ซาลาเปาครึ่งลูก
บางครั้งการได้นั่งรอรถเมล์กลับบ้านก็ทำให้ได้เข้าใจอะไรบางอย่างมากขึ้น ตั้งแต่เราย้ายมาทำงานที่ใหม่ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านดินแดง ทำให้ต้องเดินทางโดยรถเมล์ไป-กลับ ทุก ๆ วัน และในตอนเย็นต้องเดินข้ามสะพานลอยเพื่อไปรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม และนั้นทำให้เกิดที่มาของคำว่า “ซาลาเปาครึ่งลูก”
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน เราก็เดินข้ามสะพานลอยเพื่อไปรอรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเมื่อทุก ๆ วัน แต่วันนี้เราซื้อซาลาเปาและน้ำดื่มมานั่งกินระหว่างรอรถ ขณะกำลังนั่งกินก็มีน้องหมาตัวสีน้ำตาลอ่อนนั่งมอง แหม่เล่นนั่งมองซะน้ำลายไหล แบบนี้จะให้เราทำเมินไม่สนใจก็คงดูยังไงอยู่ เลยแบ่งซาลาเปาครั้งลูกโยนให้น้องหมากิน แต่นางกับแค่ดม ๆ แล้วเดินจากไป ในใจเราก็คิดว่า ”แหม่ไอ้หน้าหมาทำตรูได้” เรานั่งรอดูอีกแป๊บเผื่อนางจะกลับมากิน หรือไม่กลับมาก็จะหยิบไปทิ้งถังขยะ ขณะกำลังคิดอยู่ ๆ ก็มีนกพิราบบินลงมาจิกกินโดยเริ่มมาจาก 1 ตัว และกลายเป็น 10 ตัว ไม่ถึง 5 นาทีฝูงนกพิราบก็จิกกินจนหมด ทำให้เราได้นึกถึงคำกล่าวของ อาจารย์จตุพล ชมพูนิช ในช่วงหนึ่งของรายการ คดีสีชมพู ที่ว่า “การให้เป็นสิ่งที่มีค่า แต่ถ้าให้คนผิดที่ผิดเวลา คุณค่ามันจะหมดไปทันที” การให้การแบ่งปันกันคนบางคนอาจไม่มีคุณค่าและไม่มีความหมายใด ๆ เลย แต่สำหรับคนบางคนการให้การแบ่งปันเพียงเล็กน้อยก็อาจมีคุณค่าและมีความหมายมากมายก็ได้