นี่แหละเมดูซ่าตัวจริง “ทะเลสาบ-เนตรอน” สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งมีชีวิต “ให้กลายเป็นหินได้!!
นี่แหละเมดูซ่าตัวจริง “ทะเลสาบ-เนตรอน” สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งมีชีวิต “ให้กลายเป็นหินได้
“ทะเลสาบเน-ตรอน” (Lake Natron) ณ ประเทศแทนซาเนีย เป็นทะเลสาบที่มีสีแดงสดชวนสะดุดตา ซึ่งความสวยงามนี้เต็มไปด้วยความอันตราย เพราะมันสามารถเปลี่ยนสิ่งชีวิตที่เผลอตกลงไป “ให้กลายเป็นหินได้ทันที” ผู้คนจึงตั้งฉายาให้ทะเลสาบแห่งนี้ว่า “ทะเลสาบเมดูซ่า” (The Medusa Lake) ตามความสามารถของเทพสาวที่มีเส้นผมเป็นงูนั่นเอง
ที่เห็นเป็นเส้นขาว ๆ ตัดกัน คือเกลือที่จับตัวกัน
ทะเลสาบเนตรอนได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเพราะผลงานของช่างภาพชาวอังกฤษ นิก แบรนท์ (Nick Brandt)
โดยเขาบังเอิญเดินสำรวจบริเวณรอบทะเลสาบ เพื่อตั้งใจจะเก็บภาพผิวน้ำที่มีสีสันแปลกตาแห่งนี้ แต่เขากลับพบซากของสัตว์หลากชนิด ทั้ง นกทั่วไป ฟลามิงโก และค้างคาว ที่นอนเกลื่อนอยู่ใกล้ชายฝั่งในสภาพถูกเกลือห่อหุ้มร่างไว้จนดูคล้ายกับก้อนหินแข็ง และนี่คือบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งกับทาง NATGEO ในปี 2013
“พอจะเดาได้ว่าสัตว์เหล่านี้น่าจะตายเพราะน้ำสีแดงของทะเลสาบแห่งนี้แน่ ๆ เนื่องจากแต่ละตัวมีสภาพเหมือนกันทั้งหมด ผมเลยนำซากของพวกมันมาจัดท่าทางให้เหมือนกับว่ายังมีชีวิตอยู่ และแม่น้ำแห่งนี้ก็ดังไปทั่วโลก”
ซึ่งแบรนท์ยังเล่าต่ออีกว่า เพื่อทดสอบว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นจริงหรือไม่ ? เขาจึงทดลองโดยการนำน้ำสีแดงของทะเลสาบแห่งนั้นมาต้ม โดยไอน้ำที่ระเหยออกมานั้นมีความกัดกร่อนสูงมาก สามารถละลายหมึกบนแผ่นฟีล์มจากกล้องของเขาได้ภายในไม่กี่วินาทีเลยทีเดียว
แน่นอนว่า เมื่อพบสิ่งน่าสนใจขนาดนี้ มีหรือที่ NATGEO จะพลาด : จากการสำรวจและเก็บตัวอย่าง พบว่า ทะเลสาบแห่งนี้มีความเป็นด่างสูง (วัดค่า pH ได้สูงถึงระดับ 10.5) ซึ่งมากพอที่จะเผาไหม้ผิวหนังและดวงตาของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เข้าใกล้หรือตกลงไปในทะเลสาบ และสาเหตุที่ทำให้น้ำมีความเป็นด่างสูงขนาดนี้ก็เพราะ “เกลือเนตรอน” (โซเดียมคาร์บอเนต) จำนวนมาก + ผสมกับแร่ธาตุอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไหลลงมาจากภูเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบ และพอแร่ธาตุมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เกิดการสะสมของตะกอนเพิ่มความเข้มข้นของน้ำมากขึ้นไปอีก
นี่จึงเป็นเหตุให้ เมื่อสัตว์ตัวไหนเผลอตกลงมา มันจะถูกความเป็นด่างเล่นงาน และเมื่อพวกมันตาย ร่างก็จะถูกตะกอนปกคลุม ซึ่งจะทำให้ร่างไม่เน่าเปื่อยแต่จะเต็มไปด้วยผลึกของเกลือคลุมทั่วร่างแทน (ไม่ได้กลายเป็นหิน แต่แค่ถูกเกลือพอกจนดูคล้ายกับหิน)
และสาเหตุที่น้ำเป็นสีแดงก็เพราะ ?
ตอบ : เกิดจากแบคทีเรีย 2 ชนิด Halophile , Cyanobacteria ที่ตัวของมันนั้นมีสีแดงอยู่แล้ว และเป็นแบคทีเรียที่เจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่มีความเข้มข้นของเกลือสูง เหตุนี้จึงทำให้พวกมันยิ่งเติบโตรวดเร็วแบบทวีคูณ ซึ่งหากปีไหนเกิดการระเหยมาก (ลดความเจือจางเพิ่มความเข้มข้น) น้ำก็จะยิ่งแดงมากนั่นเอง
เสริมอีกนิด : ทะเลสาบเนตรอน เป็นทะเลสาบปิดไม่มีการระบายน้ำออกสู่ทะเล ทำให้น้ำในทะเลสาบมีอุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส ด้วยอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้ น้ำก็ยิ่งระเหยอย่างรวดเร็ว-ยิ่งเพิ่มความเข้มข้นและความอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี
Fact – ชาวอียิปต์โบราณใช้ “เกลือเนตรอน” หรือโซเดียมคาร์บอเนตในการดองรักษาอวัยวะภายในของศพที่จะถูกนำมาทำเป็น ‘มัมมี่’ เพื่อไล่ความชื้นออกไม่ให้เน่าเปื่อย และกาลเวลากว่า 3 พันปี ก็พิสูจน์แล้วว่าวิธีของพวกเขาได้ผลจริง ๆ
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/100042409957890/posts/pfbid07W7YpeTwpSy71km2oyP5nSM74RUBHyjcpMQjZ2ogS1C3ig4qf5uHgqHWZFe9nZnDl/