ไม่มีใครสนใจว่า บุพเพสันนิวาส บิดเบือนประวัติศาสตร์เลยหรือ โดยเฉพาะบทของสุนทรภู่
รีวิว บุพเพสันนิวาส 2 โพสท์นี้ ขอเสนอแง่มุมที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยนะครับ บทความนี้มีสปอยล์จุดสำคัญเนื่องจาก
เป็นจุดที่ไม่น่าพอใจมากที่สุดในภาพยนตร์ ในฐานะผู้ศึกษาวิชาภาษาและวรรณคดีไทย หากใครยังไม่ได้ชมขอให้ข้ามโพสท์นี้ไปก่อนครับ
ผู้โพสท์ได้ไปชม บุพเพสันนิวาส 2 มาแล้ว ในวันพฤหัสที่ 28 กรกฎาที่ผ่านมาซึ่งเป็นรอบปกติวันแรก ผู้คนแออัดมากเนื่องจากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ชมแล้วก็ชื่นชอบเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ แต่มีจุดที่ไม่พอใจร้ายแรง 1 เรื่อง กับจุดที่ไม่ชอบปานกลางอีก 1 จุดเท่านั้น ส่วนจุดเล็กน้อยที่ไม่ชอบนั้นไม่เสียหายอะไรจะไม่ขอพูดถึง จุดปานกลางที่ไม่ชอบคือการย้อนเวลากลับมาของเมทัสเพื่อมาเป็นบรรพบุรุษของตัวเอง จุดนี้ขัดใจพอสมควร แต่จุดที่ไม่ชอบร้ายแรงที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลยนั้นคือบทของครูสุนทรภู่ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
สุนทรภู่ออกบวชนานถึง 20 ปี หลังจากรัชกาลที่ 3 ขึ้นครองราชย์ จำพรรษาที่วัดสระเกศ หรือช่วงปี พ.ศ. 2387 นั้นอาจไปจำอยู่ที่สุพรรณบุรีเนื่องจากมีการสันนิษฐานว่าเป็นปีที่แต่งโคลงนิราศสุพรรณ ท่านเลิกเหล้ามาเกือบ 20 ปีแล้วและเป็นพระสงฆ์ ณ เวลาที่ปรากฎในภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส 2
การแต่งเรื่องให้ท่านเป็นกวีขี้เมาและใช้ไสยศาสตร์ฆ่าคน ณ เวลานั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจรับได้ ถึงแม้ผู้สร้างอาจจะอ้างว่าสมมติ อาจเป็นบุคคลอื่นที่มีชื่อหรือตำแหน่งเดียวกัน(เพราะเวลานั้นสุนทรภู่ตัวจริงเป็นพระ) แต่ในหนังก็ระบุว่าสุนทรภู่ในหนังคือคนแต่งเรื่องพระอภัยมณี
ครูอาจารย์ภาษาไทยและประวัติศาสตร์ได้ชมเรื่องนี้กันบ้างหรือไม่ก็ไม่ทราบครับ อยากทราบความเห็น จะปล่อยผ่านกันหรือ
หลังจากโพสท์เรื่องนี้ไปในเฟสบุค มียูทุบเบอร์และผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแสดงความเห็นดังนี้ ท่านหนึ่งว่าขัดใจในบทนี้เหมือนกัน อีกท่านหนึ่งก็ว่าเป็นบทที่ไม่ควรใส่มาเลยด้วยซ้ำ ครับ ไม่ชอบเลย เปลี่ยนชื่อเป็นตัวละครอื่นก็ยังได้ ทำไมต้องจงใจให้เป็น สุนทรภู่ เขียนบทให้มันว้าวกว่านี้ก็ได้แต่ไม่ทำ เหมือนจงใจจะให้เป็นตัวตลกให้ได้ ตลกแล้วสร้างสรรค์ก็ดีไปแต่นี่มันไม่ใช่เลย
เนื่องจากครูสุนทรภู่ เป็นบุคคลที่ผู้โพสท์ให้ความเคารพสูงสุดในบรรดาครูทั้งปวง จึงขอแสดงความเห็นต่างที่จะไม่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ในบทนี้ แม้ว่าจะเคยดูหนังล้อเลียนบุคคลในประวัติศาสตร์มากมายโดยที่รู้สึกสนุกไปด้วย แต่เมื่อเจอกับตัวเองที่ภาพยนตร์ได้นำปูชนียบุคคลอันเป็นที่เคารพสูงสุดไปดัดแปลงให้เป็นตัวตลก ขี้เมา และฆาตกร จึงขอแสดงความในใจให้ทุกท่านทราบด้วยกันว่าเราเป็นเสียงหนึ่งที่ไม่พอใจภาพยนตร์เรื่องนี้ และเห็นว่า การบิดเบือนประวัติศาสตร์นี้ ร้ายแรงกว่าการใช้ดอกลำดวนตามข้อกล่าวหาของเพื่อนบ้านมากมายนัก
ในส่วนที่ให้เป็นตัวตลกและขี้เมานั้นไม่เท่าไหร่ เพราะท่านครูเป็นคนอารมณ์ดีและขี้เมาจริงตอนเป็นฆราวาส(แต่เวลาในหนังตัวจริงเป็นพระ) และแม้ว่าจะหมกมุ่นไสยศาสตร์จริงบ้าง(ตีความจากผลงานคำกลอนเรื่องต่างๆ มากมาย) แต่ท่านไม่ใช่ฆาตกรอย่างในหนังเป็นแน่