ฉีดโบท็อกไมเกรน วิธีที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วยไมเกรน

อาการปวดหัวที่เกิดจากโรคไมเกรนนั้นสร้างความลำบากให้แก่ผู้ที่เป็นมากทีเดียว และอาจส่งผลต่อการดำรงชีวิตอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาที่น่าหนักใจนี้ขึ้นมาหลาย ๆ คนจึงพยายามหาหนทางและวิธีในการรักษาหรือบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรน

ซึ่งวิธีในการรักษาหรือบรรเทาอาการปวดหัวหรืออาการอื่น ๆ ที่มาจากโรคไมเกรนนั้นมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา การฝังเข็ม การนวดกดจุด รวมไปถึงการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน

โดยในบทความนี้เราจะมาอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรนให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกัน ทั้งขั้นตอนในการรักษา ข้อดีและข้อจำกัด ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หรือแม้แต่ข้อสงสัยต่าง ๆ อีกมากมาย

โรคไมเกรน (Migraine) คืออะไร

โรคไมเกรน คือภาวะที่ก้านสมองถูกกระตุ้นจากความผิดปกติของระดับสารเคมีในสมอง และส่งผลให้หลอดเลือดแดงในสมองเกิดการบีบตัวและคลายตัวมากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หรืออาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้อาเจียน แพ้เสียงแพ้แสง หรือการมองเห็นผิดปกติ

โดยโรคไมเกรนนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ทำงานหนักเกินไป นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การอดอาหาร รับประทานยาบางชนิด อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือมีแสงจ้า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

วิธีรักษาไมเกรนมีอะไรบ้าง

สำหรับวิธีในการรักษาหรือบรรเทาอาการจากโรคไมเกรนจะมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้

1. การรับประทานยา
   
   
2. การฉีดโบท็อกไมเกรน
   
   
3. การนวดกดจุด
   
   
4. การฝังเข็ม
   
   
5. การฉีดยาชาเข้าที่เส้นประสาท
   
   
6. การฉีดยา anti CGRP

ปวดไมเกรนแบบไหน ควรเข้ารับการรักษา

เมื่อเกิดอาการไมเกรนต่าง ๆ ดังนี้ควรรีบเข้ารับการรักษาหรือพบแพทย์ทันที

• มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
  
  
• เกิดอาการปวดหัวโดยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ เมื่อยคอ มองเห็นภาพซ้อน สับสนมึนงง อ่อนแรง หรือเกิดอาการชัก
  
  
• เกิดความรู้สึกชา และพูดติดขัด
  
  
• มีอาการปวดหัวเรื้อรังที่อาการหนักขึ้นเมื่อต้องออกแรงหนักหรือมีการเปลี่ยนท่าทางเร็วเกินไป
  
  
• มีอาการปวดหัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (กรณีผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป)

ทำความรู้จัก ฉีดโบท็อกไมเกรน

การฉีดโบท็อกไมเกรน หรือการฉีด Botulinum Toxin รักษาไมเกรน เป็นวิธีในการรักษาหรือบรรเทาอาการจากไมเกรนวิธีหนึ่ง โดยการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนนั้นค่อนข้างที่จะได้รับความสนใจอย่างมาก 

ด้วยความสามารถที่จะลดความถี่ รวมไปถึงบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้มากถึง 60-70% ทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ซึ่งการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นจะฉีดลงในบริเวณใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ รวมไปถึงบริเวณบ่า รวมกันทั้งหมดแล้วเป็น 31 จุด และในการฉีดโบท็อกไมเกรนจะมีผลอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงที่น้อย

รู้จักโบท็อก (Botulinum Toxin) 

Botulinum Toxin หรือที่เรามักเรียกกันสั้น ๆ ว่า ‘โบท็อก’ คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีการสร้างมาจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Botulinum โดย Botulinum Toxin นี้จะออกฤทธิ์ไม่ให้เซลล์ประสาทสามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้

ฉีดโบท็อกช่วยรักษาไมเกรนได้อย่างไร

สำหรับการฉีดโบท็อกแก้ปวดทั้ง 31 จุดในบริเวณใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ รวมไปถึงบริเวณบ่านั้น โบท็อกไมเกรนจะเข้าไปยับยั้งไม่ให้ปลายประสาท Acetyl Choline มีการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ 

ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่มีการเกร็งตัวอยู่นั้นคลายตัวลง จึงทำให้สามารถรักษาและบรรเทาอาการปวดจากไมเกรนลงได้ รวมไปถึงการฉีดโบท็อกช่วยไมเกรนลดความถี่ในการเกิดอาการลงอีกด้วย

ใครที่ควรเข้ารับการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน

ในการรักษาหรือบรรเทาไมเกรนด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นเหมาะสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้

• ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรนรุนแรง
  
  
• ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยครั้ง
  
  
• ผู้ที่ปวดหัวไมเกรนแต่ใช้วิธีรับประทานยาแล้วไม่ได้ผล
  
  
• ผู้ที่มีความเสี่ยงภาวะโรคกระเพาะอาหารอักเสบจากการรับประทานยา
  
  
• ผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่มีค่าตับและค่าไตผิดปกติ จึงไม่สามารถทานยาแก้ปวดได้

ใครที่ไม่ควรฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน

ถึงแม้ว่าการฉีดโบท็อกไมเกรนจะเป็นวิธีบรรเทาอาการที่ได้ผลดีและมีผลข้างเคียงน้อยจึงทำให้หลาย ๆ คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก แต่ก็มีข้อยกเว้นการฉีดโบท็อกไมเกรนในบางบุคคลเช่นกัน ได้แก่

• ผู้ที่มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อ
  
  
• ผู้ที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท
  
  
• ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
  
  
• ผู้ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร

ข้อดี - ข้อจำกัดของการฉีดโบท็อกช่วยไมเกรน

ในการรักษาหรือบรรเทาอาการด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรน หรือการฉีด Botulinum Toxin ไมเกรนนั้นมีอยู่ทั้งข้อดีและข้อจำกัด ในหัวข้อนี้เราจึงจะมาแยกออกเป็นลิสต์ให้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ข้อดีของการฉีดโบท็อกไมเกรน

• ช่วยบรรเทาอาการปวดของไมเกรน
  
  
• ช่วยลดความถี่ที่จะเกิดอาการปวดหัวไมเกรนลง
  
  
• ช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  
  
• เป็นวิธีการรักษาหรือบรรเทาโรคไมเกรนที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่สามารถทานยาแก้ปวดได้
  
  
• การฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นมีผลข้างเคียงที่น้อย
  
  
• การฉีดโบท็อกไมเกรนยังอาจสามารถลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย

ข้อจำกัดของการฉีดโบท็อกไมเกรน

• ไม่ควรฉีดโบท็อกไมเกรนถี่เกินไป ควรเว้นช่วงอย่างน้อย 3 เดือน
  
  
• หลังจากทำการฉีดโบท็อกไมเกรนแล้วตัวยาจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 วันถึงจะเริ่มออกฤทธิ์
  
  
• ผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่เพียง 3 เดือนโดยประมาณ
  
  
• ไม่ควรใช้โบท็อกติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้
  
  
• เป็นวิธีรักษาไมเกรนที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดโบท็อกไมเกรน

สำหรับผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกไมเกรน หรือการฉีด Botulinum Toxin ไมเกรนนั้นจะไม่เกิดขึ้นถ้าหากได้รับการฉีดโบท็อกไมเกรนอย่างเหมาะสม และไม่บ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ดื้อโบท็อกได้

ส่วนอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลคือคลินิกที่ทำการรักษา ว่าได้รับการฉีดจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์หรือไม่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์โบท็อกไมเกรนที่ใช้นั้นเป็นของแท้หรือเปล่า 

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน

1. เข้ารับการปรึกษากับแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยโรคและสอบถามอาการ
   
   
2. เลือกวิธีในการรักษา รวมไปถึงกำหนดระยะเวลาที่จะเข้ารับการฉีดโบท็อกไมเกรน
   
   
3. เตรียมร่างกายและสภาพจิตใจให้ไม่เครียด และพร้อมสำหรับการฉีดโบท็อกไมเกรน
   
   
4. ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการฉีดโบท็อกไมเกรน ได้แก่ บริเวณใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ รวมไปถึงบริเวณบ่า
   
   
5. ทำการฉีดโบท็อกไมเกรนลงในบริเวณที่กำหนดไว้ทั้ง 31 จุด ซึ่งจะอยู่ในบริเวณใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า
   
   
6. หลังจากทำการฉีดโบท็อกไมเกรนเสร็จแล้วก็ทำความสะอาดและป้องกันเชื้อโรคด้วยการปิดแผลในบริเวณที่ได้ฉีด

แนวทางการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกไมเกรน

การดูแลตัวเองหลังจากที่ทำการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาดีมากยิ่งขึ้น โดยแนวทางในการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกไมเกรน มีดังนี้ 

• หลังจากที่ทำการฉีดโบท็อกเสร็จแล้วควรบริหารกล้ามในบริเวณที่ฉีดทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้เซลล์ประสาทนั้นดูดโบท็อกเข้าไปได้มากที่สุด
  
  
• ไม่ควรประคบเย็นหลังจากที่ทำการฉีดโบท็อกเสร็จสิ้น
  
  
• ไม่ควรนอนราบหรือก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจใน 3 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
  
  
• หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว เช่น บริเวณที่มีเสียงดัง มีแสงจ้า มีควันบุหรี่ หรือมีความแออัดมากเกินไป
  
  
• หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว ได้แก่ เครื่องดื่มคาเฟอีน
  
  
• ควรรับประทานให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่
  
  
• หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ฉีดโบท็อกไมเกรนกี่วันเห็นผล

หลังจากที่ทำการฉีดโบท็อกไมเกรนเสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถเห็นผลได้ภายใน 3-4 วันหลังจากนั้น ซึ่งจะสามารถมองเห็นผลได้ชัดเจนที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์ และผลลัพธ์ของโบท็อกไมเกรนจะสามารถอยู่ได้นาน 3-4 เดือนโดยประมาณ

ฉีดโบท็อกไมเกรนราคาเท่าไหร่

ค่าใช้จ่ายของโบท็อกไมเกรน ราคานั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณของโบท็อกที่ใช้ รวมไปถึงสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ทำการรักษา และในหัวข้อนี้เราจะมายกตัวอย่างราคาคร่าว ๆ ในการฉีดโบท็อกไมเกรนกัน

• ฉีดโบท็อกไมเกรนด้วยปริมาณ ฺBotox 60 Unit ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,500 บาท
  
  
• ฉีดโบท็อกไมเกรนด้วยปริมาณ Botox 100 Unit ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,000-9,000 บาท

ฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนที่ไหนดี 

ในการเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่จะทำการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นควรเลือกให้ดีที่สุด เนื่องจากการฉีดโบท็อกไมเกรนจะมีวิธีการและขั้นตอนที่แตกต่างจากการฉีดโบท็อกเพื่อความงาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปริมาณโบท็อกที่ใช้ การผสมตัวยา รวมไปถึงเทคนิคในการฉีด

ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สถานที่ในสำหรับทำการรักษาสะอาด มีอุปกรณ์เครื่องมือครบครัน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกของแท้เท่านั้น

FAQs ฉีดโบท็อกไมเกรน

ฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนใช้เวลานานเท่าไหร่

สำหรับระยะเวลาในการรักษาด้วยวิธีการฉีดโบท็อกไมเกรนนั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของอาการในแต่ละบุคคล ในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงนักอาจใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ครั้งในการรักษา แต่ในผู้ที่มีอาการรุนแรงค่อนข้างมากหรือเรื้อรังอาจจำเป็นต้องใช้ระยะเวลามากกว่า

ฉีดโบท็อกไมเกรนหายขาดไหม

โรคไมเกรนนั้นเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีการรักษาแบบใดก็ล้วนทำได้เพียงบรรเทาหรือลดความถี่ลงเท่านั้น

ข้อสรุป

การใช้วิธีฉีดโบท็อกไมเกรนในการรักษาหรือบรรเทาเป็นหนึ่งวิธีที่ให้ผลลัพธิ์ได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาอาการปวด หรือความถี่ของอาการที่ลดลง แต่ก็แลกมากับค่าใช้จ่ายที่ถือได้ว่าค่อนข้างสูงไม่น้อยเมื่อเทียบกับวิธีบรรเทาไมเกรนด้วยการรับประทานยาแก้ปวด

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก 

• https://www.migrainethailand.com/botox-for-migraine/
  
• https://www.thansettakij.com/pr-news/social-biz/540559