อัลกุรอานเลือดคัมภีร์ของศาสนาอิสลาม เขียนขึ้นจากเลือดของอดีตประธานาธิบดีอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน

อัลกุรอานเลือดคัมภีร์ของศาสนาอิสลาม เขียนขึ้นจากเลือดของอดีตประธานาธิบดีอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน
อัลกุรอานเลือด" เป็นสำเนาของคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม เขียนขึ้นจากเลือดของอดีตประธานาธิบดีอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน ตลอดเวลามากกว่าสองปีในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 ซัดดัมมอบหมายให้เริ่มดำเนินงานใน พ.ศ. 2540 ตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 60 ของเขา
ซึ่งตามรายงานระบุว่าเขาต้องการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงช่วยเหลือเขาหลายครั้งตลอด "การสมรู้ร่วมคิดและภยันตราย" เขาอธิบายเหตุผลของเขาที่มอบหมายให้สร้างคัมภีร์ดังกล่าวในจดหมาย
ซึ่งได้รับการตีพิมพ์โดยสื่อของรัฐอิรักในเดือนกันยายน พ.ศ. 2543: "ชีวิตของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยภยันตรายซึ่งข้าพเจ้าควรจะเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
แต่เนื่องจากเลือดของข้าพเจ้าหลั่งออกมาเพียงเล็กน้อย ข้าพเจ้าจึงร้องขอให้มีผู้เขียนพระวาทะของพระผู้เป็นเจ้าด้วยเลือดของข้าพเจ้าด้วยความรู้สึกขอบคุณ"
หลังจากซัดดัมสิ้นอำนาจใน พ.ศ. 2546 อัลกุรอานเลือดถูกนำออกจากการแสดงต่อสาธารณะ ปัจจุบัน ผลงานดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการถกเถียงว่าควรจะดำเนินการอย่างไรกับมันดี เนื่องจากกระบวนการสร้างสรรค์ถือว่าดูหมิ่นศาสนา แต่การทำลายผลงานดังกล่าวก็อาจถือได้ว่าดูหมิ่นศาสนาได้เช่นเดียวกัน
คัมภีร์ได้รับการผลิต
โดยอับบาส ชากิรฺ เจาดี นักอักษรวิจิตรอิสลาม ผู้ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในรัฐเวอร์จิเนียในสหรัฐอเมริกา ตลอดช่วงเวลาสองปี ซัดดัมได้อุทิศเลือด 24-27 ลิตร
ซึ่งเจาดีได้ใช้ในการคัดเลือกคัมภีร์กว่า 6,000 โองการ ความยาวมากกว่า 360,000 คำตามคำบอกเล่าของเจาดี ซัดดัม ฮุสเซนได้เรียกเขาไปยังโรงพยาบาลอิบน์ ซีนา ในกรุงแบกแดด
ที่ซึ่งบุตรชายของฮุสเซน อูเดย์ ฮุสเซน กำลังพักฟื้นจากการพยายามลอบสังหาร และต้องการให้เขาเขียนอัลกุรอานด้วยเลือดของเขาว่าเป็น "การให้สัตย์ปฏิญาณรูปแบบหนึ่งจากฝ่ายซัดดัม"
ผลงานถูกส่งมอบให้แก่ซัดดัมเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2543[1] ต่อมา มันได้ถูกจัดแสดงในสุเหร่าอุมม์ อัลมะอาริก (มารดาแห่งการยุทธ์ทั้งปวง)
ในแบกแดด ซึ่งสร้างขึ้นโดยซัดดัมเพื่อระลึกถึงสงครามอ่าว (พ.ศ. 2533-34) และได้รับการออกแบบหออะซานให้เป็นรูปจรวดสกั๊ดและลำกล้องไรเฟิลคาแลชนิคอฟ
อัลกุรอานเลือดได้รับการจัดแสดงในอาคารหินอ่อนทรงหกเหลี่ยมซึ่งตั้งอยู่บนทะเลสาบประดิษฐ์ภายในเขตสุเหร่า
มีเพียงแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้นที่จะสามารถมาดูผลงานนี้ได้ เนื่องจากอาคารดังกล่าวมักจะถูกปิดล็อกและห้ามเข้า
ตามข้อมูลของนักหนังสือพิมพ์ชาวออสเตรเลีย พอล แมกควอจ์ ผู้ซึ่งมีโอกาสได้เห็นอัลกุรอ่านเลือดหน้าหนึ่ง ได้กล่าวว่า "ตัวอักษรเลือดมีขนาดสูงประมาณสองเซนติเมตรและขอบหน้ากว้างซึ่งใช้ในการตกแต่งนั้นเป็นประกายแวววาว สีน้ำเงิน ทั้งอ่อนและเข้ม จุดสีแดงและชมพู และการเน้นไฮไลต์ขดงอด้วยสีดำ"
มาร์ติน ชูลอฟ จากหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน อธิบายว่ามันเป็น "หนังสือที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างวิจิตรพิสดาร ซึ่งสามารถนำไปจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะใด ๆ ก็ได้ หากไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่ามันเขียนขึ้นด้วยเลือด"
หลังการสิ้นอำนาจของซัดดัม
หลังจากการนำทัพบุกแบกแดดนำโดยกองทัพสหรัฐในเดือนเมษายน พ.ศ. 2546 ผู้รับผิดชอบดูแลสุเหร่าได้นำอัลกุรอานเลือดไปเก็บไว้เพื่อความปลอดภัย
การเสียชีวิตของซัดดัมได้ทำให้องค์การศาสนาและฝ่ายฆราวาสอิรักอยู่ในสภาวะลำบากอย่างรุนแรง ในแง่หนึ่ง ศาสนาอิสลามถือว่าเป็นฮะรอม (ข้อห้าม)
ที่จะเขียนอัลกรุอานด้วยเลือด พฤติการณ์ของซัดดัมได้รับการประณามใน พ.ศ. 2543 โดยองค์การศาสนาในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบีย
ศาสตราจารย์อับดุล กอฮ์ฮะร์ อัล-อะนี ศาสตราจารย์ด้านความคิดอิสลามจากมหาวิทยาลัยแบกแดด ได้ให้เหตุผลว่า "ซัดดัมไม่ใช่บุคคลศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเลือดของเขาจึงสกปรก" อะลี อัลวะอะฮ์ นักบวชนิกายชีอะฮฺผู้ซึ่งถูกจองจำในสมัยซัดดัม
อธิบายว่าอัลกุรอานเลือดเป็น "เวทมนตร์ดำของซัดดัม อัลกุรอานเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับทองคำและเงิน ไม่ใช่สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ดังเช่นเลือด [อัลกุรอานเลือด] สามารถถูกเผาทิ้งหรือสามารถโยนลงแม่น้ำได้ ผมจะโยนมันลงในแม่น้ำ"
ในอีกแง่หนึ่ง เป็นข้อห้ามมิให้ทำให้อัลกุรอ่านแปดเปื้อนหรือเสียหาย โดยที่ชาวอิรักคนหนึ่งได้สรุปถึงปัญหาดังกล่าวว่า "มันเป็นข้อห้ามที่จะเขียนอัลกุรอานด้วยเลือด แต่เราจะทำลายคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์จากพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างไร"
รัฐบาลอิรักและบุคคลทางการเมืองยังได้แสดงมุมมองที่แตกต่างกันว่าควรจะดำเนินการอย่างไรกับอัลกุรอานเลือด รัฐบาลชีอะฮฺไม่ต้องการเห็นการเกิดใหม่ทางสัญลักษณ์ของการปกครองสมัยซัดดัมและตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อดูแลการทำลายสัญลักษณ์เหล่านี้
อดีตศัตรูการเมืองของซัดดัมบางคน อย่างเช่น อะห์มัด ชลาบี ได้ให้เหตุผลสำหรับการทำลายอนุสาวรีย์และสัญลักษณ์บนพื้นดินทั้งหมดสมัยซัดดัม
เนื่องจากมันเป็น "เครื่องเตือนใจที่ชัดเจนถึงผลที่ตามมาของการปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จและสร้างภาพบุคคลที่มีความชั่วร้ายอยู่ในตัวว่าเป็นอุดมคติ" ส่วนคนอื่น อย่างเช่น มุวัฟฟัก อัลรุบาอีย์ ได้โต้แย้งว่าชาวอิรัก "จำเป็นต้องจดจำ [สมัยซัดดัม] ทั้งสิ่งที่เลวร้ายและสิ่งที่ดีและเรียนรู้จากบทเรียนดังกล่าว" โฆษกประจำนายกรัฐมนตรีอิรัก อะลี อัลมูซาวี ได้เสนอว่าอัลกุรอานเลือดควรจะเก็บไว้ "เป็นเอกสารสำหรับความป่าเถื่อนของซัดดัม
เนื่องจากเขาไม่ควรจะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา มันสามารถบอกอะไรเราได้มากเกี่ยวกับเขา" อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่ามันไม่ควรจะถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากคงไม่มีชาวอิรักคนใดต้องการได้เห็นมัน แต่มันอาจถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เอกชน อย่างเช่น เรื่องน่าจดจำของฮิตเลอร์หรือสตาลิน
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/อัลกุรอานเลือด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน






