ในวันที่มีเกย์มา นอนอยู่ข้างๆฉัน - เรื่องสั้นไม่มาก..จากชีวิตจริง (18+)
เรื่องทีผมจะเล่าเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมเมื่อปีที่แล้วครับ ผมได้ไปเรียนภาษาที่เมืองนิวยอร์ค อเมริกา ผมได้ไปพำนักพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง มีคุณป้าชาวอเมริกาใต้วัยชราอายุ64 เป็นเจ้าของห้อง ขอเรียกว่า "อพาร์ทเม้นคุณป้า" ละกัน คุณป้าแกแกมีห้องให้เช่าอยู่สองห้องครับ ผมอยู่ห้องนึง ส่วนอีกห้องนึงเป็นของนักเรียนคนอื่น ก่อนหน้านี้เป็นหนุ่มชาวยุ่น แต่พอชาวยุ่นย้ายออกไป ก็มีชาวซาอุดิอาระเบียเข้ามาอยู่แทน
.
อพาร์ทเม้นคุณป้าจะมีกฎเหล็กอยู่หนึ่งข้อ คือ ห้ามกลับดึกหลังเที่ยงคืน ด้วยกฎเหล็กข้อนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องที่ผมจะเริ่มเล่า
.
.
ไอ้หนุ่มซาอุที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ มีนามว่า “อับดุล” แน่นอนครับ..เค้าเป็นมุสลิม อายุ 20 ปี ผิวสี สูง 170 ซ.ม. ไว้ผมทรงแอฟโฟร่ ถือว่ามีสไตล์ไม่เบา ผมก็มีเวลาทักทายเค้าได้ครั้งเดียวและเป็นเวลาไม่นานครับ เพราะผมต้องรีบออกไปข้างนอก ก็รู้แค่ชื่อเองในวันแรก แต่อับดุลก็ห้าวหาญพอสมควร เพราะคืนแรกเค้าไปกินเหล้ากับเพื่อนกลับมาที่ห้องตอนตีห้า มุสลิมกินเหล้า….ครับ!!….ไม่เบาครับ การแหกกฏอพาร์ทเม้นคุณป้าในตั้งแต่วันแรกที่มาพำนักอาศัย จึงทำให้คุณป้าแกไม่พอใจอย่างหนัก ซึ่งเค้าก็รู้ตัวครับว่าทำผิด รู้ว่าป้าต้องโกรธ เค้าจึงพยายามหลบหน้าไม่คุยด้วย สุมอยู่แต่ในห้องนอน ป้าแกก็เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง บ่นยับสไตล์คนแก่
.
.
พอมาวันที่สอง อับดุลก็ไปออกไปหาเพื่อนเหมือนเดิม เค้ากลับมาเวลาเดิมครับ..ตีห้าเศษ ทำไมผมรู้นะหรอครับ เรื่องมันเป็นอย่างนี้..
.
.
เค้าเคาะประตูห้องผมแบบเบาๆ เพราะกลัวป้าแกจะได้ยิน แล้วตื่นมาว่าเค้าเรื่องกลับห้องดึก แต่ผมนอนอยู่คับ จึงไม่ได้ยินเสียง เค้าคงเคาะหลายครั้งมากแล้วไม่ได้รับการตอบรับ ประจวบเหมาะกับประตูห้องผมไม่ได้ล็อค อับดุลเลยเปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบๆครับ…
.
.
เค้าสะกิดหัวเข่าขวาผมเบาๆในขณะที่ผมนอนชันเข่าขวา ผมก็ค่อยๆลืมตาด้วยความง่วง ลืมตามาเจอคนดำๆ ไอ้แสส!! แว้บแรกนึกว่าโจร แต่พอเห็นทรงผมฟูๆก็เลยรู้ว่าเป็นเค้า จากนั้นผมเดินไปเปิดโคมไฟ เค้าบอกให้ผมเงียบๆครับ ผมก็เข้าใจเพราะเดี๋ยวป้าแกจะได้ยินแล้วมาว่าเค้า จากนั้นผมก็ถามเค้าว่า
.
.
ผม : ยูเข้ามาทำไมไม่เคาะประตู
อับดุล : อีนี่ฉานเคาะหลายรอบหลายครั้งแล้ว แต่ยูไม่ได้ยิน
ตอนนั้นผมยังไม่รู้เลย ว่ามันเข้ามาในห้องผมทำไม จึงเกิดคำถามต่อใหม่
ผม : แล้วยูเข้ามาทำไม
อับดุล : อินี่ฉานอยากยืมที่ชาตแบท ฉานลืมไว้บ้านเพื่อน
.
.
โอเค แอบมาปลุกคนให้ตื่นตอนตีห้าเพื่อจะมาอยืมที่ชาตแบท แจ่มจรัสมากครับ แต่เค้าต้องการของซัมซุงคับ ซึ่งผมไม่มี หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องทั่วไปโดยทั้งสองคนนั่งอยู่บนเตียง สภาพตอนนั้นผมง่วงมาก เหมือนละเมอคุยกับเค้า เข้าใจใช่ป่ะคับ อารมณ์คนตื่นนอนมาตอนที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม มันอึนสุดๆ
.
.
เหตุการณ์ตอนนั้นคิดว่า อับดุลแค่เข้ามายืมที่ชาตแบทเฉยๆ ก็เลยไม่คิดอะไร แต่หลังจากนั้นเค้าก็เดินไปปิดไฟที่โคมไฟครับ เค้าคงไม่ได้สิ่งที่เค้าต้องการ เลยคงจะไปปิดไฟให้ผมนอนและลากลับ พอไฟปิด ผมก็นอนลงไปเลยเพราะง่วง และก็ร่ำลากันกับเค้า หลังจากนั้นก็มีเสียงกระทบกับเตียง ลืมตามาอีกทีอับดุลนอนอยู่ข้างๆครับ!!! (เหย!! นี่เมิงยังไม่กลับหรอ นี่มันตีห้าแล้ว ทำไมเมิงไม่ไปนอน แล้วถ้าจะนอน ทำไมเมิงไม่ไปนอนห้องเมิ้ง) เค้าก้อถามว่า ผมมาจากประเทศไหน ผมก็ตอบไปว่าไทย (จังหวะนั้นง่วงมากครับ แทบจะหลับตาคุย ได้แต่ภาวนาให้มันรีบไปเถ้อะ) เค้าก็บอกว่าการนวดของประเทศไทยเจ๋งมาก แล้วก็เอามือมานวดที่ไหล่ผม (โอ้ย!! คุณเมิงจะมาสาธิตการนวดอะไรตอนนี้ ตูไม่ได้เมื่อยยยยยย ตูง่วง ตาตูนี่ไม่เปิดแล้ว คุณเมิงเห็นม้ายยยยย คือนวดเสร็จไปเหอะนะตูขอ แค่นี้ก็ง่วงพอแล้ว) ผมคุยกับเค้าไปเรื่อยๆในสภาพตาปรือจะปิดเต็มที่ หวังว่าอีกไม่นานเค้าคงจะไป มีจังหวะนึงเค้าเอาแขนมากอดผมทั้งตัวครับ ผมรู้สึกได้ในท่านอนหลับตา เลยเอามือซ้ายดันหน้าอกเค้าไปแบบแทบจะไม่มีแรงดันไปด้วยความง่วงและไม่รู้ตัวอะไรมาก และผมก็หลับต่อ ประมาณห้าวินาทีผ่านไป ผมรู้สึกตะหงิดๆ เริ่มตั้งสติได้ เหมือนตัวเองเริ่มตื่นจริงๆ ผมพูดเป็นภาษาไทยว่า “เด๋วนะ!!” แล้วลุกขึ้นจากเตียงมานั่งบนเตียงอย่างช้าๆ (เห้ยนี่ตูไม่ได้ฝันไปใช่ไหม นี่มันเรื่องจริง?? คิดอยู่ในหัวตอนนั้นครับ) จากนั้นก็มีแขนสองข้างมาโอบผมทั้งตัวในท่านั่งอยู่บนเตียง……ไอขี้เกลือ!!! นี่มันไม่ใช่ความฝันจริงๆ ผมสัมผัสได้ มันอยู่ข้างๆผมจริงๆ อับดุลเป็นเกย์!!!
.
.
(ผมมีเพื่อนชาวซาอุอยู่สองคน เค้าเคยบอกว่าคนซาอุไม่กินเหล้า และประเทศเค้าไม่มีเกย์มีตุ๊ด จะไม่มีการมีแฟนเกิดขึ้น ถ้ามีก็ต้องแต่งงานเลย….แล้วนี่อะไร คุณเมิงเป็นคราย? เป็นกบฏใช่ไหม เมิงทำอย่างนี้กับประเทศชาติเมิงได้ยังไง!!)
.
.
เมิงมาฟีลไหนเนี่ย!!! ตูอะฟีลง่วง ฟีลคนอยากนอน แล้วเมิงฟีลหนายยยยไอสาสสส ผมดันเค้าออกไปจากอ้อมกอด พร้อมชวนคุยเรื่องอื่นและทำให้มันพยายามออกไปจากห้องให้ได้ และในที่สุดผมก็โน้มน้าวอับดุลออกไปจากห้องได้ครับ
.
.
ผมตื่นมาอีกทีหกโมงครึ่ง..ตื่นมาด้วยความฉงน งุนงงและทวนกับตัวเองอีกรอบว่า นี่ตูฝันไปรึปล่าว?? แล้วตูต้องเช็คยังไงว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม จะไปถามมันตรงๆก็กลัว เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องจริง มันจะหาว่าเราบ้า สิ่งที่เช็คอย่างแรกคือกางเกง เปิดผ้าห่มดู ว่า ตูยังใส่กางเกงอยู่รึปล่าว?? เห้ยตูยังใส่อยู่นี่หว่า แสดงว่ามันไม่ทำอะไร หรือว่ามันสวนตูดผมในตอนที่ผมใส่กางเกงอยู่ เวรแล้วไง ถ้าโดนสวนตูดแล้วหลังจากนั้นมันจะรู้สึกยังไงวะ คือยังซิงอะ ไม่เคยไง (คือภาวะตอนนั้น คิดไปทางแง่ลบหมดครับ กลัวเอามากๆ) แต่มาคิดๆดูถ้ามันไม่ได้รู้สึกแสบก้นและกางเกงเราก็ยังใส่อยู่ คืนนั้นคงไม่น่าจะโดนอะไร โดนแค่กอดจริงๆ!!!
.
.
ไอเกย์อับดุล มันมากอดกับคนที่เพิ่งรู้จักกันแค่หนึ่งวันได้ไง รู้มั๊ยที่ผ่านมาชีวิตตูโดนอะไรมาบ้างงง!!! ทุกคืนหลังจากนั้น ผมล็อคประตูห้องนอน ใส่กางเกงที่มีเชือกนอนและรัดเชือกไว้ เอาแก้วเล็กๆพิงประตูไว้ เผื่อถ้ามันสะเดาะกลอนได้ พอมันเปิดประตูแก้วจะได้ตก เสียงดัง ทำให้ผมตื่น นี่แหละครับ!!…วิธีการป้องกันตัวของผม T^T
.
.
*เคยมั๊ยครับ….หลายครั้งที่คนเราแยกความจริงกับความฝันไม่ออก อย่างเรื่องที่ผมเจอเมื่อคืนนั้น บางเรื่องทำไปแล้ว แต่คิดว่าได้ทำไปในความฝัน ในความจริงยังไม่ได้ทำ ส่วนบางเรื่องเคยเกิดในความฝัน แต่พอมานึกๆก็คิดว่ามันเป็นความจริง
.
.
สำหรับผมหรอครับ…ไม่ต้องให้ทุกเรื่องที่ฝันเป็นจริงหรอก เพราะเรื่องบางเรื่องนั้นสวยงามและมีคุณค่ากว่าความเป็นจริง..หากมันอยู่ในรูปของความฝัน
#จบแบบนี้ละกันครับ 5555555555555555