หน้าโทรมดูหมองคล้ำ แก้ไม่หายต้องทำยังไง มีวิธีที่ช่วยได้ไหม?
ดูแลอย่างดีแต่หน้าก็ยังหมองคล้ำ ปัญหาผิวที่ทำให้โดนทักว่าแก่ เหมือนคนอดนอน ปัญหานี้เป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญ แถมยังรักษาได้ยาก ใช้เวลานานในการเห็นผล แต่ความจริงแล้วยังมีวิธีที่น่าสนใจสำหรับใช้รักษาความหมองคล้ำ ยิ่งนำมาปรับทำร่วมกันก็จะช่วยให้เห็นผลได้ดี จะมีอะไรบ้างตามอ่านด้านล่างนี้ได้เลย
ลักษณะของใบหน้าหมองคล้ำ
ความหมองคล้ำบนผิวหน้า เป็นลักษณะผิวที่สะท้อนความเหนื่อยล้า โทรม ทำให้ดูสูงวัย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดได้กับคนทุกวัย โดยแต่ละคนก็จะมีลักษณะความหมองคล้ำที่ต่างกัน โดยอาการเหล่านี้คือความหมองคล้ำที่สามารถพบได้บ่อยๆ
ผิวสีคล้ำลง
สีผิวที่คล้ำลงกว่าปกติ จะทำให้หน้าดูหมองอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งอาจมีสีที่ไม่สม่ำเสมอได้ด้วยเช่นกัน
ผิวดูหยาบ แห้ง
ผิวแห้งเป็นสัญญาณอันดับต้นๆ ที่สะท้อนความอ่อนแอของผิว เนื่องจากขาดการดูแลที่ดี ใบหน้าจึงดูแห้งกร้าน ไม่อิ่มน้ำตามที่ควรจะเป็น
มีจุดด่างดำ
ความหมองคล้ำของผิวอาจไม่ได้มาจากการที่ผิวหน้าดูหมองลงอย่างเดียว แต่สามารถพบฝ้า กระ ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผิวอ่อนแอ ทำให้ถูกทำร้ายจากมลภาวะได้ง่ายนั่นเอง
หน้าดูโทรม อิดโรย
ในช่วงที่เกิดการหมองคล้ำ นอกจากความแห้งกร้านแล้ว ใบหน้าจะขาดความกระชับ ไม่เต่งตึง เหี่ยวเฉา ซึ่งทำให้ดูโทรมและแก่กว่าวัย
หน้าหมองคล้ำ เกิดจากอะไร?
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความหมองคล้ำมาจากมลภาวะและการดูแลผิวหรือการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ซึ่งมีปัจจัยดังต่อไปนี้
ถูกแสง UV ทำร้าย
การตากแดดโดยตรงเป็นเวลานานและไม่ทาครีมกันแดดป้องกัน UV ก่อน จะทำให้ผิวโดนทำร้ายได้ง่ายมากที่สุด เกิดความหมองคล้ำและปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา
ดื่มน้ำน้อย
น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญในชั้นผิว เมื่อผิวขาดน้ำจะมีความอ่อนแอ ขาดออร่า ดูโทรม และยังถูกทำร้ายจากมลภาวะต่างๆ ได้อีกด้วย
ความเครียด
ความเครียดทำให้ร่างกายเกิดการหลังฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ควบคุมต่อมไขมันให้ทำงานหนักขึ้น มีการผลิตน้ำมันมาก จึงเกิดปัญหาสิวและความหมองคล้ำตามมา
สภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม
โดยปกติการนอนในห้องแอร์ หรือเจออากาศหนาว ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลง มีสภาพแห้งกว่าปกติ ทำให้ใบหน้าหยาบกร้านและดูหมองได้
อายุที่มากขึ้น
ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างอายุ เป็นต้นเหตุของผิวหน้าหมองคล้ำที่แก้ได้ยาก ทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความคล้ำก็จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ปกติแล้วผิวหนังจะมีการผลัดเซลล์ทุกๆ ประมาณ 28 วัน แต่บางครั้งเมื่อถึงคราวที่ผิวไม่สามารถผลัดเซลล์ได้ด้วยตัวเอง หรือมีระยะในการผลัดเซลล์ช้ากว่าปกติก็ส่งผลให้เกิดความหมองคล้ำได้
ข้อเสียของผิวหน้าหมองคล้ำ
เนื่องจากใบหน้าเป็นจุดดึงดูดสายตาอันดับแรก เมื่อต้องพบเจอผู้คนจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมองหน้าได้ ใบหน้าที่หมองคล้ำทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อภาพลักษณ์และการใช้ชีวิตประจำวันหลายประการด้วยกัน
- ดูสูงวัยกว่าความเป็นจริง สัญญาณความหมองคล้ำไม่ว่าจะเป็นสีที่ไม่สม่ำเสมอ ความแห้ง รวมทั้งฝ้ากระ ทำให้ผิวดูผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ทำให้ดูมีอายุ ส่งผลให้คนอื่นเข้าใจผิดได้
- ดูสุขภาพไม่ดี ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น สีเข้ม ยังทำให้ดูเหมือนคนอดนอน หรือคนป่วยได้ แม้ว่าจะอยู่ในภาวะปกติ กระทบกับบุคลิกภาพ ไม่น่ามอง คนรอบข้างไม่กล้าปฏิสัมพันธ์ด้วย และกระทบต่อหน้าที่การงานได้เช่นกัน
- ขาดความน่าเชื่อถือ คนที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะผู้คน เป็นตัวแทนของบริษัท อาศัยภาพลักษณ์ภายนอกเพื่อทำให้คนเชื่อมั่นและอยากทำงานด้วย แต่เมื่อมีใบหน้าหมองคล้ำซึ่งดูโทรม เหมือนคนที่ไม่ดูแลตัวเอง ก็ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และเสียโอกาสทางธุรกิจไปอีกด้วย
- แต่งหน้ายากขึ้น ผิวหมองคล้ำจะมีความอ่อนแอลงจากการที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยง เมื่อหน้าแห้งมากๆ การแต่งหน้าจะทำได้ยากขึ้น รองพื้นไม่ค่อยติดกับผิว ทำให้เสียเวลากว่าเดิม
- ผิวถูกทำร้ายจากมลภาวะได้ง่ายขึ้น เมื่อเกิดผิวหมองคล้ำ ผิวหน้าจะมีความบอบบางและไวต่อแดด ลม หรือการสัมผัสมากกว่าเดิม ทำให้ช่วงนี้เกิดฝ้า กระ สิว รวมทั้งอาการแพ้ตามมาได้ด้วย
หน้าหมองคล้ำแก้ได้หรือไม่?
สำหรับคนที่มีใบหน้าหมองคล้ำอาจรู้สึกว่าแก้ได้ยาก ลองหลายแบบแล้วก็ยังไม่หาย ก็ต้องบอกว่าใบหน้าหมองคล้ำต้องอาศัยเวลาในการแก้ ซึ่งคนที่ลองมาหลายวิธีแล้วแต่ไม่หายสักที ควรเริ่มศึกษานวัตกรรมความงามมาเป็นตัวช่วยสำหรับแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ เพื่อให้เห็นผลได้ไวขึ้น
วิธีแก้หน้าหมองคล้ำแบบเป็นธรรมชาติ
การแก้ผิวหมองคล้ำแต่ละวิธีจะได้ผลช้า-เร็วไม่เท่ากัน และแต่ละคนก็จะเหมาะกับวิธีที่ต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่คาดหวัง
1. กินวิตามินซี
วิตามินซีเป็นสารที่มี Antioxidant ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ โดยเลือกกินเป็นวิตามินซีที่ได้จากธรรมชาติอย่างในผัก ผลไม้ ที่มีสีเหลือง ส้ม ตระกูลเบอร์รี หรือเลือกินวิตามินแบบเม็ดก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี
2. สครับผิว
ผิวที่หมองคล้ำอาจเกิดจากการมีเซลล์ผิวเก่าอุดตัน ไม่เกิดการผลัดเซลล์ ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส การสครับผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ เพื่อมาทดแทนส่วนที่เสียหายไปนั่นเอง สามารถใช้ได้ทั้งสูตร DIY อย่างมะขามเปียก น้ำตาลทราย หรือสครับสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไปก็ได้เช่นกัน
3. ทาครีมกันแดดและครีมบำรุงผิว
แสง UV เป็นต้นเหตุหลักของผิวหมองคล้ำ ควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย และเลือกครีมบำรุงที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาเป็นประจำ เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรง ทนต่อมลภาวะได้ดี หรือเลือกครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน สูตร Brightenning ก็จะช่วยลดความหมองคล้ำได้
4. ทำเลเซอร์ผิว
เลเซอร์ผิวหน้าหรือ Dual Yellow สามารถแก้ปัญหาความหมองคล้ำได้อย่างตรงจุด เหมาะกับคนที่ต้องการเร่งผลลัพธ์ความกระจ่างใส โดยเลเซอร์จะส่งความร้อนไประงับเม็ดสีเมลานิน เกิดการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ความหมองคล้ำค่อยๆ จางลงเมื่อทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่องผิวก็จะดูสดใสขึ้น
5. ฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสเป็นตัวยาที่สกัดจากโคเอนไซม์ กลูต้าไธโอน คอลลาเจนและวิตามิน ใช้ฉีดเข้าไปเพื่อรักษาผิวหน้าหมองคล้ำโดยตรง มีความปลอดภัยสูง สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด ซึ่งตัวยาเมโสหน้าใสมีให้เลือกหลายยี่ห้อตามความต้องการที่ต่างกัน แต่โดยรวมจะช่วยให้ผิวแข็งแรงและดูกระจ่างใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
เลือกคลินิกอย่างไรให้ช่วยรักษาหน้าหมองคล้ำได้ดี
ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์ผิวหรือการฉีดเมโสหน้าใส ล้วนต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การเลือกคลินิกที่ดีก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจทั้งด้านความสะอาด เทคนิคในการทำ รวมถึงผลลัพธ์หลังทำได้ คลินิกที่ดีจะมีลักษณะดังนี้
- คลินิกมีการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือตัวยาที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- คลินิกมีการดูแลความสะอาดที่ดี โดยเฉพาะตรงบริเวณสำหรับทำหัตถการ
- มีผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผู้มากประสบการณ์ทำให้
- สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ดูก่อนตัดสินใจ
- ราคาเหมาะสม สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ได้
วิธีที่ดูแลไม่ให้หน้ากลับไปหมองคล้ำอีก
- หลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์หรือใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- พยายามหลีกเลี่ยงจากความเครียด
- ออกกำลังกายให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดี
- ทำความสะอาดผิวให้หมดจรดทุกครั้ง ป้องกันเมคอัพอุดตันในรูขุมขน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
สรุป
หากมองหาคลินิกที่ช่วยแก้ความหมองคล้ำของผิวได้ มีเทคนิคหลากหลายให้เลือก ตอบโจทย์กับคนยุคใหม่ที่มีประสบการณ์รักษาผิวหมองคล้ำให้กับลูกค้ามามากมาย ที่มีทั้งบริการทั้งเลเซอร์ผิวและฉีดเมโสหน้าใสให้เลือกหลายยี่ห้อที่เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำของแต่ละคนได้