โลกคู่ขนาน...แดนบังบด
#โลกคู่ขนาน...แดนบังบด
ดินแดนเหนือพื้นพิภพสูงขึ้นไป เป็นที่ราบกว้างใหญ่ ป่าปกคลุมหนาแน่น โผล่พ้นเมฆหมอกขาวโพลนจากด้านล่าง ความศิวิไลซ์ คือความธรรมดาของวิถีอันเรียบง่าย การใช้ชีวิตไม่แตกต่างจากคนด้านล่าง ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และทำนา แต่จะไม่ใช้เครื่องจักรกล ไม่ใช้ไฟฟ้า มีแต่ น้ำมันในตะเกียงเท่านั้น หากแต่...ไม่มีมนุษย์ผู้ชายอาศัยอยู่เลย ใครหลงเข้าไป ... สิ่งที่จะพบคือ...ความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย...มีแต่ป่า และเสียงมโหรีปี่พาทย์เป็นบางโอกาส ร่องรอยอาจมีบ้าง จากการสุมฟื้นก่อกองไฟ แล้วมอดดับ บางค่ำคืน คนด้านล่างจะมองเห็น จากที่อันไกลโพ้นบนที่สูง แสงไฟบนนั้น ...
" เคยมีใครจากบนนั้นลงมาบ้างไหมล่ะน้า " เสียงจากเด็กหนุ่ม วัยสิบเจ็ดปีร้องถาม ชายวัยกลางคน ห้าสิบต้น ๆ อย่างสนใจ ใคร่รู้
"เอ็งคิดว่ามีไหมล่ะ? ...คนเขาเคยเห็นกัน เล่าให้ฟังว่า บ้างก็สาว บ้างก็แก่ บางคนม้วนผมเป็นมวยสูง บางคนก็โพกผ้าไว้บนหัว ต่างก็นุ่งผ้าสิ้นสีสันลวดลายงดงามวิจิตรต่างจากคนทั่วไป มาเดินตลาดบ้าง มาขอซื้อของด้วยทองกำไล แหวน แล้วแต่เขาจะเอามาแลก บ้างก็เอาไปแลกเป็นเงินก่อนแล้วเอาไปซื้อของใช้ที่จำเป็น อะไรประมาณเนี้ยะ "
" เอ้า...งั้นที่ผมเคยเห็น ก็ใช่เลยสิ ! "
" เอ็งไปเห็นตอนไหนวะ เล่ามา "
" ตอนไปวัด ทำบุญวันพระใหญ่ คนแต่งตัวโบราณ ๆ มากันสามคน หอบหิ้วข้าวของ ปิ่นโต ขันลงหิน สวยๆ แปลก ๆ เป็นใครก็มอง ขึ้นไปร่วมใส่บาตรพระบนศาลาไม้น่ะ แกงหอม ๆน่าอร่อยทั้งนั้นเลยน้า !"
"อืม...เมื่อก่อนข้าพบพวกเขาออกจะบ่อย เดี๋ยวนี้นาน ๆ ที เขาว่ากันว่าที่นั้น เป็นที่อาคมซ่อนตัวเร้นจากภัยสงคราม ผู้ชายไปรบหมดหมู่บ้าน อาจตายกันหมดแล้ว เหลือแต่ผู้หญิง เขาร่ายเวทมนต์บังบด บังกาลเวลา บังจากทุกสิ่งอย่าง...ข้าไปแระ กลับบ้านข้าดีกว่าเมียมันจะบ่นเอา รำคาญหู "
เมื่อพูดเสร็จชายวัยกลางคนนุ่งขาวห่มขาว ไว้เครา ผมยาวรวบตึง ก็เดินลงแม่น้ำกว้าง ๆ ยาวไกล พอจะถึงน้ำลึกก็กระโจนตัวลอยแล้วทิ่มหัวลงอย่างปลา ในทันทีก็ปรากฏร่างเป็นเหมือนงูลำตัวใหญ่เท่าต้นมะพร้าว ชูหงอนโผล่ขึ้นแว๊บเดียว แล้วจมหายไป ...ทิ้งความตะลึง ตัวสั่นเทา ตาเบิกโพลงของเด็กหนุ่ม ที่เปลี่ยนจากท่านั่งเป็นลุกขึ้นยืนมองอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น เพียงครู่เดียว เขาก็ล้มลง หงายผึงหมดสติข้ามวันข้ามคืน มาตื่นบนเตียงเขาเอง แต่ทว่า...เขาเสียสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง เดินเหม่อลอย กลายเป็นคนบ้าประจำหมู่บ้านไปในที่สุด