หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“ม้าเลือดร้อน” กับ “ม้าเลือดเย็น” เป็นอย่างไร

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์

“ม้าเลือดร้อน” กับ “ม้าเลือดเย็น” เป็นอย่างไร

เห็นห้วข้อแล้วหลายคนอาจจะรู้สึกมีนึงงสงสัยว่ามันคืออะไร เพราะทุกคนที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะชีววิทยาก็รู้อยู่ว่า ม้าเป็นสัตว์เลือดอุ่นเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น แล้วมันจะมี “เลือดร้อน” หรือ “เลือดเย็น” อะไรได้ด้วย

ความจริงแล้ว คำว่า “เลือดร้อน” หรือ “เลือดเย็น” ที่ว่านี้ ไม่ได้หมายถึงอุณหภูมิในตัวม้า เพราะไม่ว่าจะเป็นม้าประเภทใด อุณหภูมิในร่างกายก็จะอยู่ที่ประมาณ 38 องศาเซลเซียสเท่ากัน แต่คำว่าเลือดร้อนหรือเลือดเย็นนั้นเเป็นคำที่ใช้ในวงการเพาะเลี้ยงม้าเพื่อจำแนกประเภทของม้าตามลักษณะนิสัยและการใช้งานต่างหาก

ม้าเลือดร้อน (Hot Blood Horse) หมายถึงม้าที่มีลักษณะพยศ มีความตื่นเต้นตื่นตัวสูง มีความปราดเปรียวและฝีเท้าจัด แต่มีขนาดเล็กและความอดทนไม่มาก ต้องมีการดูแลอย่างดี จึงเหมาะกับการใช้เป็นม้าสำหรับขับขี่ หรือม้าที่ใช้ในกีฬาแข่งม้า ม้ากลุ่มนี้มักจะเป็นม้าสายพันธุ์เอเชีย เช่น ม้าพันธุ์อาหรับ

ม้าเลือดเย็น (Cold Blood Horse) ส่วนมากหมายถึงม้าที่โหดเหี้ยม เอ๊ย ไม่ใช่ เป็นม้าที่มีนิสัยสงบไม่พยศ ฝีเท้าไม่จัดมาก แต่มีความแข็งแรงและน้ำอดน้ำทนสูง ตัวใหญ่และรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี จึงเหมาะกับการใช้เป็นม้าสำหรับใช้งานทั่วไป เช่น ลากรถลากเกวียน รวมถึงการทำงานในไร่นา เช่น การเทียมแอกสำหรับไถนา (ฝรั่งใช้ม้าไถนากันเป็นเรื่องปรกติ ขนาดหน่วยแรงยังเรียกว่า “แรงม้า” เลย) รวมถึงม้าสำหรับอัศวินฝรั่งสมัยก่อนซึ่งสวมชุดเกราะทั้งตัวมีน้ำหนักมาก ต้องใช้ม้าเลือดเย็นที่มีความแข็งแรงมากได้เช่นกัน ม้าเลือดเย็นส่วนใหญ่จะเป็นม้าพันธุ์เมืองของยุโรป

นอกจากนั้น ยังมีม้าที่เรียกว่า ม้าเลือดอุ่น (Warm Blood Horse) ซึ่งเป็นม้าที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างม้าสองประเภทแรก เพื่อให้ได้ม้าที่มีลักษณะผสมระหว่างม้าเลือดร้อนและม้าเลือดเย็น คือมีฝีเท้ารวดเร็วพอสมควร และมีความแข็งแรงอดทน ดูแลง่ายกว่าม้าเลือดร้อน จึงทำให้กลายเป็นม้าที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในวงการแข่งขันและในการใช้งาน

สาระความรู้เพิ่มเติม

ม้า (ชื่อวิทยาศาสตร์Equus ferus caballus) เป็นชนิดย่อยหนึ่งในสองชนิดของ Equus ferus หรือม้าป่าที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมกีบคี่ในวงศ์ Equidae ม้ามีวิวัฒนาการมากว่า 45 ถึง 55 ล้านปีจากสิ่งมีชีวิตหลายกีบเท้าขนาดเล็กสู่สัตว์กีบคี่ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน มนุษย์เริ่มนำม้ามาเลี้ยงเมื่อราว 4,000 ปีก่อนคริสตกาล และเชื่อว่าการเลี้ยงแพร่หลายเมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ม้าชนิดย่อย caballus เป็นม้าบ้านแม้ว่าจะมีประชากรม้าบ้านบางส่วนจะอาศัยอยู่ในป่า เช่น ม้าเถื่อน (feral horses) ม้าเถื่อนไม่ใช่ม้าป่าที่แท้จริง ดังเช่นม้าป่ามองโกเลียซึ่งถูกแบ่งแยกออกมาเป็นชนิดย่อยและเป็นชนิดเดียวที่เหลืออยู่ของม้าป่าที่แท้จริง คำว่าม้าเถื่อนใช้เพื่อแสดงว่าม้านี้ไม่ใช่ม้าบ้าน มีคำศัพท์เฉพาะมากมายที่ใช้อธิบายแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับม้า ครอบคลุมจากกายวิภาคถึงช่วงชีวิต ขนาด สี สัญลักษณ์ การเพาะพันธุ์ การเคลื่อนไหว และพฤติกรรม

กายวิภาคของม้าช่วยให้ม้าใช้ความเร็วในการหนีนักล่า และม้ายังพัฒนาความสมดุลได้อย่างยอดเยี่ยมและสัญชาตญาณสู้หรือถอยที่แข็งแกร่ง ม้ายังมีลักษณะพิเศษเพื่อใช้สำหรับหลบหลีกนักล่า คือ ม้าสามารถยืนหลับหรือล้มตัวลงนอนหลับก็ได้ ม้าตัวเมียจะอุ้มท้องประมาณ 11 เดือน ลูกม้าจะยืนและวิ่งได้ในเวลาไม่นานหลังกำเนิด ม้าบ้านจำนวนมากจะเริ่มฝึกภายใต้อานม้าหรือบังเหียนระหว่างอายุสองถึงสี่ปี ม้าจะโตเต็มที่เมื่ออายุห้าปี และมีช่วงอายุประมาณ 25 ถึง 30 ปี

สายพันธุ์ม้าแบ่งคร่าว ๆ ออกเป็น 3 ประเภทตามลักษณะนิสัย พวก "เลือดร้อน (hot blood)" ที่เร็ว ทนทาน "เลือดเย็น (cold blood)" เช่น ม้าแคระ และม้าพันธุ์เล็กบางพันธุ์ ที่ช้าแต่มั่นคง ทำงานหนัก และ "เลือดอุ่น (warmblood)" ที่พัฒนามาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างเลือดร้อนและเลือดเย็น เป็นการเพาะพันธุ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานพิเศษบางประการ โดยเฉพาะในยุโรป ม้าบ้านมีมากกว่า 300 พันธุ์ในปัจจุบัน เป็นการพัฒนาเพื่อการใช้งานที่ต่างกันไป

ม้าและมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างหลากหลายทั้งในการแข่งขันกีฬาและงานที่ไม่ใช่กิจกรรมสันทนาการ เช่น งานตำรวจ การเกษตร การบันเทิง และการบำบัดรักษา ในอดีต มีการนำม้ามาใช้งานในสงคราม ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการพัฒนาเทคนิคการขับขี่ที่หลากหลาย โดยใช้ลักษณะที่แตกต่างของอุปกรณ์และวิธีการของการควบคุม มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างได้จากม้า ประกอบด้วย เนื้อ นม หนัง ขน กระดูก และยาที่สกัดมาจากน้ำปัสสาวะของม้าตัวเมียที่ตั้งครรภ์

เทพนิยายเกี่ยวกับม้า เพกาซัสเกิดมาจากนางกอร์กอน เมดูซา ถูกวีรบุรุษเพอร์ซีอุสฟันคอขาดตาย ในขณะที่นางสิ้นใจตายนั้น เพกาซัสก็กระโจนออกมาจากลำคอของนาง ไม่มีใครสามารถปราบเพกาซัสได้เลยสักคน ตอนที่มันเกิดมาใหม่ ๆ และออกวิ่งอย่างคึกคะนองนั้น น้ำที่กระเซ็นจากรอยเท้าที่มันวิ่งก่อให้เกิดน้ำพุสวยงาม คือน้ำพุพีเรเนียน (Pyrenean spring)

.

.

คลิปวีดีโอเพิ่มเติม👇👇

https://youtu.be/KqipPtxFzfM

โพสท์โดย: พระบิดา
อ้างอิงจาก: https://animalcorner.org/blog/hot-cold-warm-blooded-horses/
และ https://www.whickr.com/blog/hot-warm-and-cold-blooded-understanding-horse-types/ ,วิกิพีเดียและ YouTube
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: Thorsten, นายคำโดย คูชมไผ่
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ภาพที่เห็นไม่ใช้เส้นมาม่า..แต่มันคือต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่า! ทำให้เห็นระบบลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของต้นไม้จากรากสู่ใบลิซ่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะพายุลูกเห็บถล่ม ไก่ตาย 2 หมื่นตัว สูญเงิน 3 ล้านดราม่า โง่หรือฉลาดที่ไปฟัง "เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์"ดราม่า! ชมพู่ อารยา ดุพี่ยุ ชาวเน็ตแห่เม้นต์ แม่วีนแรงไปไหม พูดดีๆก็ได้เกิดเหตุกราดยิงที่ฝรั่งเศสตำรวจหญิงชาวจีนเป็นไวรัล เนื่องจากสวยหนักมาก!!ลดน้ำหนัก จนสร้างสถิติลงบันทึกในกินเนสส์ฮ่องกงเตือนภัยพายุระดับสีแดง หลังฝนตกน้ำท่วมหนัก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดราม่า โง่หรือฉลาดที่ไปฟัง "เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์"ลดน้ำหนัก จนสร้างสถิติลงบันทึกในกินเนสส์พายุลูกเห็บถล่ม ไก่ตาย 2 หมื่นตัว สูญเงิน 3 ล้าน
ภาพที่เห็นไม่ใช้เส้นมาม่า..แต่มันคือต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่า! ทำให้เห็นระบบลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของต้นไม้จากรากสู่ใบสาวโพสถาม? ติดใจแฟนเก่าเรื่องบนเตียง ผิดมากมั้ยคะ!หนุ่มสงสัย? ทำไมฝรั่งถึงไม่นิยมใส่ทองคำ และของมีค่าเวลาไปเที่ยว!!ลาวประกาศแจ้งเปลี่ยนชื่อเรียก "รถดูดส้วม" ใหม่ เปลี่ยนมาเป็น "รถบริการดูดน้ำเปื้อน"?
ตั้งกระทู้ใหม่