อยากหน้าใสต้องทำอย่างไร? มีวิธีไหนบ้างช่วยให้หน้ากระจ่างใสและสุขภาพผิวดี
หน้าใส ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะในวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีปัจจัยกระทบกับสุขภาพผิวมากมาย ทั้งความเครียด เวลาพักผ่อนน้อย ความเร่งรีบที่ทำให้การดูแลตัวเองเป็นไปได้ยากขึ้น การปล่อยไว้อาจส่งผลเสียในระยะยาว ทำให้เสียบุคลิกภาพได้ บทความนี้จึงรวบรวมทริคเปลี่ยนหน้าโทรมให้กลายเป็นหน้าใสมาให้เลือก จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
ผิวหน้าใสมีลักษณะอย่างไร?
- ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ
- สีผิวมีความสม่ำเสมอ กระจ่างใสตามสีผิวธรรมชาติ
- ผิวหน้าดูอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น เปล่งประกาย ดูสุขภาพดี
- ไม่มีปัญหาผิวอย่าง สิว ริ้วรอย หรือจุดด่างดำ
สาเหตุที่ผิวหน้าไม่กระจ่างใส
ลักษณะผิวที่ตรงข้ามกับหน้าใส คือ ผิวหน้าที่มีความหมองคล้ำ ดูโทรม ขาดความชุ่มชื่น มีปัญหาฝ้า กระ หรือสิว ซึ่งเกิดได้จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ -ทำความสะอาดผิวไม่ดี : การอุดตันของเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรก ทำให้เกิดความหมองคล้ำและผิวเสียได้ -ขาดการบำรุงที่เหมาะสม : หากไม่มีการบำรุงผิวเลย ก็จะทำให้ผิวมีความแห้ง กระด้าง ดูอ่อนล้าตลอดเวลาเช่นกัน -พักผ่อนไม่เพียงพอ : ระหว่างที่ร่างกายนอนหลับ เซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวจะเกิดการซ่อมแซม หากนอนไม่พอ หรือนอนดีกเกินไปผิวหน้าก็ได้รับผลกระทบ ทำให้ดูโทรมได้ในระยะยาว -ความเครียด : เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของต่อมไขมัน กระทบต่อสุขภาพผิว
ปัจจัยที่มีผลต่อหน้าใส
การจะมีหน้าใส ไร้สิว ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่งได้นั้นต้องควบคุมหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการดูแลตัวเอง และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่หากดูแลทั้งหมดจะส่งผลให้หน้าใสขึ้นได้
- แสง UV การหลีกหลี่ยงแสงอาทิตย์ซึ่งมี UV ที่ทำร้ายผิว จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหน้าเสีย การทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพทุกวัน สวมหมวก หรือกางร่มในวันที่ต้องออกสถานที่กลางแจ้งก็จะช่วยปกป้องผิวได้เช่นกัน
- ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว ผิวที่กระจ่างใสเริ่มต้นจากการมีสุขภาพผิวที่แข็งแรง ซึ่งปกติแล้วโครงสร้างผิวจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่น โดยการบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีจะช่วยเติมน้ำให้ผิวได้
- การดื่มน้ำ วิธีการธรรมชาติอย่างการดื่มน้ำก็ส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดีได้เช่นกัน โดยปกติการดื่มน้ำ 8 - 10 แก้วทุกวันจะช่วยทำให้ผิวรักษาความชุ่มชื้นได้ดี
- การออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดี ทำให้ผิวหน้าได้รับออกซิเจน และยังช่วยควบคุมฮอร์โมนให้ทำงานปกติ ไม่กระทบต่อการผลิตคอลลาเจน นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษออกมาพร้อมเหงื่อได้ด้วยนั่นเอง
- การรับประทานอาหาร อาหารที่มีประโยชน์อย่างผัก ผลไม้ ตระกูลเบอร์รี ปลาทะเล โยเกิร์ต และเต้าหู้ จะมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดีขึ้นได้ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นจากภายใน และควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป มีน้ำตาลหรือไขมันสูงเกินไป เพราะมีสาารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผิวโทรม
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต การรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการมีวินัยในการใช้ชีวิตอย่างสมดุล ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่หักโหมทำงานหนักจนเกิดความเครียด รวมทั้งการไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด สูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีส่วนทำให้ผิวหน้าใสได้
วิธีทำให้หน้าใส มีอะไรบ้าง?
1. สครับผิว
การสครับผิวจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้ดี และเป็นการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ผิวหน้าจึงดูกระจ่างใสขึ้นเมื่อทำเป็นประจำทุกสัปดาห์
2. เปลี่ยนครีมบำรุงผิว
ครีมบำรุงที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์อาจยังไม่เพียงพอต่อการปรับผิวให้กระจ่างใส แต่สารบำรุงอย่างวิตามิน คอลลาเจน และ Brightenning จะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับผิวมีออร่ามากขึ้นได้
3. ฉีดวิตามินซีผิว
การฉีดวิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก ด้วยวิธีการฉีดเข้าสู่ผิวจะช่วยเพิ่มความกระจ่างใสได้ดี เนื่องจากเป็นวิธีที่เห็นผลไวกว่าการกิน สารอาหารจึงเข้าไปบำรุงและฟื้นฟูได้เร็วขึ้น รวมถึงเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้อีกด้วย แต่การฉีดให้เห็นผลควรทำต่อเนื่อง 5 - 10 ครั้ง และเว้นระยะห่างต่อครั้งประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
4. ฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใส เป็นตัวยาที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวเข้มข้นซึ่งสกัดจากธรรมชาติ อย่างกลูต้าไธโอน คอลลาเจน วิตามิน ที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส และยังมียี่ห้อมาเด้คอลลาเจนที่มีคุณสมบัติในการขับสารพิษในผิวได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว เพิ่มเกราะป้องกันมลภาวะ ควรเลือกคลินิกที่เชี่ยวชาญในการฉีด เพราะอาศัยเทคนิคพิเศษในการฉีดจึงจะได้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัย
5. ทำเลเซอร์หน้าใส
เลเซอร์ที่ช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้นได้จะแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ เลเซอร์หน้าใส และเลเซอร์รักษาหลุมสิว ซึ่งจะใช้เครื่องเลเซอร์คนละแบบ สำหรับคนที่ต้องการให้ผิวเนียนเลือกทำเลเซอร์ Dual Yellow ก็สามารถเห็นผลได้ดี แต่หากเพิ่งหายจากสิว หรือผิวหน้ามีปัญหารอยสิว หลุมสิวเยอะ เลือกเลเซอร์ Picoway จะได้ประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์กว่า โดยการทำเลเซอร์ทั้ง 2 แบบต้องทำอย่างต่อเนื่อง และดูแลผิวให้ดีควบคู่กันไป
อยากหน้าใสเร็วขึ้น เลือกวิธีไหนเหมาะสมที่สุด?
วิธีที่จะเห็นผลความหน้าใสเร็วที่สุดของแต่ละคนจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าที่เผชิญอยู่ ซึ่งการทำหัตถการกับคลินิกความงามจะช่วยเร่งผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นเร็วและชัดเจนกว่าการดูแลแบบทั่วไป แนะนำ 3 วิธีต่อไปนี้
- เลเซอร์หน้า : เหมาะกับคนที่ต้องการผิวเรียบเนียน กระจ่างใส หรือคนที่ต้องการรักษารอยสิว รอยแดง และความหมองคล้ำ
- ฉีดมาเด้คอลลาเจน : การฉีดเมโสหน้าใสยี่ห้อมาเด้คอลลาเจน เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ผิวหน้าหมองคล้ำ ดูโทรม จากการพักผ่อนน้อย ผิวแพ้ง่าย หรือต้องการดีท็อกซ์ผิวให้กลับมาสดใส แข็งแรง ดูเปล่งปลั่ง
- ฉีดวิตามินผิว : เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินผัก ผลไม้ ทำให้ผิวขาดออร่า ดูไม่มีชีวิตชีวา ต้องการเพิ่มความกระจ่างใสแบบดูเป็นธรรมชาติ รวมทั้งคนที่ป่วยบ่อย ภูมิคุ้มกันต่ำ
วิธีเลือกคลินิกทำหน้าใสที่น่าเชื่อถือ
ก่อนตัดสินใจทำหน้าใสที่คลินิก ควรคำนึงเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของคลินิก เพราะคลินิกที่ดีจะมีความเชี่ยวชาญในการทำ ปลอดภัย ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ คลินิกที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้
- คลินิกมีชื่อเสียง มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ออกให้โดยหน่วยงานรัฐ
- คลินิกเลือกใช้ตัวยาสำหรับทำหัตถการที่เป็นของแท้เท่านั้น
- คลินิกมีอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องเลเซอร์ที่มีความทันสมัย ปลอดภัย เป็นที่ยอมรับระดับสากล
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อช่วยให้เห็นตัวอย่างผลลัพธ์ ประกอบการตัดสินใจ
- คลินิกมีหลายสาขา สามารถเลือกรับบริการได้ใกล้บ้าน
- ติดต่อทำนัดได้ง่าย มีช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวก
- พนักงาน แพทย์ และทีมงานให้บริการดี ขอคำปรึกษาได้ทุกขั้นตอน
สรุป ไม่ว่าใครก็อยากมีหน้าใส ไร้ปัญหาผิว ซึ่งแน่นอนว่าสภาพผิวแต่ละคนแตกต่างกัน เลือกทำตามที่คนรอบข้างแนะนำเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้วิธีที่ตอบโจทย์ แต่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำ เลือกวิธีที่เหมาะสม สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลผิวด้วยหัตถการความงามสมัยใหม่อย่างการเลเซอร์ การฉีดวิตามินผิวหรือการฉีดเมโสหน้าใส
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
สัตว์กินพืชที่อันตรายที่สุด
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
คน 5 กลุ่มที่ไม่ควรแช่เท้าในน้ำอุ่น เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
เมทัลชีท PU คืออะไร? วัสดุที่เหมาะสำหรับบ้านและอาคาร
[ด่วน!] ใกล้สิ้นปีแล้ว จองสถานที่จัดเลี้ยงบริษัท ขอนแก่น ที่ "ร้านคัม" ริมบึงหนองโคตร บรรยากาศดี โปรฯเพียบ!
ทริคประหยัดค่าไฟสูงสุดถึง 50% ต่อเดือน แค่ใช้แอร์ให้ถูกวิธี!



