคนละสี เดินเฉิดฉายก้าวมาพร้อมกันราวกับอยู่ในงานเปิดตัวสำคัญ ที่มีเธอห้าคนเป็นตัวเด่น 

มิ้ง รุ้งขวัญ อ้อม หนูนิด และปานวาดยื่นบัตรประชาชนที่แนบกับธนบัตรใบสีม่วงให้กับคนเฝ้าประตูพร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้แก่กันที่สามารถผ่านเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย

        “โอ่โห้!”

ปานวาดอุทานขึ้นมาเป็นคนแรก เมื่อได้เห็นแสงสีวูบวาบและบรรยากาศจริง ๆ ตามที่เคยคิดและเห็นในละครมาก่อน ส่วนมิ้งที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มบอกพนักงานบริการให้หาโต๊ะที่ดีที่สุดให้พวกเธอนั่ง เขาจึงนำลงไปยังชั้นล่างหน้าเวที

        “สั่งอะไรกันดี? เอาเบียร์หรือเอาเหล้า”

        “เอาเบา ๆ ก่อนนะมิ้ง”

อ้อมเป็นคนบอก มิ้งจึงสั่งเบียร์ยี่ห้อดังมาหนึ่งโปร พร้อมกับแกล้มอีกสองอย่าง

        “โอ๊ย! ทำไมมันเสียงดังหนวกหูอย่างนี้ ลดเสียงลงหน่อยไม่ได้รึไง ขี้หูฉันเต้นระบำหมด” หนูนิดพูดขึ้นมา ทำท่าเอามือปิดหู

        “เดี๋ยวก็ชิน ยิ่งดึกยิ่งสนุก ลองเครื่องดื่มก่อนซักสองสามแก้วแล้วอาการก็จะดีขึ้นเอง มะ” มิ้งบอกกับเพื่อน

        “เอ้า! ชนแก้ว ฉลองให้กับการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวของพวกเรา เฮ!”

ทุกคนชนแก้วแล้วยกเครื่องดื่มขึ้นลองจิบน้ำสีเหลืองฟองฟอดในมือ และก็แสดงสีหน้าออกมาไม่ต่างกัน

        “มันไม่อร่อยว่ะ”

        “ขมชะมัด”

        “รสชาติไม่ได้เรื่อง”

        “เสียดายตังค์จัง”

        “ฮึ่ย! นี่แหละรสชาติของการเป็นผู้ใหญ่ หรือพวกแกจะดื่มนมและน้ำหวานไปตลอดชีวิต” มิ้งว่า

        “ทำไมรสชาติของการเป็นผู้ใหญ่มันถึงได้ขื่นขมขนาดนี้วะ ขอเปลี่ยนใจกลับไปเป็นเด็กเหมือนเดิมได้ไหม” อ้อมบ่น

        “ไม่ต้องพูดมาก สั่งมาแล้ว ช่วยกันกินให้หมดเลย ถ้าอันนี้ไม่ถูกปากค่อยลองสั่งอย่างอื่นทีหลัง”

 

        “พวกนายเห็นห้าสาวที่นั่งอยู่ตรงกลางนั่นไหม ปีหนึ่งบริหารธุรกิจ มอเราเอง”        

รุจิราชี้เป้าให้กับเพื่อนในกลุ่ม เมื่อนั่งมองลงมาจากข้างบนนานแล้ว

        “อืม...หน้าตาดีกันทุกคน”

        “เห็นผู้หญิงชุดสีฟ้าปาดไหล่นั่นไหม? ชื่อรุ้งขวัญ ฉันรู้จักดี”

        “งั้นหรือ พาไปแนะนำหน่อยสิ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นมา

        “ฮะ ฮะ..ที่ว่ารู้จักดี ไม่ได้หมายความว่ารู้จักกันเป็นการส่วนตัวนะ รู้จักดีเพราะว่าเพื่อนฉันที่ทำงานเอนพิเศษเล่าให้ฟังว่าน้องคนนี้เก่ง ทำงานดี บริการเยี่ยม รับเฉพาะลูกค้าป๋า ๆ เสี่ย ๆ กระเป๋าหนักเท่านั้น”

        “ฮึ่ย! ใช่หรือ ไม่น่าเป็นไปได้”

        “อย่าดูคนแต่ภายนอกสิ ก็รูปร่างหน้าตา ท่าทาง กิริยาแบบนี้แหละเป็นอาวุธ ตกตาแก่หัวงูที่ชอบเอ็นดูเด็กซื่อใส ไร้เดียงสา ยิ่งทำตัวบริสุทธิ์เท่าไหร่ก็ยิ่งได้ราคางาม หนุ่มหล่อ ๆ แต่ไม่มีเงินอย่างพวกนายไม่ได้แอ้มเธอหรอกจะบอกให้”

        “เสียดายเนอะที่มีรสนิยมแบบนี้”

        “เอางี้ มาพนันกันไหม ถ้าพวกนายในนี้ใครก็ได้ พายัยนี่กลับไปได้ในคืนนี้ ฉันจะเลี้ยงเหล้าห้าครั้ง แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเลี้ยงฉันคืน”

        “ห้าครั้งเชียวหรือ?”

        “สามก็ได้...ถ้ามั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองก็รับคำท้าเลย”

รุจิราโกหก เธอรู้ดีว่าน้องสาวต่างแม่คนนี้มีนิสัยอย่างไร ไม่ยอมไปไหนง่าย ๆ กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแน่ ที่ทำอย่างนี้ก็แค่ต้องการแกล้งรุ้งขวัญให้หัวเสียและโมโหเล่นเท่านั้นเอง นอกจากจะได้เอาคืนเรื่องเมื่อตอนกลางวันแล้วยังได้กินฟรีจากการแพ้พนันของเพื่อนอีกด้วย งานนนี้มีแต่ได้กับได้

        “ตกลงฉันเล่นเกมส์นี้”

โจอี้ที่หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มมีความมั่นใจว่าตัวเองสามารถเอาชนะรุ้งขวัญได้เอ่ยปากรับคำท้า

        “สามครั้งนะ” สาวเจ้าเล่ห์ย้ำชัด

       

“ดิว” ยกแก้วชน ยกยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้าชวนเพื่อนชายลงไปล่าเหยื่ออย่างมุ่งมั่น

เนื้อหาโดย: wvalai
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
wvalai's profile


โพสท์โดย: wvalai
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...ความเชื่อเรื่องชื่อเสียง ยิ่งเสียงกระดิ่งดังขนาดไหน มากมายเท่าไหร่ เชื่อจะมีชื่อเสียงโด่งดังเสมอเหมือน“ตำรา 5 ถัง” สูตรน้ำหมักโบราณที่คนรุ่นใหม่ยังไม่รู้—ปลูกอะไรก็งาม ใบเขียวเข้ม โตไว ไร้แมลงฮุน เซน ถูก “ทรัมป์” หลอกล้วงตับ – เปิดทางสหรัฐฯ แทรกแซงกฎหมาย-จัดหนักสแกมเมอร์
ตั้งกระทู้ใหม่