วางแผนท่องเที่ยวหน้าหนาวบนดอยสูงต้องระวังอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว หลายคนได้เริ่มวางแผนเพื่อเตรียมท่องเที่ยวในวันหยุดยาวที่จะมาถึง ภาคเหนือถือเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่ประชาชนนิยมเดินทางไป เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ความเย็น และไอหมอกนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีอีกสถานที่ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และมีอยู่ทั่วทั้งประเทศจำนวน 155 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติ ที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวไม่เว้นวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นิยมเข้าไปกางเต็นท์พักแรม บ้างก็ไปเพื่อศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ชมความงดงามของธรรมชาติภายในอุทยานฯ เช่น อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ที่มีน้ำตกไทรโยคอันเลื่องชื่อ และถ้ำดาวดึงส์หินงอกหินย้อย หรืออุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์กับจุดชมช้างป่าและกระทิง ทำให้ประชาชนแบบเราๆ ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้พบเห็น สร้างความตื่นเต้นให้เป็นอย่างมาก
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เผยว่า “ตนเองและทีมงานได้ร่วมกันเตรียมแผนรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุกแห่งแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ได้เบาลง จึงคาดว่าปริมาณนักท่องเที่ยวในปีนี้จะมากขึ้น ดังนั้นการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายที่ครอบคลุมพื้นที่อุทยานฯ ทุกแห่ง ทั้งทางบกและทางทะเล สร้างความสมดุลของสิ่งแวดล้อม ความประทับใจ และที่สำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด สามารถดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ได้อย่างทั่วถึง” จากนั้นยังกล่าวอีกว่า “ตนเองได้ดำเนินการสั่งการไปยังหัวหน้าสำนักงานอุทยาน ฯ ว่าให้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะบางคนที่ไม่เคยกางเต็นท์นอนสัมผัสอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน ๆ อาจมีผลต่อสภาพร่างกายได้ และตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พน้อมทั้งกำชับในเรื่องของความสะอาด ของมึนเมาที่ห้ามนำเข้ามาในพื้นที่อุทยาน ฯ
ใครที่อยากเปลี่ยนแนวลองมาผจญภัยใกล้ชิดธรรมชาติ เดินป่า นอนเต็นท์ ชมนกชมไม้ สามารถเข้าเที่ยวได้เลย และอย่าลืมปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของอุทยานฯ นั้นๆ ไม่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ไม่นำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าอุทยานฯ และไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม