ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ไขร่องลึกและขอบตาดำคล้ำ ดูไม่สดใส ดีจริงไหม? หลังฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน?
เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังก็จะลดลง จึงทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา รวมถึงปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก เหี่ยวย่น ที่กำลังเป็นที่หนักอกหนักใจ เพราะทำให้ใบหน้าโดยรวมนั้นดูเศร้าหมอง ไม่สดใส ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องประสบพบเจอ แต่อย่าเพิ่งถอดใจเพราะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยเติมเต็มให้ใต้ตานั้นดูสดใส และมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง แต่จะมีอันตรายหรือไม่ และ เหมาะกับใครบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมๆกันเลย
ปัญหาใต้ตาเกิดจากอะไร
อายุที่มากขึ้น
การมีอายุที่มากขึ้นถือเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง จึงทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และ บางลง จึงเห็นเส้นเลือดที่อยู่ใต้ตาชัดขึ้น และ เกิดจากการยุบตัวของกระดูกโหนกแก้มส่วนบน ที่เป็นสาเหตุของร่องใต้ตา
โรคภูมิแพ้
คนที่เป็นภูมิแพ้ ร่างกายจะมีการผลิตสาร Histamine จำนวนมากขึ้นมาเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง และ ทำให้เส้นเลือดใต้ตาเกิดการขยายตัว จึงเกิดเป็นรอยคล้ำใต้ตา
การนอนดึกและพักผ่อนน้อย
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน ทำให้ผิวใต้ตาซีดลงและมีสารน้ำคั่งบริเวณใต้ตา จนตาบวมสะสมเป็นถุงใต้ตา และเห็นเส้นเลือดชัดเจน
ดื่มน้ำน้อย
หากร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น จนเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตาได้
การอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ
เช่นการใช้คอมพิวเตอร์หรือจ้างหน้าจอมือถือตลอดเวลาอาจทำให้ตาล้า จนเส้นเลือดใต้ตาจึงขยาย เกิดเป็นรอยคำใต้ตาได้
พันธุกรรม
บางครั้งปัญหาใต้ตาอาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น มีการผลิตเม็ดสีบริเวณใต้ตามากเกิน หรือ โครงสร้างกระดูกใต้ตามีการยุบตัวยุบตัว
โดนแดดบ่อย
การอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ผิวหนังเกิดการผลิตเม็ดสีเมลานิน จำนวนมาก จึงทำให้ผิวใต้ตามีสีคล้ำได้
การขยี้ตาบ่อยๆ
อาจเป็นการทำลายผิว ทำให้เกิดการระคายเคืองจนมีริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือการใช้สารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่จะช่วยเสริมชั้นในผิวหนัง และ เติมเต็มใต้ผิวหนัง ที่เกิดการยุบตัวจนเป็นริ้วรอยร่องลึกให้ลับมาเต่งตึง กระชับ ดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง และ นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำของสารเติมเต็มชนิด HA นี้ ยังจะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ดวงตาให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
- ช่วยลดรอยหมองคล้ำ และ รอยดำใต้ตา ได้ทั้งจาก กรรมพันธุ์ ภูมิแพ้ และการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ
- ช่วยให้ถุงใต้ตาเรียบตึงขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยหางตา รอยย่นรอบดวงตารอยตีนกา
- ช่วยปรับให้ใต้ตาเต็มอิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อว่าเป็นลักษณะที่ดีตาม Mien Shiang หรือศาสตร์ของการทำนายคุณสมบัติคนจากรูปลักษณ์ภายนอก
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง?
- คนที่มีถุงใต้ตาแต่ไม่ต้องการผ่าตัด
- คนที่ไม่อยากลางาน หรือ ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ต้องการเห็นผลรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน และ อยู่ได้นาน
- คนที่มีร่องใต้ตา มีรอยคล้ำใต้ตา ที่แก้ด้วยวิธีอื่นแล้วไม่หาย
- คนที่มีเบ้าตาลึก ตาโบ๋ ใบหน้าดูอิดโรย
- คนที่ต้องอยากดูเด็กลง และดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดแล้วอันตรายไหม?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือเป็นหัตถการมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด เพราะสารเติมเต็มที่ใช้เป็นกรดไฮยาลูโรนิค เอซิด ( Hyaluronic Acid ) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติคล้ายกับคอลลาเจน คือ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว อุ้มน้ำได้ดี และ ช่วยรักษาความชุ่มชื้น นอกจากนี้การฉีดสารเติมเต็มโดยแพทย์ที่ความชำนาญการ ก็จะยิ่งทำให้มั่นใจในผลที่ได้มากยิ่งขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
การคงตัวอยู่ของสาร Hyaluronic Acid นั้นจะขึ้นอยู่กับชนิด และ รุ่นของสาร HA ที่ใช้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน และ จึงค่อยๆสลายไปตามธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่
การฉีดสารเติมเต็มใต้ตานั้นจะใช้ปริมาณอยู่ที่ 2-4 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าหากใช้ปริมาณ CC ที่มากเกินไป อาจทำให้เวลายิ้มแล้วใต้ตาดูบวมเป็นก้อนได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่ได้ผล เกิดจากอะไร?
ส่วนมากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วมักจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอยู่แล้ว แต่จะมีบางเคสที่ฉีดไปแล้วไม่ได้ผล เช่น เคยฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาบ่อยๆ หรือผิวหนังมีความบางมากๆรวมถึงมีถุงใต้ตาร่วมด้วยจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผล หากกรณีนี้อาจพิจารณาการผ่าตัดศัลยกรรมที่เรียกว่า การเกลี่ยไขมันใต้ตา/ยกกระชับใต้ตา และผ่าตัดเพื่อเอาถุงใต้ตาที่นูนๆออก จะได้ผลชัดเจนมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ สำหรับการผ่าตัดนี้จะต้องทำโดยศัลยแพทย์เท่านั้น มีความซับซ้อนมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป
ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถฉีดสลายได้หรือไม่
หากฉีดไปแล้วรู้สึกว่าใต้ตานูนเกินไปหรือฉีดไปแล้วไม่ชอบ/ไม่ชินสามารถฉีดสลายได้ แต่ทุกครั้งของการสลายฟิลเลอร์จะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นบางลง หมายความว่าในรอบต่อไปหากมีการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอีกก็อาจจะรู้สึกว่าใต้ตานูนขึ้นได้ทั้งนี้การฉีดสลายฟิลเลอร์จะเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ให้
ฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?
โดยปกติแล้วก่อนการฉีดสารเติมเต็มแพทย์จะทำการแปะยาชาก่อนทุกครั้งเพื่อลดความเจ็บ และ Hyaluronic Acid จะมียาชาผสมอยู่ จึงไม่รู้สึกเจ็บขณะฉีด
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผู้ที่เคยมีประวัติวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าแพ้ส่วนประกอบของสาร เติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid
- ผู้ที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีดสารเติมเต็มมีภาวะอักเสบติดเชื้อ
- ผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding Disorder) ต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์เท่านั้น
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาทุกชนิด (หากผู้เข้าใช้บริการไม่เคยฉีดยาชาทำฟันมาก่อนควรแจ้งแพทย์ทราบเพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาชา)
- สตรีมีครรภ์และอยู่ในภาวะให้นมบุตร
วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ
- ควรงดยา NSAIDs ,แอสไพริน, งดวิตามินอี และ ยาหรือวิตามินอื่นๆที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด
- งดการออกกำลังกายหนัก หรือ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เพราะอาจทำให้ใต้ตาบวมช้ำมาก
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
ผลข้างเคียงจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอมมีอะไรบ้าง
หลังการฉีดสารซิลิโคนเหลว หรือ สารเติมเต็มที่ไม่ใช่ Hyaluronic Acid แล้วอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หรือผลที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนี้
- เกิดอาการบวมช้ำมาก และอาจทำให้รู้สึกปวดจากการอักเสบหรือติดเชื้อที่ใต้ชั้นผิว
- หากมีอาการอักเสบที่รุนแรงและได้รับการแก้ไขช้าอาจทำให้เป็นหนองจนต้องทำการผ่าตัด หรือ อาจทำให้ตาบอดได้
- ใต้ตาอาจเป็นก้อนแข็งๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติและไม่สามารถฉีดสลายได้
- มีการไหลย้อยของซิลิโคนเหลวทำให้เกิดเป็นถุงใต้ตา
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
สรุปฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
สำหรับการแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นนอกจากจะช่วย เติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูตื่นขึ้น ช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ ได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้ผิวใต้ตามีความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใสมายิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยการเลือกทำหัตถการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกใช้ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสมเหมาะกับคนไข้ในรายนั้นๆ