แผนระบายน้ำใหม่ต้องรีบ ชาวบ้านรอน้ำลดเพราะเดือดร้อนหนัก
ในช่วงเดือนกันยายนต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบัน ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอีกครั้ง ทั้งในส่วนของภูมิภาค และเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร เนื่องจากพบร่องมรสุมพัดผ่านมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง สร้างความท้าทายให้กับ กรมชลประทาน สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นอย่างมาก โดยนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี เผยว่า จากกรณีพบร่องมรสุม ทำให้ต้องระบายน้ำเข้า 2 ทุ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้นทุกประตูระบายน้ำ เช่น
- ประตูระบายน้ำพลเทพ 50 (20)ลบ.ม./วินาที
- ประตูระบายน้ำบรมธาตุ 150 (85))ลบ.ม./วินาที
- ประตูระบายน้ำโผงเผง 909( 873 )ลบ.ม./วินาที
- ประตูระบายน้ำบางบาล 249 (228) ลบ.ม./วินาที
-
โดยกำหนดแนวทางการระบายน้ำ ดังนี้
ด้านนายณัฐวุฒิ ฯ ได้กล่าวผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า “เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ยกเว้นกรณีเพิ่มการระบายน้ำที่ ประตูระบายน้ำพลเทพ (50) โดยเฉพาะ ประตูระบายน้ำบรมธาตุ (150) มากเกินไป ต้องสลับให้มีวันระบายน้ำลดลง เพื่อให้เวลาน้ำที่ระบายไปได้มีเวลาไหลลง และต้นทุนน้ำสะสมที่มีอยู่เดิมในทั้ง 2 ทุ่ง และในแม่น้ำท่าจีน (ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ) สูงอยู่แล้วทุกทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ทุกทางที่ล้อมรอบทั้ง 2 ทุ่ง รวมแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำสูงมาก ยากที่จะระบายออกไป ส่วนทุ่งโพธิ์พระยา จังหวัดสุพรรณบุรี นอกจากน้ำที่ระบายเพิ่มยังมีน้ำจากที่อื่น เช่น เขื่อนกระเสียว คลองจรเข้สามพัน ยางยี่แส ลงมาเพิ่มเติมอีกด้วย แต่ไหลออกได้มีเฉพาะด้านแม่น้ำท่าจีนซึ่งล้นฝั่งแล้ว ส่วนกรุงเทพฯ ฝนตกหนักมาก มีน้ำท่วมหลายพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาสูงมาก และเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ต้องป้องกันน้ำระบายเพิ่มเข้าไปอย่างแน่นอน”















