สุดประหลาดใจ! นักวิทย์พบ 'ปลาแปลกๆเรืองแสงสีเขียว' ได้ในภูเขาน้ำแข็ง
สุดประหลาดใจ! นักวิทย์พบ 'ปลาแปลกๆเรืองแสงสีเขียว' ได้ในภูเขาน้ำแข็ง
นับวันกระแส 'เอเลี่ยน' ยิ่งได้รับความสนใจ และกลายเป็นเรื่องราวที่ไม่ไร้สาระเหมือนดังอดีตที่ผ่านมานัก อันเนื่องจากความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ยิ่งทำให้ความเชื่อที่ว่า 'เอเลี่ยน' หรือ 'สิ่งมีชีวิตต่างดาว' นั้นมีอยู่จริงๆอย่างแน่นอน
เมื่อเร็วๆนี้ สื่อต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวการค้นพบปลาแปลกประหลาดที่มีความคล้ายเอเลี่ยน ในขณะที่มีการเจาะภูเขาน้ำแข็งนอกชายฝั่งของกรีนแลนด์ และการค้นพบปลาลึกลับนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าสิ่งมีชีวิตแปลกๆนี้ แท้จริงคือ ปลาหอยทาก (Snailfish) หรือ Liparidae เป็นตระกูลของปลา scorpaeniform พบอาศัยกระจายอยู่ในเขตน้ำลึกแถบอาร์กติกไปยังมหาสมุทรแอนตาร์กติก และยังเป็นหนึ่งในปลาหอยทากเพียงไม่กี่ชนิดที่อาศัยอยู่ในรอยแยกของภูเขาน้ำแข็งอีกด้วย
นั่นจึงถือว่าได้ว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆที่ปลาตัวเล็กๆหลากสีสัน อย่าง Snailfish ที่มีรูปร่างเหมือนลูกอ๊อด แถมยังมีความสามารถพิเศษด้วยการเรืองแสงเป็นสีเขียวสดใส จะสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัด โดยมันไม่ถูกแช่แข็ง
อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบว่าร่างกายของปลาเอเลี่ยนนี้ แท้จริงแล้วมี โปรตีน Antifreeze สารป้องกันการแข็งตัวสีเขียวเรืองแสงไหลผ่านเส้นเลือด ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยต้านการเยือกแข็งในเส้นเลือด และเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวของมันสามารถเรืองแสงเป็นสีเขียวได้
โดยการค้นพบ โปรตีน Antifreeze นั้นเป็นลักษณะเดียวกันกับปลาอื่นๆจากทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้วิวัฒนาการโปรตีนเหล่านี้อย่างอิสระ ซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายของปลาในสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำแข็ง เช่นเดียวกับสารป้องกันการแข็งตัวที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์รถยนต์ในอุณหภูมิที่เย็นจัดนั่นเอง
โปรตีนถูกค้นพบครั้งแรกในสัตว์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว เมื่อนักวิจัยค้นพบสายพันธุ์ของปลาแอนตาร์กติกที่พัฒนาเทคนิคเพื่อช่วยให้พวกมันอยู่รอด ด้วยการผลิตโปรตีนป้องกันการแข็งตัวเหมือนกับโปรตีนอื่น ๆ แล้วขับออกสู่กระแสเลือด
ทั้งนี้ การเรืองแสงทางชีวภาพเกิดขึ้น เมื่อสิ่งมีชีวิตสามารถเปลี่ยนแสงสีน้ำเงินเป็นแสงสีเขียว สีแดง หรือสีเหลืองได้ แต่เนื่องจากขั้วโลกเหนือและใต้ มีช่วงเวลาแห่งความมืดที่ยาวนาน ปร่ากฏการปลาเรืองแสงลักษณะนี้จึงไม่ใช่เรื่องปกตินัก