สิวอักเสบ ปัญหาผิวที่รักษาได้
สิวอักเสบ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่กวนใจทุก ๆ คน ทั้งยังบั่นทอนความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น
เราจึงควรให้ความสำคัญกับวิธีการดูแลรักษาและฟื้นฟูบำรุงผิวที่เป็นสิวอักเสบ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
สิวอักเสบ เพื่อการดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี จะได้บอกลาหน้าสิว เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี
สิวอักเสบ เกิดจากอะไร
สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เป็นหนึ่งในประเภทของสิว ที่พัฒนาความรุนแรงมาจากสิวอุดตันโดยเชื้อ
แบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขน กระตุ้นให้มีการอักเสบของสิว สร้างความเจ็บปวดได้
สิวอักเสบ เกิดจากแบคทีเรียกลุ่ม Propionibacteriu m acne (P.acne) ซึ่งเป็นแบคทีเรียผลัดถิ่นบนใบหน้า
ปล่อยเอมไซม์กระตุ้นสิวอุดตันให้เกิดการอักเสบ ทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมา โดยมีความรุนแรง
แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ เมื่อเป็นสิวอักเสบแล้วจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีเพื่อลดสิวอักเสบ ลุกลาม และนี่เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ
สาเหตุอื่น ๆ ที่สามารถทำให้หน้าเป็นสิวอักเสบ คือ
- ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่มีมากเกินไป ช่วงวัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน หรือ ช่วงตั้งครรภ์
- อาหารการกิน เช่น อาหารมัน อาหารทอด
- พันธุกรรม
- การใช้เครื่องสำอาง
- การบีบสิว แกะสิว ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอุดตัน เกิดสิวอักเสบใต้ผิวหนัง
- การสูบบุหรี่
- การนอนดึกเป็นประจำ การผลิตของต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ
- เกิดจากไลฟ์สไตล์ การรักษาความสะอาดผิวหน้าไม่เพียงพอ ทำความสะอาดไม่ถูกวิธี
ประเภทของสิวอักเสบ
เมื่อไรก็ตามที่เกิดสิวนั้น หมายความว่าผิวกำลังแย่ ยิ่งกว่านั้นถ้าเป็นสิวอักเสบด้วย ก็มักจะพ่วงมาด้วย
อาการเจ็บปวด แต่ถ้าหากเรารู้วิธีรักษาสิวอักเสบ สิวอักเสบก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป แรกเริ่มเรา
ต้องป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตัน หรือไม่ให้สิวอุดตันค้างอยู่บนใบหน้านานจนเกินไป โดยการรักษาสมดุล
ความมันและความชุ่มชื้นบนผิวหน้า และใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าช่วยจัดการแบคทีเรียสิว ก็สามารถลดการ
เกิดสิวอักเสบได้
นิยามของคำว่า “สิวอักเสบ” คือ สิวที่มีการอุดตันของรูขุมขน และจะพบการอักเสบร่วมด้วย โดยมากมัก
เกิดตามหลังสิวเสี้ยน (สิวหัวปิด) ที่ไม่ได้รับการรักษา ร่วมกับมีการติดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณรูขุมขน
ประเภทของสิวอักเสบคือ
สิวตุ่มแดง
เป็นตุ่มขนาดเล็ก มีลักษณะบวมเต่ง มีสีชมพูอ่อน ๆ เป็นก้อนแข็งนูนขนาดเล็ก ทำให้เกิดความเจ็บปวด
รักษาง่ายกว่าสิวชนิดอื่น ๆ เพราะเป็นการอักเสบที่ผิวชั้นบนเท่านั้น
สิวหัวหนอง
สิวจะมีลักษณะที่เป็นตุ่มหนอง หรือ สิวหนอง แบ่งเป็น ชนิดตื้นและชนิดลึก มีขนาดใหญ่กว่าสิวตุ่ม เป็น
สิวอักเสบบวมแดงตรงฐานเม็ดสิว และเห็นหนองสีขาวตรงหัวสิว การรักษาไม่ยากเช่นเดียวกับสิวตุ่มแดง
สิวหัวหนอง เกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ ทำให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ข้อแนะนำ
ไม่ควรบีบหรือกดสิวด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบลุกลาม
สิวหัวช้าง
เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง มีลักษณะก้อนนูนแดงขนาดใหญ่และแข็ง ฝังลงไปลึกมากใต้ผิวหนัง และอาจมี
หนองปนเลือดได้ สิวหัวช้างไม่สามารถรักษาได้ด้วยการกดสิวหรือบีบสิว
สิวติดสาร หรือสิวสเตียรอยด์
เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการใช้สเตียรอยด์มากเกินไป หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่ากำหนด
จนส่งผลกับระบบร่างกายและทำให้เกิดโรคผิวหนังอื่น ๆ ตามมา ทั้งอาการของสิว รูขุมขนอักเสบ และ
ผิวหนังอักเสบ สิวสเตียรอยด์มี 2 อาการ คือ อาการคล้ายโรคสิว และอาการคล้ายโรครูขุมขนอักเสบจาก
เชื้อรา ลักษณะเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนองขนาดเล็ก
สิวซีสต์
ลักษณะคล้าย ๆ สิวหัวช้าง แต่มีหนองขนาดใหญ่ฝังลึกใต้ผิวหนัง และสามารถสร้างความเจ็บปวดได้อย่าง
สาหัสเวลาสัมผัสโดน เป็นสิวอักเสบชนิดที่รุนแรงที่สุด ไม่ควรรักษาเอง ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับ
คำปรึกษา และหาวิธีรักษาสิวอักเสบให้อย่างเหมาะสม
วิธีรักษาสิวอักเสบ และวิธีลดสิวอักเสบ
หลังจากแพทย์ได้เช็กลักษณะสิวอักเสบบนใบหน้าเกิดจากอะไร มีลักษณะอย่างไร เป็นประเภทไหน มีความ
รุนแรงแค่ไหนแล้ว ก็จะทำการเลือกวิธีรักษาสิวอักเสบที่เหมาะสมที่สุด สำหรับวิธีรักษาสิวอักเสบ และ วิธีลด
สิวอักเสบ ในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายวิธี ดังต่อไปนี้
ยาแก้สิวอักเสบ
การรักษาด้วยยาสิวอักเสบนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นยาทาภายนอก แต่ถ้าหากสิวมีความรุนแรงก็อาจจะต้องกินยา
แก้สิวอักเสบควบคู่กับยาทาฆ่าเชื้อสิวไปด้วย เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และลดสิวอักเสบให้น้อยลง หรือยุบตัวลง
การกดสิว
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวตุ่มและสิวหนอง เนื่องจากสิวหนองอยู่ตื้นพอจะกดได้ แต่สำหรับสิวหัวช้างและสิวซีสต์นั้น อาจจะไม่ค่อยเหมาะ แต่สามารถใช้วิธีกรีดผิวหนังและบีบระบายหนองออก แล้วตามด้วยทายาอย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้กดสิวอักเสบด้วยตัวเอง เพราะนอกจากเจ็บแล้ว เชื้อแบคทีเรียอาจกระจายไปตามผิวหนังได้
การติดแผ่นดูดสิว
แผ่นดูดสิวเป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวอักเสบที่ง่ายและใช้สะดวก ใช้แปะบนสิวอักเสบในตอนกลางคืน แผ่นดูดสิว
ก็จะดูดเม็ดสิวหรือสิวหนองออกมาจากผิวหนัง แผ่นดูดสิวมีอยู่ 3 แบบ
- แบบมีตัวยารักษา ใช้รักษาสิวอักเสบทุกชนิด ช่วยบรรเทาสิวอักเสบ บวมแดง จนยุบลงและแห้งเอง
- แบบไม่มีตัวยา คุณสมบัติคล้ายผ้าพันแผล สามารถช่วยดูดหนองและความชื้นออกจากสิว ช่วยลดรอยแผลจากสิวอักเสบ ใช้ได้ผลกับสิวหัวขาว สิวหัวหนอง
- แบบหัวเข็มละลายสิว เหมาะรักษาสิวหัวช้างและสิวซีสต์ เข็มเล็กที่ละลายได้จะเจาะผิวอักเสบ พร้อมให้ตัวยาซึมลงสู่ผิวหนังที่ลึกขึ้น ตัวเข็มไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ สิวอักเสบจะแห้งไวขึ้น ลดการเกิดแผลได้
การแปะแผ่นดูดสิวเป็นวิธีรักษาสิวอักเสบที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะทำให้สิวหนองแห้งง่ายขึ้น ป้องกันการแกะสิว และการเกาได้ ลดสิวอักเสบ และการเกิดแผลเป็น
ปรึกษาแพทย์
หากเป็นสิวที่มีอาการไม่รุนแรงนัก เบื้องต้นอาจรักษาได้ด้วยตนเอง ภายใต้คำแนะนำของเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ
แต่หากอาการสิวอักเสบบวมแดงไม่ทุเลาลง ก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจรักษา หาวิธีรักษาสิวอักเสบ
สำหรับระยะเวลาในการรักษาสิวอักเสบนั้นขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์ ผู้ซึ่งอาจจะใช้วิธีรักษามากกว่าหนึ่ง
วิธี เพื่อให้เหมาะสมกับความรุนแรงของสิวอักเสบ
การฉีดสิว
เป็นวิธีที่เหมาะกับสิวอักเสบที่เป็นเม็ดใหญ่ๆ มีอาการปวด บวม แดง เพราะช่วยลดการอักเสบ แต่ข้อเสียของ
วิธีนี้คืออาจเกิดเป็นหลุมบริเวณที่ฉีด
การใช้เลเซอร์
เป็นวิธีลดสิวอักเสบและฆ่าเชื้อสิวด้วยการเลเซอร์หรือฉายแสง การใช้เลเซอร์ช่วยลดการผลิตไขมันภายในรูขุมขน ช่วยลดการเกิดการอุดตัน ลดการสะสมของแบคทีเรีย และยังช่วยลดรอยสิวให้จางลงจากการนำเซลล์ผิวชั้นนอกออก ทำให้ผิวหนังสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นทดแทน
การใช้แสง
วิธีนี้เป็นการใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อลดสิวอักเสบและฆ่าเชื้อสิว แสงที่ใช้รักษาสิว คือ แสงสีฟ้า และ
แสงสีแดง การใช้แสงรักษาสิว เป็นการใช้แสงที่มีความยาวคลื่นในช่วงที่ตาของคนเราสามารถมองเห็นได้
ความยาวคลื่นของแสงสีฟ้า คือ 485-500 นาโนเมตร (ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ เป็นหนอง)
ความยาวคลื่นของแสงสีแดง คือ 625-700 นาโนเมตร (ลดการอักเสบของต่อมไขมัน ทำให้สิวอักเสบลดลง)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวอักเสบ
สิวอักเสบขึ้นไม่หยุด
เมื่อพบว่าสิวอักเสบขึ้นไม่หยุด แรกเริ่มก็ให้สังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างอาจก่อให้สิวเห่อขึ้นได้ เช่น เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
หน้า ก็ให้เลิกใช้ หรือเปลี่ยนอาหารการกิน ก็ให้ปรับมากินอาหารที่มีประโยชน์แทน ควรที่จะพักผ่อนให้เพียง
พอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่สุดท้ายนี้ก็ยังควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ และหาวิธีรักษาสิวอักเสบที่ถูกต้อง
สิวอักเสบกี่วันหาย
ระยะเวลาในการรักษาสิวอักเสบนั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ประเภทของสิวอักเสบ ความรุนแรงของสิวอักเสบ และสิวอักเสบเกิดจากอะไรด้วย วิธีรักษาสิวอักเสบ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้อาจใช้เวลานานหลายเดือน แต่ปกติแล้วสิวอักเสบจะหายดีขึ้นภายในประมาณ 4-6 สัปดาห์ ดังนั้นการดูแลรักษาสิวอักเสบต้องใช้ความอดทนสูงก่อนที่ผิวหนังจะกลับมาดีอีกครั้ง
บีบ สิว แล้ว บวม
ถึงแม้ว่าการกดสิว บีบสิว เป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวอักเสบ แต่ก็ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันการ
ลุกลาม แพร่กระจายของแบคทีเรียไปทั่วผิวหน้า แต่ถ้าหากบีบสิวแล้วบวมแดงขึ้นนั้น ก็เป็นเพราะผิวบริเวณ
นั้นถูกรบกวน จนระคายเคืองแล้วเกิดการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งเป็นผลจากการกดสิวด้วยตัวเอง
สรุป
สิวเป็นเรื่องธรรมชาติ สามารถเกิดได้ทุก ๆ ที่บนร่างกายของเรา แต่ที่พบบ่อย ๆ และมีผลต่อภาพลักษณ์
ของเรา ก็คือ ใบหน้า เนื่องจากมีต่อมไขมันจำนวนมาก ซึ่งถ้าหากอักเสบและติดเชื้อ ก็จะลามไปทั่วใบหน้า
ดังนั้นหลังจากที่เราได้ศึกษาว่าสิวอักเสบเกิดจากอะไร ทั้งเรียนรู้ว่าสิวอักเสบรักษาได้อย่างไร ก็ควรลองนำไปปฏิบัติและหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้นได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งใบหน้าเรียบเนียนปราศจากสิว