วิวาห์เลี้ยงเดี่ยว ตอนที่ 2 ทำงานวันแรก (3)
ดาวโหลด Ebook ฉบับสมบูรณ์
v
v
v
อ่านล่วงหน้าที่เว็บอื่น ๆ
ธัญวลัย : https://www.tunwalai.com/story/604304
เด็กดี : https://writer.dek-d.com/kesmani/writer/view.php?id=2271834
Readawrite : https://www.readawrite.com/a/5e596cf1b2c61bcfe164112da000b3a2
+++++++++
“รู้ค่ะ คุณอภิรักษ์มาร์กไว้ให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ” มัตสยาหันมายิ้มให้เจ้านายหนุ่มเล็กน้อย เมื่อเขาพยักหน้าเธอจึงหันไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าต่อ
“หมอนี่รู้จักฉันดียิ่งกว่าตัวฉันอีกนะเนี่ย” วาทีพึมพำพลางส่ายศีรษะ
ในการทำงานวันแรกแม้จะติดขัดบ้างแต่ในสายตาวาทีถือว่ามัตสยาค่อนข้างเก่งและไหวพริบดี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แม้บางครั้งเขาจะต้องเข้าไปช่วยบ้าง ไม่ใช่แค่สวย แต่เก่ง วางตัวดี พูดจาฉะฉาน ที่สำคัญดูเธอไม่ได้สนใจเขานอกเหนือจากความเป็นเจ้านายลูกน้อง ตอนแรกที่แดนไทแนะนำมาเขาก็แอบกลัวเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน นั่นทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคนทำงานใกล้ตัวจะเป็นผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่
“ก่อนกลับมีนัดกินข้าวแทรกจากคุณคัมภีร์ที่ร้าน...นะคะ” มัตสยาบอกขณะที่เดินตามหลังชายหนุ่มไปขึ้นรถ
“เวลาได้ใช่ไหม”
“ไม่เกินสามสิบนาทีได้ค่ะ” มัตสยาที่นั่งอยู่บนรถแล้วเรียบร้อยแจ้งเจ้านายขณะที่มือก็พิมพ์หรือไม่ก็จดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
“การประชุมบ่ายนี้ล่ะ” ถ้าปกติคนที่อยู่ข้างเขาตอนนี้คืออนุรักษ์เขาจะไม่ถามมันเลย แต่พอเป็นมัตสยาที่เพิ่งมาทำวันแรกก็อดที่จะถามเพื่อความมั่นใจไม่ได้
“คุณอนุรักษ์แจ้งว่าประสานงานเรียบร้อยแล้วค่ะ” มัตสยาตอบกลับอย่างฉะฉานมั่นใจเต็มเปี่ยม วาทีพยักหน้ารับแล้วหันไปสนใจข่าวสารที่เขามักใช้เวลากับมันทุกครั้งที่นั่งอยู่บนรถ
หลังจากจบจากลูกค้าที่นัดกินข้าวไปคุยเรื่องธุรกิจไป ก็กลับเข้าบริษัทมัตสยาได้คุยกับรุ่นพี่อย่างอนุรักษ์เล็กน้อยก็เตรียมตัวเข้าประชุมพร้อมกับวาทีต่อทันที ไม่รู้เพราะกรรมตามสนองที่ไปโกหกมินลิเอาไว้หรือเปล่า การประชุมจึงกินเวลายาวนานถึงหกชั่วโมง ดังนั้นหลังจากออกจากห้องประชุมสิ่งแรกที่ทำคือโทรศัพท์หาพี่เลี้ยงที่บ้านอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อตอนเที่ยงแอบโทรหาตอนกินข้าวไปแล้วครั้งหนึ่ง
“ค่ะพี่อ้อยยัยหนูเป็นไงบ้างคะ” แม้จะโทรมาบอกเรื่องเลิกงานช้าแต่สิ่งแรกที่หญิงสาวถามถึงคือลูกสาวตัวน้อย
“ไม่งอแงเลยค่ะ เพิ่งกินข้าวอาบน้ำเสร็จ”
“ฝากด้วยนะคะพี่ วันนี้มัทอาจจะกลับช้าหน่อย บอกพ่อกับแม่ด้วยนะคะ และรบกวนพี่อ้อยช่วย ๆ ดูแกให้หน่อยนะคะ” มัตสยาบอกอย่างเกรงใจ แม้เงื่อนไขนี้ทั้งเธอและญารินดาได้แจ้งเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็ตาม
“ได้ค่ะ คุณมัททำงานอย่างสบายใจได้เลย”
“ขอบคุณมากนะคะ” มัตสยาวางสายได้อย่างวางใจเมื่อได้ยินคำยืนยันจากพี่อ้อย จากนั้นก็รีบเคลียร์งานในส่วนของวันนี้ให้เสร็จ แต่ก็ไม่ได้เร่งมาก เพราะรู้ว่าเธอคงจะต้องนั่งทำงานรออยู่อย่างนี้ไปจนกว่าวาทีจะกลับบ้าน นั่นแหละเธอถึงจะได้กลับ
คิดอย่างนั้นนะ เพราะที่เก่าก็เป็นแบบนั้นบ่อย ๆ แม้ตลอดเวลาที่อยู่นั้นเจ้านายจะแค่นั่งดูทีวีหรือเล่นมือถือ ถ้าเจ้านายไม่กลับเธอก็ยังกลับไม่ได้ แต่อนุรักษ์ที่ยังไม่กลับเช่นกันก็เดินเข้ามาบอก
“เคลียร์งานเสร็จก็กลับได้เลยนะครับคุณมัท”
“คุณวาทีกลับแล้วเหรอคะ” มัตสยาถามอย่างแปลกใจ “ตอนไหน” และพึมพำกับตัวเองอย่างงง ๆ เธออยู่หน้าห้องตลอดชายหนุ่มกลับทำไมเธอถึงไม่รู้ หรือตอนคุยโทรศัพท์
“ยังครับ แต่งานคุณเสร็จก็กลับก่อนได้เลย” อนุรักษ์บอกเสียงกลั้วหัวเราะ
“ไม่ต้องรอเหรอคะ” มัตสยาถามย้ำอย่างกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด แต่คนที่ตอบกลับไม่ใช่อนุรักษ์ เป็นคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องอย่างวาที “ไม่ต้อง ถ้างานคุณเสร็จแล้วก็กลับได้เลย งานของผม ผมจะทำเอง”
“อย่างนั้นเหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ” มัตสยารีบยกมือไหว้เจ้านายหนุ่มอย่างดีใจ มองเจ้านายสลับกับอนุรักษ์พร้อมกับรอยยิ้มเต็มวงหน้า
“อื้อ” วาทีรับคำเพียงเท่านั้นก็พยักหน้าเรียกอนุรักษ์แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง
“ใจดีอย่างที่คุณนุบอกเลยนะคะ” มัตสยาบอกอย่างตื่นเต้น เพราะเจ้านายเก่าไม่ใช่แบบนี้ ต้องมาก่อนและกลับทีหลังตลอด
“แค่ได้กลับบ้านต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” อนุรักษ์ไม่ได้ถามเพราะอยากรู้แต่มันเป็นการชวนคุยมากกว่า
“คิดถึงลูกน่ะค่ะ” มัตสยาไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาเอ่ยถึงเด็กน้อยอันเป็นแก้วตาดวงใจสีหน้าและแววตาของเธอนั้นอ่อนโยนลงจนคนฟังอย่างอนุรักษ์ก็สัมผัสได้
“อ้าว นึกว่าโสดเสียอีก แต่สวยขนาดนี้แต่งงานแล้วก็ไม่แปลกหรอกครับ”
“แต่งแล้วเลิกแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ” มัตสยายิ้มฝืน ๆ เล็กน้อย แม้จะผ่านมาเกือบปีแล้วแต่พอนึกถึงเหตุการณ์นั้นทีไรใจมันก็ยังเจ็บปวดทุกที
“อย่างนี้นี่เอง สู้ ๆ นะครับ”
“ขอบคุณค่ะ งั้นมัทขอตัวทำงานก่อนนะคะ แล้วนี่คุณนุจะกลับหรือยังคะ”
“ยังครับ ว่าจะเข้าไปคุยกับคุณวาทีหน่อย” อนุรักษ์พยักพเยิดหน้าไปที่ห้องของท่านประธานหนุ่ม
“งั้นถ้าคุณนุคุยธุระกับคุณวาทีเสร็จแล้วมัทถามเกี่ยวกับเรื่องงานหน่อยได้ไหมคะ” แม้จะมีประสบการณ์การทำงานมาหลายปี แต่เจ้านายคนคนละคนการทำงานจึงรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไป ดังนั้นการได้พูดคุยและมีอนุรักษ์ที่ทำงานกับวาทีได้อย่างคล่องแคล่วกว่ามาสอนงานก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
“ได้สิครับ เอาไว้ผมออกมาคุยด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ เลคเชอร์ที่คุณให้ไปวันนี้มีประโยชน์และช่วยฉันได้มาก ๆ เลยค่ะ”
“เจอมาแล้วใช่ไหมล่ะครับ สาว ๆ น่ะ”
“ค่ะคุณมินลิ”
เมื่อได้ยินคำตอบอนุรักษ์ก็เดินหัวเราะชอบใจเข้าไปหาวาทีในห้อง โดยไม่ได้ขยายความต่อว่าที่หญิงสาวเจอคือคนที่เบาและมารยาทดีที่สุดในบรรดาสาว ๆ ที่เข้าหาวาที ยังมีแบบตัวท็อปเรื่องเหวี่ยงวีน หยิ่งจองหองอีก หวังว่ามัตสยาจะจัดการมันได้ดีเหมือนวันนี้นะ