5 คำถาม- 5 คำตอบ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อิแทวอน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเฉลิมฉลองที่อิแทวอนควรจะเป็นงานที่สนุกสนาน
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งการสูญเสียครั้งนี้มากกว่า 150 ชีวิด
ส่วมใหญ่เป็นคมหนุ่มสาวไนวัยทินและ 20 กว่าๆ แต่งกายในชุดเที่ยวปาร์ตี้
ฮาโลวิม เสียชีวิดไปในเหตุการณ์ฝูงชมเบียดเสียดเยียบกันดายที่อิแทวอน
ย่านท่องเที่ยวใช้ชีวิตยามค่ำคืนชื่อดังของกรุงโซล
มันเป็นกรณีฝูงชนเบียดเสียดกันจมเสียชีวิตครั้งเลวร้ายที่สุดใพประวัติศาสตรัของเกาหลีใต้
และประธามาธิบดียุม ซอก-ขอล ได้ออกคำาส่งไฟดำาเงินการสืบสวมสอบสวมอย่างเต็มที่
พร้อมกับประกาศว่าโศกมาฎครรมเช่นนี้จะต้องไม่ยินยอม ให้เกิดขึ้นมาอีก
ต่อไปนี้คือสิ่งที่เรารู้จนถึงเวลานี้เกิดอะไรขึ้น?
ผู้คนจำนวมมาจะมากถึง 109000 คน พากันเดินทางมาที่ย่าน อินแทวอน ในคืนวันเสาร์ (29 ต.ค.)
เพื่อเข้าร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลริม ซึ่งเป็นการถลองที่ไร้ข้อจำากัดเข้มงวดเรื่องป้องกันโรค
โควิคครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
พวกพ่อคำแม่ขายห้องถิ่มซึ่งทำงานขายของอยู่ในพื้นที่แถวนี้มาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว
บอกกับ เอเอฟพี่ว่า ฝูงชนในปีนี้ *มีชมาดใหญ่มากอย่างที่ไม่เคยพมเห็นกัมมาก่อม"
กระนั้น คำาแถลงในตอมแรกๆจากฝ่ายตำารวจบ่งซี่ให้เฟัพว่า
พวกเขาเตรียมส่งกำลังมาดูแลรักษาการณ์กับเพียงแค่ 200 คน
คลิปวิดีโอที่มิผู้โพสตับมโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นฝูงชมแอฮัฒมากๆ ซึ่งตอนแรกๆ
ดูจะอยู่ในความสงบและสนุกสนานกันอยู่ แต่แล้วก็เริ่มเกิดความชุลมุนแตกตื่นขึ้นมา ขณะที่ผู้คนพยายามดัน
อะไรทำให้คนจำนวนมากเสียชีวิต?
พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า เหยื่อเคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นสาวๆในวัย 20 เศษ ๆ
ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจากติดอยู่ท่ามกลางฝูงชนเบียดเสียดกันแน่นเอียดในซอยแคบๆ ลาดชันลงจากเขาแห่งดังกล่าว
ตรงบริเวณใจกลางของย่านอิแทวอน
พวกผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ในสถานการณ์ของการเกิดเหตุเบียดเสียดเหยียบกันตาย
ส่วนใหญ่แล้วคนจะเสียชีวิตเนื่องจากอาการหายใจไม่ออก
และพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในกรุงโชลแถลงในเบื้องต้นว่า
เหยื่อจำนวนมากเกิดอาการหัวใจล้มเหลวหยุดเต้น (cardiac arrest) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ
ที่สุดที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในสถานการณ์แบบนี้
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายเล่าด้วยว่า มองเห็นคนจำนวนหนึ่งเหมือนกับเป็นลม
แต่ติดอยู่ในหท่ามกลางฝูงชน ก่อนที่จะล้มลงไปและจากนั้นก็ถูกเหยียบถูกย่ำ
การที่ความช่วยเหลือฉุกเฉินความช่วยเหลือปฐมพยาบาล เข้าไปถึงอย่างล่าช้า
ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
พวกนักวิจารณ์ให้ความเห็นพร้อมกับชี้ไปยังเรื่องที่ไม่มีกำลัง
ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งหมายความว่าหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉินหน่วยแรกๆ
ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายกว่าจะไปถึงเหยื่อ โดยต้องฝ่าไปตามตรอกซอยที่ล้วนแต่มีผู้คนแออัด
การล่าช้านี้ป็นปัจจัยตัดสินความเป็นความตายสำหรับเหยื่อจำนวนมาก
ผู้ซึ่งเกิดอาการหัวใจหยุดและอาจผ่านพ้นช่วงเวลา "4 นาที" สำคัญถึงขั้นเป็นตายไปเสียแล้ว
ก่อนที่ความช่วยเหลือจะไปถึงพวกผู้เชี่ยวชาญบอก
ตำรวจหายไปไหน?
ในอีกด้านหนึ่งของกรุงโชล รัฐมนตรีมหาดไทยบอกว่า มีการประท้วงใหญ่ที่เขตกวางฮวามุน
เมื่อวันเสาร์ ทำให้ต้องมีการส่งกำลังตำรวจไปที่นั่นเช่นกัน ดังนั้น จึงมีตำรวจไปอยู่ตรงนั้นกันจำนวนมาก
จากเอกสารต่างๆ ที่ถูกโพสต์ทางออนไลน์ตั้งแต่ 2 วันก่อนที่จะเกิดเหตุ โศกนาฎกรรมครั้งนี้
ทางการตำรวจแถลงว่าพวกเขาวางแผนจะส่งกำลังตำรวจเพียงแค่ 200 คนไปรักษาการณ์ ณ
การฉลองเทศกาลฮาโลวีนในอิแทวอนพวกนักวิจารณ์บอกว่า
เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในเรื่องการวางแผนอย่างร้ายแรง
"นี่เป็นความหายนะชนิดที่เกิดขึ้นจากคนสร้างมันขึ้นมา สืบเนื่องจากการขาดไร้ความตระหนักตื่นตัว
ในเรื่องความปลอดภัย" เป็นความเห็นของ ชิน ดองมิน ผู้เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยการขนส่ง
แห่งชาติเกาหลี (Korea National University of Transportation)
"ทั้งพวกร้านค้าในอิแทวอน และพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลควรที่จะต้องมีการเตรียมการมากกว่านี้
ในเรื่องที่มีฝูงชนจำนวนมหึมารวมตัวกันอย่างนี้" เขากล่าวกับสื่อ วายทีเอ็นนิวส์
"นี่เป็นความหายนะชนิดที่เกิดขึ้นจากคนสร้างมันขึ้นมา
มีการช่วยเหลือกู้ภัยกันยังไงบ้าง ?
ขณะที่ทีมบรรเทาสาธารณภัยซึ่งขาดกำลังคน พยายามเข้าช่วยเหลือเหยื่อจำนวนหลายสิบคนที่อยู่
ในอาการหัวใจหยุด ผู้คนที่ผ่านไปมาไม่น้อยรีบกระโจนเข้าช่วยเหลือทั้งในเรื่องการปฐมพยาบาล
เบื้องต้น และการทำ CTR (การนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพ)
คลิปวิดี โอคลิปหนึ่งที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นผู้คนหลายสิบคนกำลังเข้ามาทำ CPR
ให้แก่เหยื่อเคราะห์ร้ายซึ่งถูกนำมาวางเรียงรายอยู่บนถนน
นอกจากนั้นยังมีคลิปอื่นๆ แสดงให้เห็นผู้คนซึ่งอยู่ในเครื่องแต่งกายปาร์ตี้ซาโลวีน
กำลังแบกคนท่าทางอ่อนปวกเปียกอยู่บนหลังของพวกเขา
"ผมกำลังเดินอยู่แถวนั้น และต้องหยุดเข้าไปช่วยเชาทำ CPR
เพราะมันดูเหมือนกับว่าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้ว" มิน บยุงเยือน
อดีตพยาบาลผู้หนึ่งบอกกับวายทีเอ็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งพาลูกๆ ของเธอไปเที่ยวเตร่ในงานฮาโลวีนที่อิแทวอน
เล่าว่า เธอได้รับการขอร้องให้ช่วยกู้ชีพด้วยวิธีปากต่อปากกับเหยื่อจำนวนหนึ่ง
แต่ก็มีคนอื่นๆ บอกว่า คนจำนวนไม่น้อยมัววุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์มือถือของพวกเขา
มากกว่าที่จะให้ความช่วยเหลือเหยื่อ
"ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลย เพราะไม่มีใครเสนอตัวเข้ามาช่วย เอาแต่ถ่ายคลิปอยู่นั่นแหละ"
เธอบอกขณะที่ทำ CPR ให้เหยื่อ ผู้หญิงคนหนึ่งชื่งระบุว่าตนเองเป็นพยาบาลเขียนเอาไว้เช่นนี้บนทวิตเตอร์
จนถึงเวลานี้ตำรวจบอกว่า ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ในเรื่องนี้เลย
และพวกผู้เห็นเหตุการณ์ที่ก็ไม่มีรายไหนเล่าเรื่องในลักษณะนี้ให้ เอเอฟพี
ฟังตรงกันข้าม พวกผู้เชี่ยวชาญต่างชี้ไปที่ความบกพร่องล้มเหลวในการนำตำรวจออกมารักษา
ความปลอดภัย และในการควบคุมฝูงชน