รักษาหลุมสิวด้วยวิธีไหนเห็นผลเร็ว เลเซอร์ช่วยให้หน้าเรียบเนียนขึ้นจริงไหม?
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยกำจัดหลุมสิวได้อย่างแท้จริง อีกทั้งกำลังเป็นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจของกลุ่มสาวๆมากในปัจจุบันนี้ เพราะช่วยกำจัดจุดด่างดำที่เกิดจากหลุมสิวและช่วยคืนสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น แต่ก็ยังมีบางคนที่กลัวและไม่กล้าสัมผัส เพราะอาจจะคิดว่าเจ็บ เนื่องจากผิวหนังตรงบริเวณใบหน้านั้นค่อนข้างมีความบอบบางมากๆ แต่จริงๆแล้วการเลือกทำเลเซอร์หลุมสิว จะเจ็บจริงหรือไม่ ให้ผลยาวนานแค่ไหนมาไขข้อสงสัยไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ
สาเหตุของการเกิดหลุมสิวมีอะไรบ้าง?
1. สิวที่มีเม็ดใหญ่และแข็งโดยเฉพาะเม็ดสิวหัวช้างที่มีมีการฝังตัวลงลึกถึงชั้นใต้ผิวหนังชั้นในจนเกิดเป็นหลุมลึกและมีพังผืดตามมา 2.สิวที่มีการอักเสบจะมีทั้งเชื้อของแบคทีเรียและน้ำหนองอยู่ภายใน ซึ่งการอักเสบจะมีการก่อให้เกิดเอ็นไซม์ ที่ทำร้ายผิวหนังโดยตรงจึงทำให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อโดยรอบๆมีการถูกทำลายจนกลายเป็นรอยหลุมสิวได้ 3.จากการบาดเจ็บบนใหน้าที่ลึกลงยังผิวชั้นใน การรักษาแผลจะมีการสร้างพังผืดที่ดึงรั้ง จึงทำให้ผิวหนังมีการยุบตัวลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิวและมีการทิ้งรอยนั่นเอง 4.แผลเป็นจากการกดสิว บีบสิว หรือกำจัดสิวไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังขรุขระ ดูไม่เรียบเนียน และ เนื้อเยื่อตรงบริเวณที่เคยมีหัวสิวอักเสบอยู่มีการยุบลง จนกลายเป็นแผลเป็นหรือหลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิวมีกี่ระดับความรุนแรง อะไรบ้าง?
- ระดับทั่วไป Rolling scar มีลักษณะเป็นหลุมแอ่งกระทะ หลุมสิวชนิดนี้จะมีระดับทั่วไป มีความรุนแรงน้อยมากๆ เกิดจากการที่เป็นสิวแล้วไปแกะๆเกาๆอยู่ตลอดเวลา
- ระดับรุนแรงปานกลาง BoxCar scar มีลักษณะเป็นลักษณะที่มีหลุมสิวของรอยแผลความกว้าง ที่ 3-4 มิลลิเมตร มีขนาดปากหลุมและก้นหลุมที่มีความกว้างแบบเท่าๆ กัน ขนาดของขอบหลุมสิวชัด และ ชันมากๆ มีทั้งแบบหลุมตื้นและแบบหลุมลึก รูปทรงของหลุมสิวจะเป็นแบบวงกลม, วงรี ที่เกิดสิวหรืออีสุกอีใส
- ระดับรุนแรงที่สุด Ice Pick scar มีลักษณะเป็นหลุมสิวที่มีขนาดปากแคบแต่มีความลึก รอยแผลเป็นจากการเกิดสิวชนิดนี้มักเกิดจากการกดซ้ำๆ หรือ บีบสิวอุดตันอยู่บ่อยครั้ง ลักษณะจะเป็นรอยหลุมแคบ ก้นลึกแหลม ด้านข้างของแผลจะมีความชัน คล้ายกับรูปทรงกรวย ขนาดจะไม่เกิน 0.5 มม ซึ่งลุมสิวชนิดนี้สามารถรักษาให้หายได้ยากกว่าชนิดอื่น
มีวิธีอะไรบ้างที่รักษาหลุมสิวได้?
- ทาครีม เป็นการใช้ยารักษาหลุมสิว โดยการเลือกใช้ตัวยาที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบ และ ลดไขมันอุดตัน พร้อมทั้งช่วยรักษารอยแผลเป็น อย่าง Niacinamide, Adenosine และ Galactomyces ที่ให้ความชุ่มชื้นได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว แต่อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และไม่สามารถรักษาลุมสิวได้ทุกประเภท
- กินยา เป็นตัวยาที่ช่วยรักษาหลุมสิวได้ดี แต่เป็นยาที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เพราะต้องมีการปรึกษากับหมอผู้ชำนาญการอย่างโดยตรง เช่น โซเตรทติโนอิน (isotretinoin) แต่อาจมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง และ ปากแห้งได้
- ใช้เข็มตัดพังผืด การช่วยรักษาหลุมสิวด้วยมีการเลาะตรงบริเวณที่มีพังผืดใต้ผิวหนังด้วยการใช้เข็มตัดพังผืดออก วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่เป็นหลุมสิวมาอย่างยาวนาน และผู้ที่เป็นหลุมสิวแบบเป็นแอ่งกระทะ ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องพักฟื้นใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- เลเซอร์รักษาหลุมสิว เป็นการเลือกใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิว เพื่อช่วยลดรอยสิวโดยการนำแสงของเลเซอร์ยิงเข้าสู่ตรงบริเวณหลุมสิวกระตุ้นให้เกิดการสร้าง คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวมี ความยืดยุน แข็งแรง หนาแน่นกระชับขึ้น หลุมสิวจึงตื้นขึ้น และ มีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์คืออะไร?
เลเซอร์หลุมสิว คือ การช่วยรักษารอยแผลเป็นที่อยู่ตรงบริเวณบนใบหน้าที่เกิดจากสิว โดยเป็นการเลเซอร์ขจัดผิวหนัวให้เซลล์ผิวของชั้นใต้หนังกำพร้าออก และช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังชั้นหนังแท้มีการซ่อมแซมตัวเองโดยการช่วยผลิตคอลลาเจนขึ้นใหม่เพื่อมาทดแทนเซลล์ผิวหนังที่มีความเสียหาย เพื่อช่วยฟื้นฟูให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนไม่เป็นหลุมเป็นบ่ออีกต่อไป
เลเซอร์รักษาหลุมสิวหายจริงหรือไม่?
การใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิว ให้หายไปได้อย่างรวดเร็ว โดยการใช้คลื่นของลำแสง ที่มีความยาวของคลื่นที่แตกต่างกัน เพื่อยิงเข้าไปสู่ตรงบริเวณผิวหน้า เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวพร้อมกับเป็นการช่วยทำลายพังผืดที่การยึดเกาะตรงก้นของหลุมสิว เพื่อช่วยให้เซลล์ผิวหนังถูกสร้างขึ้นมาทดแทนใหม่
เลเซอร์ที่เหมาะกับการรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง?
- IPL เลเซอร์ที่มีลำแสงที่มีช่วงขนาดของคลื่นแสงที่กว้าง และมีความยาวของคลื่นที่เริ่มตั้งแต่ 420 นาโนเมตร ถึง 1,200 นาโนเมตร ที่สามารถช่วยรักษาปัญหาผิวหน้า รวมถึงหลุมชนิดสิว Rolling scar ได้ แต่ ไม่สามารถรักษาหลุมสิวประเภทอื่นให้เห็นผลได้
- Q-Switched เป็นการช่วยรักษาจุดด่างดำ และปัญหาผิวอื่นๆบนใบหน้า ที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเม็ดสี โดยการใช้คลื่นลำแสง ส่งผลให้มีการช่วยลดการสร้างเม็ดสีและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงทำให้ผิวที่การสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวดูกระจ่างใส อ่อนวัยมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ค่อยได้ผลในการรักษาหลุมสิว
- Picoway เลเซอร์ที่มีการปล่อยพลังงานแบบ Picosecond ซึ่ง 1 Picosecond ต่อ 1 ช็อต หรือเทียบเท่า 1 ในล้านล้านวินาที จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวและยังมีอีลาสตินใหม่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังสามารถทำลายพังผืดใต้ผิว ได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ เพื่อช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่มีรอยแผลเป็นที่เกิดจาดหลุมสิว ที่การยอมรับจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง “Dermatologist” และ ได้รับรางวัล “ The World’s Best Picosecond Laser ” จากการเปรียบเทียบกับเครื่อง pico laser ทั่วโลก
เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีผลข้างเคียงไหม?
ในช่วงแรกๆ หลังทำเลเซอร์หลุมสิว อาจมีผลข้างเคียงในการรักษา เช่น จะรู้สึกอุ่นๆที่ผิว สีผิวจะดูเข้มๆขึ้นเล็กน้อย และ ใบหน้าจะมีการลอกเพราะมีการขาดความชุ่มชื้น หรืออาจมีแผลตกสะเก็ดราวๆ5-7 วัน พยายามอย่า เกา หรือ แกะ หรือมีการลอกผิวหนังตรงบริเวณนั้นออกมาโดยเด็ดขาด เพราะผลข้างเคียงดังกล่าวนั้นสามารถพบเจอได้ตามปกติ เป็นผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังแต่อย่างใด
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์หลุมสิว
- ควรมีการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก และ ปรึกษากับแพทย์ที่ต้องการรักษาด้วยตัวเอง
- งดทานยากลุ่มการเพิ่มฮอร์โมน
- หากมีประวัติการผ่าตัด หรือมีการศัลยกรรมใบหน้ามาให้มีการรีบแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- งดทาครีมกลุ่มที่มีกรดผลไม้ต่างๆ ในช่วง 2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์และ งดสูบบุหรี่ ในช่วง 3-7 วัน
- งดการออกแดดแบบจัดๆในช่วง 1-2 สัปดาห์
หลังทำโปรแกรมเลเซอร์หลุมสิว มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
- ในช่วง 24 ชม.แรก ไม่ควรล้างหน้า
- ในช่วง 3-7 วันแรก ไม่ควรใช้เครื่องสำอางหรือใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรด HA รวมถึงกลุ่มไวเทนนิ่งจนกว่าผิวหน้าจะฟื้นตัวอย่างปกติ
- ในช่วง 1 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดอย่างโดยตรง เพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดการหมองคล้ำได้ง่าย
- ควรมีการบำรุงเซลล์ผิวให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อย 1 เดือน หรือมากกว่าตามที่แพทย์สั่ง
- ควรมีการล้างแผลด้วยเจลล้างหน้าอ่อนโยนไม่ทำร้ายผิว รวมถึงทายาที่แพทย์จ่ายเพื่อลดการอักเสบของผิวจนกว่าผิวจะลอกตกสะเก็ดหมด
เลเซอร์หลุมสิว กี่ครั้งเห็นผล?
ปกติแล้วจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 1 ครั้งหลังการทำ จะรู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยแพทย์จะประเมินว่าควรทำติดต่อกันอีกครั้ง ปกติแล้วจะแนะนำให้ทำอย่างน้อย 3-4 ครั้งติดต่อกันโดยแต่ละครั้งเว้นห่างกัน 4-6 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและมีผิวที่เรียบเนียนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
รูปการเลเซอร์รักษาหลุมสิวด้วยเครื่อง Picoway
สรุป การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่อง Picoway เป็นวิธีที่คุ้มค่ากับการทำหรือไม่? การเลือกเลเซอร์หลุมสิวด้วยเครื่อง Picoway เป็นเลเซอร์พลังงานล่สุดในตอนนี้ สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นให้ดูจางหายลงไปได้ ช่วยคืนสภาพผิวให้แข็งแรง ดูเรียบเนียนเป็นหลุมพระจันทร์ และ กระจ่างใส ไร้จุดด่างดำ ทำให้ดูมีสุขภาพดี เป็นการคืนความมั่นใจให้กับตัวเองอีกด้วย