สรุปดราม่าเทรนเนอร์หนุ่ม โดนหลอกจดทะเบียน เสียเงินบำเรอรักนับล้าน
ใคร ๆ ก็มักจะพูดว่า ความรักคือสิ่งสวยงาม
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหรียญต้องมีสองด้านเสมอ
แต่กับเรื่องนี้จะเรียกว่า ความรักทำให้คนตาบอดได้ไหมนะ
---------------------------------------
โค้ชมาร์ช เทรนเนอร์หนุ่ม วัย 32 ปี สอนออกกำลังกายทั้งออนไลน์และตัวต่อตัว
ถ้าเป็นช่องทางออนไลน์จะสอนในช่องทาง Tik Tok และมีคนติดตามมากกว่า 2 แสน คน
ช่วงเดือนมิถุนายน มีผู้หญิงคนนึงชื่อไบร์ท (นามสมมติ) อายุ 26 ปี
แอดไลน์เพื่อมาซื้อคอร์สสอนตัวต่อตัว 3 เดือน ราคา 60,000 บาท
แต่ขอแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 30,000 บาท ซึ่งเทรนเนอร์หนุ่มก็ตกลง
ซึ่งเมื่อพบกัน และเริ่มคอร์สเรียนก็พบว่า ไบร์ท เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตา
บุคลิกดี พูดจามีหลักการ ดูน่าเชื่อถือ ใช้แต่ของแบรนด์เนม มีไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา
ขับรถราคาแพง และเป็นคนมีน้ำใจ ไบร์ทมักจะทำอาหารมาให้โค้ชมาร์ชทานบ่อย ๆ
ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งมาร์ชเองก็มองว่าไบร์ทเป็นคนน่ารัก
สดใส อารมณ์ดี เป็นธรรมชาติ แม้ภายนอกจะดูไฮโซ แต่จริงๆ ไม่ถือตัวเลย
ทั้งสองเริ่มออกไปทานข้าวด้วยกัร เที่ยวด้วยกัน พบเจอกันบ่อยขึ้น
จนมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่อาทิตย์แรก
ไบร์ทพามาร์ชไปเที่ยวถี่ยิบ เธอรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
แถมยังกินหรูอยู่สบาย ในช่วงเดือนที่ 1-2 ที่คบกัน ไบร์ทแทบไม่ใช้เงินมาร์ชเลย
ส่วนใหญ่เธอจะออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งมาร์ชก็สงสัยว่าเธอทำอาชีพอะไร
และไบร์ทก็ให้เหตุผลว่า ตัวเธอเองทำแบรนด์เสื้อผ้าเด็กขายทางออนไลน์ มีรายได้ต่อเดือนไม่ใช่น้อย
ประมาณเดือนละ 3-4 แสน แม่ให้ใช้อีกต่างหากรวม ๆ แล้วก็เป็นล้าน
แถมยังบอกอีกว่า เธอเป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่ตามใจมากเลี้ยงเหมือนลูกคุณหนู
แล้วยังซื้อบ้านให้เธออยู่คนเดียวอีกหนึ่งหลัง
หลังคบหากันได้ 2 เดือน ไบร์ทก็บอกกับมาร์ชว่าเธอตั้งท้อง พร้อมทั้งเอาผลตรวจมาให้ดู
มาร์ชดีใจมากที่จะได้เป็นพ่อคน เพราะมาร์ชอยากมีลูกมากและพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง
หลังจากนั้นไบร์ทก็เอาผลอัลต้าซาวด์มาให้ดูเรื่อย ๆ และยังมีอาการเหมือนคนท้องทุกอย่าง
มาร์ชคลั่งรักมาถึงกับเปิด Accout ใหม่ใน TikTok ตั้งชื่อว่า "โค้ชคลั่งรัก"
เพื่อเก็บโมเม้นท์ดี ๆ ของมาร์ชกับไบร์ท มีโมเม้นท์เยอะมาก
ไปเที่ยวที่ไหน กินที่ไหน ความประทับใจต่าง ๆ ก็โพสเก็บไว้หมด
เพื่อหวังว่าจะเก็บคลิปนี้ไว้ให้ลูกดูตอนโต แต่ละคลิปจะมีความหลงใหลที่มาร์ชมีต่อไบร์ทจนใคร ๆ ต้องอิจฉา
ต่อมาทั้งคู่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ไบรท์บอกว่าห้องของมาร์ช ซึ่งเช่าอยู่เดือนละ 4,000 พันบาทนั้นเล็กเกินไป
เธอเลยพามาร์ชไปเช่าคอนโดเดือนละ 18,000 บาท โดยมาร์ชเป็นคนจ่ายค่าเช่า
มาร์ชให้ความสำคัญกับไบรท์มาก จากที่เคยสอนวันละ 10 คน ก็ลดเหลือวันละ 4-5 คน
เพื่อจะได้มีเวลามาอยู่กับไบรท์มากขึ้น เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่รับงานเพื่อจะได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน
ไบรท์บอกมาร์ชว่าเธอรับหลานสาวมาเลี้ยง เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 1 ขวบ
บางครั้งไบรท์ก็พาหลานคนนี้ไปเที่ยวกับมาร์ชด้วย
เธอสอนให้หลานเรียกเธอว่าแม่และเรียกมาร์ชว่าพ่อ
มาร์ชเห็นไบรท์ดูแลหลานได้อย่างคล่องแคล่วก็ยิ่งมั่นใจว่าเมื่อมีลูกพวกเขาจะเลี้ยงลูกได้เป็นอย่างดีและมีครอบครัวที่อบอุ่น
หลังรู้ว่าไบรท์ตั้งท้อง มาร์ชก็หยุดงาน 2 สัปดาห์ เพื่อพาเธอไปพบพ่อแม่ของเขาที่เชียงใหม่
ซึ่งไบรท์ก็เข้ากับครอบครัวของเขาได้ดี พ่อของมาร์ชถือเป็นคนกว้างขวางในท้องถิ่นคนหนึ่ง
และเป็นประธานชมรมนักวิ่งแฟนซีด้วย
ในระหว่างที่มาร์ชพาไบรท์ไปเยี่ยมครอบครัวที่เชียงใหม่นั้น เป็นเวลาเดียวกับที่ทาง อบต.จัดงานวิ่งมินิมาราธอน
มีคนมาร่วมงานประมาณ 800-900 คน มาร์ชจึงชวนไบรท์ไปวิ่งด้วย หลังวิ่งจบก็มีการมอบรางวัลต่าง ๆ บนเวที
มาร์ชถือโอกาสนี้ขอให้พ่อช่วยจัดฉากเซอร์ไพรส์ขอไบรท์แต่งงาน
โดยให้พิธีกรประกาศว่าไบรท์ได้รางวัลนักวิ่งขวัญใจช่างภาพ เมื่อไบรท์ขึ้นไปรับรางวัล
มาร์ชก็ขึ้นไปมอบช่อดอกไม้แล้วคุกเข่าขอแต่งงานบนเวที มาร์ชบอกว่านี่เป็นโมเมนต์ที่เขาจะไม่มีวันลืม
หลังจากนั้นไบรท์ขอให้มาร์ชพาไปจดทะเบียนสมรสที่เชียงใหม่เลย
เขารู้สึกแปลกใจที่เธอรีบร้อน แต่ก็ยอมพาเธอไปจดด้วยดี แล้วยังพากันไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วย
จากช่วงแรกที่ไบรท์แทบไม่ใช้เงินของมาร์ชเลย มาตอนนี้เธอขอบัตรเครดิตของเขามาใช้
อ้างว่าบัตรของเธอวงเงินเป็นล้าน ทำให้ใช้แล้วหยุดไม่ได้
เลยจะใช้บัตรของเขาที่มีวงเงินน้อยกว่าแทน มาร์ชก็เอาบัตรเครดิตทั้ง 3 ใบมาให้ไบรท์ใช้ วงเงินใบละ 1 แสนบาท
ไบรท์เอาบัตรไปใช้โดยบอกว่าสิ้นเดือนจะจ่ายเอง พร้อมกับขอเพิ่มวงเงินจากธนาคาร
เธอรูดบัตรไปกว่า 1 ล้านบาทในเวลา 2 เดือน แต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายค่าบัตรอ้างว่าแม่เป็นมะเร็งบ้าง
อ้างว่าต้องจ่ายค่ารีโนเวทบ้านบ้าง และบอกว่าต่อไปบ้านหลังนี้จะเป็นเรือนหอของเราทำให้มาร์ชพูดอะไรไม่ออก
มาร์ชเอารายการบัตรที่ไบรท์ใช้จ่ายมาดู พบว่าส่วนใหญ่เป็นข้าวของเครื่องใช้ผู้หญิง
รวมทั้งเสื้อผ้า ค่าทำเล็บทำผม เข้าร้านแบรนด์เนม และมีรายการแปลก ๆ เช่น ค่าเช่ารถ ค่าทำผมที่แพงถึง 60,000 บาท
เมื่อมาร์ชไม่มีเงินแล้วเขาก็รู้สึกว่าไบรท์เริ่มทำตัวห่างเหิน
เธอเริ่มหายไปนาน ๆ เช่น 3 วัน, 5 วัน, 10 วัน พร้อมกันนั้นเธอเริ่มทยอยขนของใช้ส่วนตัวออกจากคอนโด
อ้างว่าต้องไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล มาร์ชถามว่าแม่อยู่โรงพยาบาลไหนก็ไม่บอก
วันที่ 10 ตุลาคม ไบรท์บอกมาร์ชว่าจะมีญาติกลุ่มใหญ่มาเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล
แล้วจะแวะมาเยี่ยมเธอด้วย แต่เนื่องจากบ้านกำลังรีโนเวทอยู่เลยต้องให้ญาติมาที่คอนโดแทน
ขอให้มาร์ชออกไปข้างนอก อย่าเพิ่งกลับเข้ามา
มาร์ชหาเรื่องเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกจนถึงเที่ยงคืนญาติ ๆ ของไบรท์ก็ยังไม่กลับเสียที
เขาขอให้ไบรท์ถ่ายรูปญาติให้ดูหน่อย แต่เธอถ่ายให้เห็นแค่จานข้าว กระทั่งตี 1 เธอถึงบอกให้เขากลับห้องได้
พอไบรท์บอกว่ากลับได้ มาร์ชก็เดินทางกลับคอนโด แต่ระหว่างทางประสบอุบัติเหตุรถล้ม
เขาได้รับบาดเจ็บ แต่ไบรท์กลับไม่มาดูแลเขาเลย พ่อเลยต้องบินจากเชียงใหม่มาดูแลมาร์ช
ระหว่างที่อยู่ดูแลมาร์ช พ่อเกิดอยากร้องคาราโอเกะแต่หาคอมพิวเตอร์ไม่เจอ
ทำให้มาร์ชสงสัยและลองสำรวจทรัพย์สินในห้อง จึงพบว่ามีข้าวของหลายอย่างหายไป
เช่น คอมพิวเตอร์ MacBook Pro, กล้องวิดีโอ Sony, นาฬิกา รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท
มาร์ชทักไปถามไบรท์แต่เธอบอกว่าไม่ได้เอาไป เขาเลยไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของวันที่ 5 ตุลาคม
ปรากฏว่าไม่มีญาติ ๆ แวะมา มีแต่ไบรท์พาผู้ชาย 3 คนมาขนข้าวของออกจากห้อง คาดว่าในนั้นมีทรัพย์สินของมาร์ชอยู่ด้วย
มาร์ชลองสืบประวัติไบรท์จนได้รู้ว่าเธอเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วกว่า 10 ชื่อ
ใช้เฟซบุ๊กมานับ 10 บัญชี เคยจดทะเบียนสมรสมาแล้ว 3 ครั้ง
มีลูกอีก 4 คน สามีคนแรกเป็นนักธุรกิจ มีลูกด้วยกัน 2 คน, สามีคนที่ 2 เป็นข้าราชการ
มีลูกด้วยกัน 1 คน และสามีคนที่ 3 เป็นแพทย์ มีลูกด้วยกัน 1 คน ทุกคนถูกกระทำแบบเดียวกัน
สามีคนที่ 3 ของไบรท์ที่เป็นหมอบอกว่าเขากับไบรท์แยกทางกันนานแล้ว
มีติดต่อกันบ้างเรื่องลูก แต่ไม่ได้ติดตามข่าวคราวอื่น ๆ หมอยอมรับว่าตอนที่อยู่ด้วยกันไบรท์
เคยโกงขายของออนไลน์ และเคยเอานาฬิกาหมอไป 2-3 เรือน แต่หมอไม่อยากเอาเรื่อง
มาร์ชทักไปถามไบรท์ว่าฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลอะไร
เธอไม่ตอบ แล้วหลังจากนั้นเธอก็หายไปและบล็อกไลน์เขา
มาร์ชจำได้ว่าครั้งหนึ่งเอกสารการตรวจครรภ์ที่ไบรท์เคยส่งมาให้ดูมีชื่อโรงพยาบาลอยู่
เลยลองโทรถามโรงพยาบาลดังกล่าว ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าผลตรวจและอัลตร้าซาวนด์ของไบรท์เป็นของปีที่แล้ว
ทำให้มาร์ชมั่นใจว่าไบรท์ไม่ได้ท้อง และภาพอัลตร้าซาวนด์น่าจะเป็นของลูกคนที่ 4 ที่ไบรท์อ้างว่าเป็นหลาน
มาร์ชลองกดรับสถานะความสัมพันธ์ในเฟซบุ๊กว่ากำลังคบกับไบรท์
ปรากฏว่ามีคนทักแชตเข้ามาเพียบ บอกว่าโดนไบรท์โกงแชร์บ้าง โอนเงินแล้วไม่ได้ของบ้าง
วันที่ 10 ตุลาคม มาร์ชตัดสินใจแจ้งความและต่อมาก็ไปออกรายการ “โหนกระแส”
เขาบอกว่าไม่ได้หวังจะได้เงินคืนแล้ว แต่อยากเตือนภัยให้คนระวังเพราะเชื่อว่าไบรท์ยังไม่หยุด
เนื่องจากเมื่อ 2 วันก่อนเขายังเห็นเธอโพสต์ขายพระปลอมอยู่
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนแฉว่าเคยถูกไบรท์โกง เช่น
คนหนึ่งเล่าว่าสั่งซื้อนาฬิการาคา 19,500 บาท โอนเงินเต็มจำนวน แต่ไบรท์ส่งของเล่นเด็กราคา 200 บาทมาให้
หลายคนโอนเงินและสั่งเสื้อผ้าของใช้เด็กแล้วไม่ได้ของ
บางคนสั่งกระเป๋าแบรนด์เนม พอโอนเงินก็ถูกบล็อกทันที
เมื่อปี 2562 เปิดวงแชร์แล้วโกง มีผู้เสียหายกว่า 30 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 7 แสนบาท
แต่ในขณะเดียวกัน ในทวิตเตอร์ก็มีคนพูดข้อมูลอีกด้านว่า จริง ๆ แล้ว
ตอนที่มาร์ชเจอไบรท์เขามีแฟนอยู่แล้ว แฟนของมาร์ชรวยมากและมาร์ชก็เกาะผู้หญิงคนนี้อยู่
แต่พอมาเจอไบรท์ มาร์ชก็ทิ้งแฟนเก่าหวังมาเกาะคนใหม่ แต่สุดท้ายถูกหลอก
ซึ่งมาร์ชก็ชี้แจงผ่านรายการ “โหนกระแส” ว่าเขาคบกับแฟนเก่ามานาน 8-9 ปี แต่เธอมีลูกไม่ได้
ประกอบกับมีปัญหาจุกจิกต่าง ๆ เขาเลยขอเลิกและออกมาอยู่คนเดียว เป็นช่วงที่ไบรท์เข้ามาพอดี
การมีแฟนใหม่เร็วอาจทำให้แฟนเก่ารู้สึกไม่ดี
หลังรายการ “โหนกระแส” ออกอากาศ มีคนแจ้งไปที่รายการว่า
ตอนนี้ไบรท์กำลังคบกับเด็กนักเรียนอายุ 17 ปี แล้วไปอยู่ที่บ้านเด็ก
และบอกว่าท้องกับเด็กด้วย ทำให้แม่เด็กเป็นกังวลมาก















