ผิวพรรณที่มีสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดูแลและแก้ปัญหาที่ตรงจุด
เวลาที่เราประสบปัญหาในเรื่องผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า หรือแม้กระทั่งผิวกาย รวมไปถึงผิวในบริเวณส่วนอื่นๆของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนนั้นก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกัน สังเกตได้จากบางคนที่เราเห็นว่า แทบจะไม่ได้ดูแลผิวหน้าตัวเองเลย แค่เพียงใช้น้ำเปล่าหรือสบู่เท่านั้นในการทำความสะอาดล้างหน้า แต่ผิวหน้ากับเรียบเนียนและไม่มีปัญหาในเรื่องสิวหรือการระคายเคืองใดๆเลย ต่างกับหลายๆคนที่บำรุงหลายขั้นตอนอย่างเต็มที่ แต่สิวและผิวหน้ากับมีปัญหามากมาย
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลต่อสุขภาพของผิว อย่าลืมว่าผู้หญิงในวัยที่มีประจำเดือน มักมีปัญหาในเรื่องนี้ และเป็นปัญหาคลาสสิคที่ทำให้สาวๆนิยมไปพบแพทย์ที่คลีนิคโรคผิวหนัง เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดในเรื่องของผิวหนัง ทั้งในเรื่องของริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ และสิว เราอาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูและรักษา เพราะบางคนอาจไปใช้เครื่องสำอางที่มีสารอันตราย ทำให้ผิวนั้นได้รับความเสียหายจนถึงชั้นผิวที่ลึกมากยิ่งขึ้น การฟื้นฟูสภาพผิวอาจจะต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยเพิ่มเติม ทำให้ประสิทธิภาพของการบำรุงรักษาผิวนั้นยิ่งเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากในช่วงนี้สาวๆท่านใดกำลังอยู่ในช่วง WFH เว็บไซต์ mgronline ได้แชร์การดูแลผิวไว้ว่า หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ผิวเสีย เช่น แสงแดดที่ส่องผ่านจากทางหน้าต่างซึ่งจะทำให้ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย หรือสภาพอากาศที่แห้งอย่างห้องแอร์ก็จะส่งผลให้ผิวของเราแห้งและเกิดปัญหาผิวตามมา ยังมีเรื่องของมลพิษในอากาศหรือฝุ่นต่างๆ ความเครียดจากการทำงาน การเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ใกล้ตัวเราแม้อยู่ในบ้านและส่งผลให้ผิวของเราอ่อนแอ เกิดริ้วรอยและถุงใต้ตาได้ง่าย รวมทั้งแสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ จึงควรลดแสงสว่างของหน้าจอให้มากที่สุดหรือมีค่าศูนย์ เพื่อลดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ถึง 80% และตั้งหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตาเพื่อลดการเกิดเหนียงและริ้วรอยบริเวณคอ ทาครีมกันแดดเสมอแม้อยู่ในบ้าน สาวๆ หลายคนเข้าใจว่าอยู่บ้านไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ เพราะไม่ได้ออกไปโดนแสงแดดที่ไหน แต่จริงๆ แล้วการทาครีมกันแดดไม่ใช่เพียงแค่การปกป้องผิวจากแสง UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และ UVB ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำจากแสงแดดที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้น ยังต้องช่วยปกป้องผิวจากแสงของหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์ด้วย ยิ่งช่วง Work from home ที่หลายคนอาจจะอยู่กับหน้าจอคอมหรือมือถือนานกว่าปกติ จะส่งผลให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย โดยควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า PA+++ และค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำ ทำความสะอาดและบำรุงผิวอย่างถูกวิธี ควรเช็ดผิวไปตามแนวรูขุมขนบนใบหน้า เช่น เช็ดจากบริเวณหน้าผากไปทางด้านข้างขมับ บริเวณใต้ตาเช็ดลงไปที่บริเวณกรอบหน้า ส่วนบริเวณกลางหน้าให้เช็ดไล่ลงจากระหว่างคิ้วจนถึงปลายจมูก และจากใต้จมูกจนถึงคาง โดยวิธีการเช็ดผิวหน้าแบบนี้จะทำให้ผิวสะอาดยิ่งขึ้นและไม่เกิดปัญหาเรื่องสิวอุดตันตามมา และควรล้างหน้าด้วยความอ่อนโยน และไม่ควรปล่อยให้ผิวแห้งจนเกินไปก่อนการบำรุงผิว ควรบำรุงหน้าด้วยเซรัม หรือโลชั่น แล้วค่อยตามด้วยครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและฉ่ำวาวยิ่งขึ้น และต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดแม้ทำงานอยู่ที่บ้าน