สิ่งลี้ลับ
สิ่งลี้ลับคืออะไร??
สิ่งลี้ลับ คือ สิ่งซึ่งไม่สามารถสัมผัสหรือพบเห็นได้โดยทั่วไป แต่เมื่อสัมผัสหรือพบเห็นแล้ว ในบางคนอาจเกิดอาการตื่นตระหนกหรือในบางคนอาจเกิดความสนใจมากยิ่งขึ้นแล้วแต่บุคคล สิ่งลี้ลับที่อยู่ในรูปของพลังงาน คือ ผี วิญญาณ และสปิริต แต่สำหรับสิ่งลี้ลับที่มีตัวตน (มีร่างกายที่ไม่ใช่พลังงาน) คือ ปิศาจ และสัตว์ประหลาด
การสัมผัสของมนุษย์โดยทั่วไปต่อสิ่งลี้ลับนั้นจะใช้ประสาทสัมผัส 5 อย่าง ได้แก่ หู ตา ลิ้น จมูก และการรับรู้ทางผิวหนังเมื่อถูกสัมผัส แต่สำหรับมนุษย์ที่มีพลังเหนือธรรมชาติแล้วอาจใช้ประสาทสัมผัสพิเศษ เช่น การรับรู้ได้ด้วยจิต เป็นต้น
สิ่งลี้ลับนั้นจะแตกต่างไปตามพื้นที่ แต่เมื่อแบ่งตามประเภทของความเชื่อแล้วแบ่งออกได้เป็น 2 ฝั่ง นั่นคือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก นอกจากนี้สิ่งลี้ลับยังสามารถพบได้ทุกสถานที่ตั้งแต่ในเมืองจนไปถึงป่าเขา
คนไทยกับเรื่องลี้ลับ เป็นของคู่กันมาตั้งแต่โบราณ ไม่แปลกที่คนไทยจะเห็นผีกันบ่อยมาก
นอกจากร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยทั่วไปผูกพันอยู่ด้วยก็คือผี พิธีกรรม วัฒนธรรม และทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผี เราจะไม่เถียงกันว่าผีมีจริงหรือไม่ วิญญาณคืออะไร ตายแล้วไปไหน เพราะมีคนพูดกันเยอะแล้ว เราแค่จะมาดูซิว่า...ทำไมคนไทยเห็นผีเก่งจัง
ถ้าไม่เห็น ก็เคยได้ยิน เคยได้กลิ่น เคยถูกอำ หลักฐานที่แสดงให้เห็นความเกี่ยวข้องของคนไทยกับสิ่งลี้ลับมีเกลื่อนทั่วไปหมด ทั้งที่ตั้งอยู่ในที่แจ้ง ใครผ่านไปมาก็เห็น อย่างศาลท้าวมหาพรหม (โรงแรมเอราวัณ) วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (หรือวัดแขก สีลม) ศาลแม่นาค (วัดมหาบุศย์) และแม้กระทั่งต้นไม้ใหญ่ที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าแพรเจ็ดสี ที่มีผู้คนเข้าไปสักการะและกราบขอพรกันไม่ขาด
หรือถ้าเป็นในที่ลับหูลับตาขึ้นมาหน่อย ก็เช่นในร้านหมอดู หรือตำหนักทรง ตำหนักเทพที่มีร่างทรงชื่อดัง ซึ่งไม่เคยหัวกระไดแห้ง เปิดเมื่อไร มีคนขึ้นเมื่อนั้น และหาก ‘แม่น’ เมื่อไร การันตีได้ว่าคนจะขึ้นมากกว่าเดิมทันตา
นี่ยังไม่นับพิธีกรรมต่างๆ นานาที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของแทบทุกชนชั้นสังคมไทย อย่างการทำบุญตักบาตร ขึ้นบ้านใหม่ ครอบครู ขอฝน ขอขมาแม่น้ำ พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ไปจนถึงข้อห้ามมากมายที่ได้รับการสั่งสอนและปฏิบัติสืบต่อกันมาโดยไม่เคยมีข้อสงสัย
คนไทยไม่ใช่ชาติเดียวที่เชื่อในเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ (เหนือวิทยาศาสตร์?) และมีชีวิตผูกพันอยู่กับเรื่องนี้
ชนชาติอื่นก็มี แต่ดูเหมือนจะไม่โจ่งแจ้งและถูกมองว่าเป็นเรื่องสามัญธรรมดาเท่าคนไทย... เราที่มีชีวิตผูกพันกับเรื่องเหล่านี้มานานจนแยกไม่ออก และแม้วิทยาศาสตร์จะเดินทางมาสู่การรับรู้ของเรานานมากแล้ว แต่ผีก็ยังเป็นพลัง
งานที่มองไม่เห็น ที่คอยขับเคลื่อนสังคมและวัฒนธรรมของเราจนทุกวันนี้
อะไรกันแน่ที่เรียกว่าผี???
ละครไทยมักบอกเราว่าละครไทยมักบอกเราว่า ผีคือวิญญาณคนตายที่ยังไม่ไปเกิด วนเวียนไปมาเพราะมีเรื่องค้างคาที่ต้องสะสางให้หมด และถ้าใครเชื่อแบบนี้ก็แสดงว่าไม่ได้เชื่อตามแบบพุทธ เพราะในพุทธศาสนาตายปุ๊บก็ต้องไปเกิดใหม่ปั๊บทันทีทันใดตามผลกรรม ส่วนที่เราเชื่อว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อน จริงๆ คือ ‘สัตว์โลก’ ที่เกิดแล้วโดยกรรมทำให้เกิดเป็นอสุรกายนั่นเอง
ยึดตามพระพุทธศาสนา ว่ากันว่าสัตว์โลกเรามีด้วยกัน 2 ภูมิ คือ สุคติภูมิ และทุติภูมิ มนุษย์อึเหม็นอย่างเราถูกจัดอยู่ในภูมิแรกรวมกับเทวดาและพรหม ซึ่งนับว่าอยู่ในที่ที่ดี ขณะที่ผีถูกจัดอยู่ในประเภทภูมิที่สอง รวมกับสัตว์เดียรัจฉาน สัตว์นรก เปรต และอสุรกาย
ถ้าดูตามความหมาย อสุรกายก็คือผี และผีก็คืออสุรกาย เพราะอสุรกายจะปรากฏกายโฉบไปทางโน้นทีทางนี้ที หลอกหลอนให้คนขนหัวลุก เชื่อกันว่าสาเหตุที่มาปรากฏร่างให้เห็นนั้นไม่มีอะไรมาก แค่อยากขอความช่วยเหลือ หมายความว่า ถ้าเราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ผีก็จะไป เท่านั้นเอง
ถ้าดูตามความหมาย อสุรกายก็คือผี และผีก็คืออสุรกาย เพราะอสุรกายจะปรากฏกายโฉบไปทางโน้นทีทางนี้ที หลอกหลอนให้คนขนหัวลุก เชื่อกันว่าสาเหตุที่มาปรากฏร่างให้เห็นนั้นไม่มีอะไรมาก แค่อยากขอความช่วยเหลือ หมายความว่า ถ้าเราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ผีก็จะไป เท่านั้นเอง
ความเชื่อของผีกับคนไทย เป็นของคู่กันจริงๆ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่เชื่อเรื่องผีกันเยอะมากกก
และรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง กัมพูชา ลาว ก็มีความเชื่อแบบเดียวกันเช่นกัน