พัฒนาตามวัยของเด็กวัยซนด้วยหลักสูตรที่ให้อิสระในการค้นหาตัวเอง
ด้วยพลังอันเหลือล้นของเด็กวัยเล็กที่เล่นทั้งวันยังไงก็ไม่มีเหนื่อย พ่อแม่พี่เลี้ยง คนดูแลที่คอยตามเด็กๆอาจจะต้องบำรุงร่างกายอย่างเต็มที่ และเสริมความแข็งแรงของทั้งพลังงานและในเรื่องกระดูก เพราะจะต้องวิ่งไล่จับกันทั้งวัน ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องคอบอดทน นับหนึ่งถึงสิบ หรือหนึ่งถึงร้อย หากต้องเจอกับสถานการณ์ที่ความเอาแต่ใจ ความรั้น และไม่เข้าใจของการอดทนรอ และการอยู่นิ่งๆของเด็กวัยนี้
การกรีดร้องของเด็กที่แสดงถึงการไม่ได้ดั่งใจ การไม่ได้ตามที่เรียกร้อง พ่อแม่ต้องคอยสอนให้เขาทำความเข้าใจเบื้องต้นถึงเหตุการณ์ รวมไปถึงการยอมรับว่า ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้เพราะเหตุผลอะไร อย่าเพิ่งไปคิดว่าเด็กวัยนี้ไม่เข้าใจผู้ใหญ่ เพราะเขาเข้าใจมากกว่าและเข้าใจทุกอย่าง เพียงแต่เราต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจอย่างไม่ซับซ้อน เพราะระบบความคิดในเชิงตรรกะของเด็กยังไม่สามารถวิเคราะห์สิ่งเหล่านั้นได้ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงได้อยากให้ลูกได้เข้าเรียนในหลักสูตร English kindergartenที่สามารถช่วยพัฒนาในทุกๆด้านของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดโลกทัศน์ให้พวกเขา การเปิดโลกหรือเรียนรู้โลกภายนอกได้มากกว่าคนอื่น ก็จะได้เปรียบกว่าเด็กที่ไม่เคยได้ออกไปไหน เขาจะได้เห็นอะไรมากมายจากโลกภายนอกและได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ เช่น ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ที่แตกต่างกัน เขาก็จะได้เจอสถานที่ที่แปลกใหม่หลากหลาย และผู้คน อากาศ วัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป เป็นต้น เมื่อใดที่เขาสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว คุณครูอย่างเราก็ต้องคอยดูอยู่ใกล้ๆ และสนับสนุนเขาให้เต็มที่ ค้นพบความชอบจากการเล่น การเล่นมันไม่ใช่แค่การเล่น เพราะกิจกรรมต่างๆ มักจะแฝงความถนัด ของเด็กๆ ไว้เสมอ สังเกตได้จาก เมื่อพวกเขาชอบเล่นสำรวจธรรมชาติ เขามักจะสนใจสัตว์ต่างๆ ต้นไม้ รู้ว่าต้นนี้เรียกว่าอะไร หรือสัตว์ตัวนี้คืออะไร เป็นต้น หากสังเกตดีๆ ยิ่งเด็กๆ ชอบเล่นหรือเล่นซ้ำอยู่บ่อยๆ นั้นก็อาจจะเป็นหนึ่งความถนัดที่เราสามารถส่งเสริมเขาได้ ปล่อยให้ลูกลองสิ่งที่สนใจ ถ้าเด็กสนใจหรือชอบทำอะไรเป็นพิเศษ คุณครูต้องลองปล่อยให้เขาได้ทำอย่างเต็มที่ เพราะจะเป็นประตูสู่โลกกว้างและการเรียนรู้อีกมากมาย เช่น เขามักจะนำสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยมาเลี้ยง คุณครูลองปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาสนใจ ถึงแม้มันจะไม่นำไปสู่อาชีพที่ใช่เมื่อเขาโตขึ้น แต่เชื่อได้เลยว่าเขาจะได้รับสิ่งต่างๆ ทำให้เขาเป็นคนอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และมันก็อาจจะกลายเป็นงานอดิเรกยามว่างที่ดีได้ด้วย สนับสนุนให้ถูกทาง แรงสนับสนุนคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำสิ่งต่างๆ ของเด็กๆ ถึงแม้บางสิ่งบางอย่างอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญหรือสิ่งที่เราชอบมากนัก เราก็ต้องปล่อยให้เด็กได้ลองทำก่อน เพื่อให้เขาได้ค้นหาตัวเอง เช่น เด็กชอบเล่นดนตรี แต่เราชอบเล่นกีฬา คุณครูต้องไม่ยัดเยียดความชอบของตัวเองให้กับพวกเขาให้ชอบสิ่งที่เราชอบด้วย เพราะการทำเช่นนี้ ก็เป็นเหมือนการใส่กรอบความคิด ทำให้เขาสับสน และไม่กล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่เขาชอบอีกเลย จัดกิจกรรมให้มีความหลากหลาย ถ้าเด็กชอบทำกิจกรรม คุณครูควรสนับสนุนและหากิจกรรมให้มีความหลากหลาย เพื่อให้พวกเขามีทางเลือก และได้ลอง เพื่อจะได้รู้ว่าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรบ้าง นอกจากเด็กๆ จะได้รับความสนุกสนานแล้ว ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้เด็กๆ ได้พบพรสวรรค์ของตนเอง