น้องลีแอนน์ของพี่ลีออน
ใน #บันทึกจากผู้หญิงคนหนึ่ง มีเรื่องราวมากมายทั้งทุกข์ เศร้า และความสุข อันเป็นธรรมดาของชีวิตคนหนึ่งคน แต่ใช่ว่าคนเราจะมีแต่ความทุกข์ไปเสียทั้งหมด “ลูก” คือสิ่งวิเศษที่ชุบชูใจหัวใจของคนเป็นพ่อแม่ทุกคน การสร้างเบ้าหลอมที่ดีให้กับลูก แล้วเห็นว่าเขาทำได้ นั่นถือว่าหัวใจรักของแม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว
ความรัก ความเมตตา เห็นอกเห็นใจคนอื่นจากใจนั้น เป็นเรื่องดีงาม และฝึกฝนกันได้ อย่างที่น้องลีออนได้รับการฝึกจากคุณแม่ของเขา การสอนที่ดีที่สุดคือการให้ลงมือทำ ฉันดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ผลงานที่น่ารักชิ้นนี้ต่อผู้คน หวังว่าผู้อ่านจะชอบผลงานชิ้นนี้เช่นกัน
... อักษราลัย ...
ตอนนี้ชมเขียนบันทึกอยู่ในห้องนอนเล็ก มีแมวเพศเมีย “ลีแอนน์” นอนบิดขี้เกียจเหยียดยาวอยู่ข้าง ๆ นาน ๆ จะบิดตัวไปมาพร้อมหาวหวอด ๆ ความน่ารักของมันทำให้ชมวางมือจากงานเขียนบ่อย ๆ เพื่อไปอุ้ม ไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง ไปหอม หน้าตามันเหมือนดอกไม้แรกแย้มเสียจริง ๆ มองทีไรสบายตา สบายใจทุกที ลีแอนน์เป็นแมวลายเสือ ขนสีดำสลับกับสีเทา ตาสีเหลืองอ่อนปนเขียว หางไม่ยาวมากและมีขอดอยู่ตรงปลายหางด้วย น้องลีออน เคยบอกแม่ว่า “หม่าม้า..... หล่าอยากให้นางลีแอนน์มีหางยาวเหมือนนางกำไลมาศ” กำไลมาศคือแมวตัวที่สองของลีออน เป็นแมวสีสวาท มันมีหางยาวมาก เราเอามาเลี้ยงได้ไม่นานมันก็หายออกจากบ้านไป ลีออนออกตามหาหลายวัน ไม่เจอ ชมเลยตัดสินใจไปขอลูกแมวจากคนรู้จักมาให้ใหม่ ก็คือลีแอนน์นี่แหละค่ะ
ชมเป็นคนรักสัตว์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนเป็นเด็กมีแมว มีหมาเป็นของตัวเองมาตลอด ชมก็อยากให้ลีออนมีหมาหรือแมวเป็นชองตัวเองบ้าง บิลลี่กับดุ้กกี้คือหมาหลงที่มาอยู่ด้วย บิลลี่หลงมาตอนโตแล้ว ชมตั้งชื่อให้มันว่า “บุญหลง” แต่พ่อลีออนออกเสียงไม่ได้ ก็เลยเพี้ยนไปเป็น “บิลลี่”
ส่วนดุ้กกี้ตัวนี้ก็เป็นหมาหลงมาเหมือนกัน แต่มาทีหลัง บิลลี่ประมาณปีหนึ่ง ชื่อดุ้กกี้นี้ลีออนเป็นคนตั้งให้ เป็นชื่อหมาในการ์ตูนเรื่องโปรด “Johnny Test”
หน้าบ้านชมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีต้นตำลึงอยู่เต็มไปหมด วันหนึ่งชมไปเก็บตำลึงจะเอามาใส่ต้มมาม่า หมาตัวสีดำสนิทแต่หน้าตาน่าเอ็นดูตัวหนึ่งเห่าชมใหญ่เลย ชมสังเกตว่ามันมีปลอกคออยู่และมีป้ายเล็ก ๆ ห้อยอยู่ด้วย ป้ายนี้แสดงว่ามันได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าแล้ว หมาตัวนี้มีเจ้าของแน่นอน ตัวก็ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี ไม่ได้ผอมกะหร่องจนเห็นกระดูกเหมือนหมาจรจัดข้างถนนที่เราเห็นทั่วไป ชมคิดในใจ “อย่ามาอยู่กับตูเลยนะ แค่บิลลี่ตัวเดียวก็พอล่ะ เลี้ยงไม่ไหวหรอก” ทุกครั้งที่ชมผ่านไปทางนั้นไม่ว่าจะเดินหรือขี่รถจักรยานยนต์ มันจะเห่าทุกครั้ง จะเห่าอะไรกันนักกันหนา (วะ)
อาทิตย์หนึ่งผ่านไป วันนี้มันเลิกเห่า มันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว “เอ๊ะ... มันไปไหนล่ะ” ชมไม่เห็นมันเลย คิดดีใจว่าเจ้าของคงตามเจอและพามันกลับบ้านไปแล้ว ที่ไหนได้พอชมกลับบ้าน มันนอนอยู่หน้าบ้านชมอย่างพินอบพิเทาเรียบร้อยแล้ว ส่งสายตาหวานมาแต่ไกล กระดิกหางทักทายอย่างเป็นมิตร “ว่าแล้วเชียว ว่าต้องมาให้ตูเลี้ยงดู จะบ้าตาย”
ถึงแม้ลีออนจะมีหมาสองตัวแล้ว แต่เขาโปรดปรานแมวมากกว่า แมวตัวแรกที่หลงมาบ้านเรา ลีออนเรียกมันว่า “กี้” กี้เป็นแมวสีขาวเกลี้ยงทั้งตัว ความพิเศษของมันคือตามันมีสองสี ข้างหนึ่งสีเหลือง อีกข้างสีฟ้า ไม่นานมันก็หายไป ชมบอกลีออนว่า “แมวเพศผู้จะไม่อยู่ติดบ้าน เวลามันเป็นหนุ่มเต็มตัว มันจะออกจากบ้านไป ถ้าอยากให้มันอยู่ ต้องจับทำหมัน” ยังไม่ทันได้ทำอะไร มันก็หายจากบ้านไป ไม่ต่างกับตอนที่มันมา ลีออนออกตามหาในหมู่บ้านหลายวัน
แมวตัวที่สองเป็นแมวเพศเมีย “กำไลมาศ” เป็นลูกแมวสีสวาทที่หลงมา ขนของเขาสีอ่อน ๆ สีขาวปนน้ำตาล ชมบอกลูกว่าถ้ากำไลมาศเป็นสาว เราต้องพามันไปทำหมัน ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะมีลูกแมวเต็มบ้าน เราเลี้ยงไม่ไหวแน่นอน นี่ก็ยังไม่ได้ทำอะไร มันก็หายไปอีก ลีออนก็ออกตามหาอีก
“แม่จะขอลูกแมวคนรู้จักให้นะ” ก็เลยได้ลีแอนน์มานี่แหละค่ะ ลีออนรักลีแอนน์มาก ดูแลให้อาหารเช้าเย็น เวลาไปซื้ออาหารแมว เขาจะไม่ลืมที่จะซื้อ “ขนมขบเคี้ยวของแมว” ติดไม้ติดมือมาฝากลีแอนน์ด้วย ปกติเราจะให้ลีแอนน์กินอาหารเม็ด นาน ๆ จะได้กินอาหารเปียกที่ขายเป็นซองเล็ก ๆ ลีออนเรียกว่า “special food” “หม่าม้า..ดูลีแอนน์สิครับ กินมูมมาม ไม่มีมารยาทเลย สงสัยชอบ special food มาก ๆ”
ภาพลีแอนน์นอนหลับตาพริ้มแบบนี้ ทำให้ชมหวนคิดถึงวันที่เราพาลีแอนน์ออกมาจากโรงพยาบาลสัตว์ หลังจากการผ่าตัดทำหมัน ก่อนจะพาลีแอนน์ไปทำหมัน ชมบอกลีออนว่า “ลีแอนน์เป็นน้องของหล่า ตอนนี้ลีแอนน์เป็นสาวแล้ว ได้เวลาพาไปทำหมัน หม่าม้าไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร แต่หล่าต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ไปนับเงินในกระปุกออมสินนะว่ามีทั้งหมดเท่าไหร่ นอกจากค่าใช้จ่ายที่หล่าต้องจ่ายเองแล้ว การดูแลเอาใจใส่หลังการผ่าตัด หล่าก็ต้องรับผิดชอบเองทั้งหมดด้วย”
ลีออนไปนับเงินในออมสินได้เกือบสามพันบาท ชมก็เลยพาเขากับลีแอนน์ไปโรงพยาบาลสัตว์ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดราว ๆ สองพันห้าร้อยบาท ลีแอนน์ต้องนอนค้างหนึ่งคืน พรุ่งนี้หมอจะโทรแจ้งเวลามารับอีกที
ถึงเวลาไปรับลีแอนน์ ลีออนเข้าไปพบคุณหมอด้วยตัวเอง คุณหมอสอนวิธีป้อนยา ป้อนน้ำ และป้อนอาหาร เพราะน้องต้องใส่ที่กันเลีย จึงไม่สามารถกินน้ำและอาหารได้เอง อีกเจ็ดวันหมอนัดตัดไหม ลีออนจ่ายเงินที่เคาเตอร์ด้วยตัวเอง
ตอนพาลีแอนน์ขึ้นรถจะไปทำหมัน ลีแอนน์ไม่คุ้น เลยร้องเสียงดังมาก ลีออนเอามือเข้าไปลูบหัวน้องในกรง ปากก็บอกน้องว่า “ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่นี่”
ขากลับจากการทำหมัน ลีแอนน์ดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมาก ลีออนสงสารน้องจับใจ
เจ็ดวันที่ต้องป้อนอาหาร ยา และน้ำเช้าเย็นนี้ ลีออนทำได้ดีมาก มีความรับผิดชอบสูง ไม่เคยลืมแม้แต่ครั้งเดียว ชมแอบมองจากหน้าต่าง เห็นเขาพูดกับน้องอย่างอ่อนโยน “ลีแอนน์.....กินยาก่อนนะ อย่างอแงพี่ จะได้หายไวไว ไปวิ่งไล่จับกัน” ป้อนเสร็จก็ยังนั่งเล่นเป็นเพื่อนน้องอยู่นานสองนานเชียว จนถึงวันนัดตัดไหม คุณหมอชมว่าแผลน้องแห้งสนิทดีมาก และน้องก็แข็งแรงแล้ว
ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นหรือการเอาใจเขามาใส่ใจเรานี้เป็นสิ่งที่ดีงามมาก เป็นคุณธรรมที่เราต้องได้รับการปลูกฝังเมื่อครั้งเยาว์วัย มันยากเหลือเกินที่จะเกิดขึ้นได้เอง เราเรียกร้องต้องการสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก เราต้องเริ่มจากจุดเล็ก ๆ นี้ซึ่งก็คือการบ่มเพาะความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นให้งอกงามในใจเรา ในใจลูกหลานของเรา ให้เราตระหนักว่าคนอื่นก็เจ็บได้ ร้องไห้เป็นไม่ต่างจากเรา เราต้องการความรักและการยอมจากผู้อื่น ผู้อื่นก็ต้องการสิ่งเดียวกัน เราจะไม่ยึดความรักเอาไว้กับตัว เราจะแบ่งปันออกไป เราจะยอมรับคนที่ต่างจากเรา เราจะมองทะลุผ่านสีผิว เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา มองให้ลึกถึงแก่นว่าเราทุกคนนั้นบอบบางและต้องการการทะนุถนอมเพียงใด
ในฐานะแม่ ชมได้บ่มเพาะคุณธรรมที่สูงส่งนี้ไว้ในใจของ ลีออนเรียบร้อยแล้ว ชมเชื่อเหลือเกินว่าเขาจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพคนหนึ่งของสังคมไทยและสังคมโลก มีความเอื้ออาทรเพื่อนร่วมโลก เห็นอกเห็นใจคนตกทุกข์ได้ยากซึ่งมีอยู่ดาษดื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องยกความดีความชอบให้ “น้องลีแอนน์ของพี่ลีออน”