เส้นทางอาชีพ ขายแค่ ของหวานรวมมิตร อย่างเดียว ก็กำไรจัดหนัก

ของหวานรวมมิตร ต่างๆ พร้อมวิธีทำ

เป็นเมนูขนมหวานของไทยที่มาพร้อมเครื่องแน่นๆ ราดด้วยน้ำกะทิหรือน้ำหวาน พร้อมโรยหน้าด้วยน้ำแข็ง ทำให้ในการตักทานแต่ละคำจะได้ทั้งความหวาน หอม นุ่มหนึบ กรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน ไม่ว่าใครที่ได้ทานก็ต้องชื่นชอบแน่นอน 

หากคุณกำลังมองหาวิธีทำของหวานรวมมิตรให้มีรสชาติอร่อย จัดเต็มด้วยเครื่องเน้นๆ ในถ้วย มาทำความรู้จักกับของหวานรวมมิตรที่ถูกต้อง พร้อมกับวิธีทำของหวานรวมมิตรที่ทำตามได้ไม่ยากกันเลยค่ะ

ของหวานรวมมิตร คืออะไร?

เมนูของหวานรวมมิตร มีให้เลือกทานหลากหลายแบบ เช่น ครองครองรวมมิตร ลอดช่องรวมมิตร 

หรือเรียกว่า “ขนมรวมมิตร” เฉยๆ เพียงอย่างเดียวก็ยังมี ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญ หรือต้องการให้ส่วนผสมไหนในชามเป็นจุดเด่น 

หัวใจหลักสำคัญของวิธีทำของหวานรวมมิตรคือการมีเครื่องที่หลากหลายในชามเดียว พร้อมกับรสชาติที่โดเด่นทั้งหวานมันละมุนลิ้นจากรสชาติของกะทิ ทานแล้วเป็นเมนูขนมหวานที่อร่อย เย็นชื่นใจ ยิ่งทานในช่วงอากาศร้อนยิ่งเพิ่มความฟินคูณสอง

ดังนั้นสำหรับวิธีทำของหวานรวมมิตร จึงเป็นวิธีการทำขนมที่ง่ายมาก แค่คุณมีวัตถุดิบครบก็สามารถเริ่มทำทานเอง หรือเริ่มทำขายได้แล้ว!

วิธีทำของหวานรวมมิตรครบเครื่องที่ถูกต้อง 

สำหรับเมนูของหวานรวมมิตร เป็นเมนูที่จะเสริฟให้ใน 1 ถ้วย มีเครื่องหรือส่วนประกอบครบทุกอย่างทั้งครองแครง ลอดช่อง สาคู ข้าวโพด ขนุน ที่เมื่อทานไปแล้วจะได้รสชาติทั้งหอม หวาน มัน เค็ม 

ส่วนผสมของหวานรวมมิตรครบเครื่อง

1. แป้งมัน 500 กรัม
2. กะทิ 500 มล.
3. น้ำตาลทราย 200 กรัม
4. สีผสมอาหารตามชอบ
5. เกลือ 1/4 ช้อนชา
6. ท็อปปิ้งส่วนประกอบอื่นๆ ตามชอบ เช่น สาคู ข้าวโพด ขนุน ฟักทองเชื่อม ลูกชิด วุ้นมะพร้าว ทับทิมกรอบ วุ้นกรอบ แตงไทย

วิธีทำของหวานรวมมิตร

1. วิธีทำของหวานรวมมิตร ขั้นตอนแรกนำน้ำเปล่าปริมาณ 250 มล. นำไปลงตั้งหม้อต้มให้เดือด หลังจากนั้นนำน้ำร้อนที่ได้ มาค่อยๆ เทใส่ลงในแป้งมัน 500 กรัม แต่ทยอยเทจนแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน
2. เมื่อแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน ให้นวดแป้งให้เนียนจนรู้สึกว่าเป็นเนื้อเดียวกัน
3. แบ่งแป้งออกเป็น 4 สี ตามสีผสมอาหารที่จะใส่ (ใครอยากใส่มากกว่า หรือน้อยกว่า 4 สี ก็สามารถปรับลดเพิ่มได้ตามใจชอบ)
4. นำสีผสมอาหารหยดลงในถ้วยเพียงเบาๆ แค่ประมาณ 2-3 หยด แล้วจึงผสมน้ำเปล่าเล็กน้อย คนให้สีและน้ำเข้ากัน จะได้สีสวยไม่เข้มจนเกินไป (ความเข้มอ่อนของสีสามารถปรับเพิ่มได้ตามใจชอบ)
5. หลังจากนั้นนำสีผสมอาหารที่ได้ไปผสมลงในแป้งที่แบ่งเอาไว้ แล้วจึงนวดให้สีและแป้งเข้ากันอย่างทั่วถึงทั้งก้อน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบตาม 4 สี หรือตามจำนวนสีที่เราตั้งใจเอาไว้
6. เมื่อใส่สีครบทุกก้อนแล้ว ให้เลือกแป้ง 2 สีมาทำเป็นครองแครง โดยปั้นแป้งออกมาในลักษณะกลมเรียว
7. วิธีทำของหวานรวมมิตร  ขั้นตอนถัดไปให้นำอีก 2 สีที่เหลือมาทำเป็นลอดช่อง โดยการคลึงแป้งเป็นแผ่นบางๆ และตัดเป็นชิ้นเส้นๆ จนได้เป็นลอดช่อง
8. นำน้ำเปล่าปริมาณ 200 มล. ขึ้นตั้งไฟ จากนั้นนำส่วนผสมอื่นๆ ที่ต้องต้มให้สุกลงไปต้มในหม้อ เช่น สาคู แล้วจึงนำไปพักทิ้งไว้ให้เย็น
9. นำครองแครง และลอดช่องลงไปต้มให้เดือดในน้ำเดียวกัน เมื่อสุกแล้วจึงตักขึ้นจากหม้อ แล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น
10. ต้มกะทิ ด้วยการนำน้ำเปล่า (น้ำใหม่) ปริมาณ 600 มล. ขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เมื่อน้ำเริ่มเดือดเบาๆ จึงใส่น้ำกะทิปริมาณ 500 มล. ตามลงไป
11. เมื่อเริ่มเดือดให้ใส่น้ำตาลทราย 200 กรัม (ปรับลดเพิ่มความหวานได้ตามใจชอบ) เคี่ยวจนรู้สึกว่าน้ำตาลเริ่มละลาย แล้วเติมเกลือปริมาณ 1/2 ช้อนชา ตามลงไป คนให้ทั้งน้ำตาลและเกลือละลายจนหมด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟ และนำขึ้นพักให้เย็น
12. วิธีทำของหวานรวมมิตรขั้นตอนสุดท้าย ให้นำครองแครง ลอดช่อง และสาคูใส่ลงในน้ำกะทิหลังจากที่เย็นลงแล้ว ตามด้วยส่วนประกอบอื่นๆ ตามใจชอบ เช่น ข้าวโพด ขนุน โดยเฉพาะขนุนห้ามพลาดที่จะใส่ เพราะเป็นผลไม้ที่จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับรวมมิตรของเราได้เป็นอย่างดี
13. พร้อมตักเสิร์ฟขนมหวานรวมมิตรสุดฟิน เพื่อเพิ่มความอร่อย เย็นชื่นใจมากขึ้น แนะนำให้ใส่น้ำแข็งเพื่อเพิ่มความสดชื่น เห็นไหมคะว่าวิธีทำของหวานรวมมิตรแบบครบเครื่องทำได้ไม่ยากเลย

เพิ่มความน่าทานสำหรับเมนูของหวานรวมมิตร

1. การทำลอดช่องด้วยสีจากใบเตย

อีกส่วนประกอบในวิธีทำของหวานรวมมิตรที่ขาดไม่ได้ คือ ลอดช่อง เพราะจะช่วยเพิ่มรสชาติหวานมัน และมีรสสัมผัสที่นุ่มละมุน 

เราจึงจะพามาดูวิธีการทำของหวานรวมมิตร ในรูปแบบของลอดช่องที่ละเอียดมากขึ้น เพื่อที่คุณจะได้ทำของหวานรวมมิตรได้อร่อยมากยิ่งขึ้นไปอีก 

ส่วนผสมในการทำลอดช่อง

1. แป้งมัน 240 กรัม
2. แป้งข้าวเจ้า 75 กรัม
3. ใบเตยสด ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นหยาบ 15 ใบ
4. น้ำเปล่า 500 กรัม (สำหรับทำน้ำใบเตย)

วิธีทำลอดช่อง 

1. นำแป้งมันและแป้งข้าวเจ้าเทลงในชามผสม 

2. จากนำใบเตยและน้ำเปล่า 500 กรัมใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียดแล้วกรองแต่น้ำ 

3. นำน้ำใบเตยที่กรองแล้ว ไปต้มให้เดือด จากนั้นนำไปเทลงในชามแป้งที่ผสมไว้ แล้วรีบตะล่อมให้แป้งเข้ากันกับน้ำใบเตย 

4. เมื่อแป้งเริ่มอุ่นแล้ว ให้ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม จากนั้นนำแป้งมาเริ่มคลึงให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วจึงตัดให้เป็นเส้นๆ แนะนำให้ช่วงที่ตัดควรโรยแป้งมันกันเอาไว้ด้วย เพื่อไม่ให้แป้งแต่ละเส้นที่เราตัดออกมาติดกัน
5. เมื่อตัดแป้งเป็นเส้นๆ ครบหมดแล้ว ให้นำน้ำเปล่าขึ้นตั้งไฟจนเดือด แล้วจึงแบ่งแป้งทีละน้อย ค่อยๆ นำลงไปต้ม
6. เมื่อใส่จนแป้งลอยตัวขึ้นมาแสดงว่าแป้งสุกแล้ว ให้ตักขึ้นใส่น้ำเย็นที่เตรียมเอาไว้ เพื่อทำให้แป้งเย็นตัวลง แล้วจึงใส่ภาชนะให้แป้งลอดช่องสะเด็ดน้ำ
7. เสร็จเรียบร้อย! เพียงแค่นี้คุณก็จะมีลอดช่อง สำหรับเป็นส่วนประกอบในการทำของหวานรวมมิตร ที่ถูกต้องแล้ว

2. วิธีทำครองแครงด้วยสีจากดอกอันชัญ

ครองแครง ถือเป็นขนมหวานที่ขาดไม่ได้ในของหวานรวมมิตรเลย เพราะเป็นอีกหนึ่งตัวชูโรงที่ให้รสสัมผัสเหนียวนุ่ม ยิ่งทานยิ่งอร่อย แถมเรายังใช้สีน้ำเงินจากดอกอัญชันมาแต่งสันสันให้สวยงามน่ากินมากขึ้นได้อีกด้วย 

ส่วนผสมในการทำครองแครงดอกอัญชัน

1. แป้งมัน 500 กรัม

2. แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม

3. น้ำเปล่า 130 กรัม

4. ดอกอัญชันสด 20 ดอก

วิธีทำครองแครง

1. นำแป้งมันและแป้งข้าวเจ้าใส่ลงในชามผสม แล้วจึงใส่น้ำดอกอัญชันที่คั้นแล้วลงไป 

2. ตั้งหม้อต้มดอกอัญชันจนน้ำเป็นสีน้ำเงินเข้ม จากนั้นกรองเอาแต่น้ำ

3. เทน้ำดอกอัญชันลงในชามผสมแป้ง แล้วตะล่อมให้แป้งเข้ากันกับน้ำดอกอัญชัน จากนั้นนวดให้แป้งและสีเข้ากันได้อย่างทั่วถึง

4. เมื่อได้แป้งที่สีทั่วถึงแล้ว มาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ ประมาณนิ้วก้อย หรือประมาณ 2 นิ้ว แล้วจึงกดลงพิมพ์ครองแครงจนเกิดลาย

5. จากนั้นจึงนำตัวครองแครงลงไปต้มให้น้ำเดือด ค่อยๆ ทยอยใส่ลงไป เสร็จแล้วรอจนแป้งครองแครงเดือดจึงค่อยตะกขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น เพื่อให้แป้งเย็นตัวลง และเพื่อไม่ให้แป้งเกาะตัวติดกัน 

6. เพียงเท่านี้เราก็จะได้แป้งครองแครงสำหรับนำไปเสริฟในเมนูรวมมิตรสุดอร่อยแล้ว

เคล็ดลับวิธีทำของหวานรวมมิตรที่ถูกต้องให้อร่อย

1. วิธีทำของหวานรวมมิตรไม่ควรแยกออกเป็นแต่ละส่วนประกอบแล้วมาใส่กะทิที่หลังเพื่อเสิร์ฟ แนะนำให้ใส่ส่วนผสมของหวานรวมมิตรลงในกะทิพักเอาไว้เพื่อตักเสิร์ฟได้เลย เพราะจะทำให้แต่ละสีส่วนประกอบ ทั้งครองแครง ลอดช่อง หรือส่วนประกอบอื่นๆ มีการดูดซึมน้ำกะทิที่หวานมันเอาไว้แล้ว ทำให้จะได้รสชาติที่อร่อยมากกว่า
2. แนะนำให้ใส่ขนุนหั่นชิ้นเล็กๆ ลงไปในน้ำกะทิ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมที่มากขึ้น แต่ใครจะเพิ่มขนุนลงไปในชามตักเสิร์ฟ ก็ยิ่งหอมหวานชื่นใจมากขึ้นไปอีก
3. แนะนำให้ใส่น้ำแข็งในชามที่เสิร์ฟ เพราะจะช่วยเพิ่มความอร่อยเย็นสดชื่นให้ของหวานรวมมิตรของเรา