เปิดธุรกิจ JK อีกอาชีพแหล่งรายได้พิเศษของเด็กสาวมัธยมญี่ปุ่น
เรารู้จักแต่ ธุรกิจ JAV ที่โด่งดังไปทั้วโลก มาเปิดมุมมึด สีเทา สีดำในญี่ปุ่น ในบางมุมใครจะรู้ว่า ค่านิยมเด็กญี่ปุ่น ก็ชอบใช้ของแบรนด์เนม บางคนบ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนแต่เด็กบางคนอยากใช้อยากได้ของแบรนด์เนม ส่วนใหญ่ก็มาจากต่างจังหวัด สะท้อนอะไรบางอย่างในญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับวัตถุนิยม ไม่ได้สนใจว่าเงินที่ได้มา มาจากอะไร มาจากความสามารถอะไร ให้ความสำคัญแค่เปลือกนอก
อีกทั้ง กลุ่มเด็กนักเรียรชั้นมัธยมปลาย ในญี่ปุ่นนี้ มีความกดดันทางสภาวะจิตใจมากที่สุด เหตุเพราะการแข่งขันด้านการศึกษาที่สูง นอกจากนี้ ความมั่งคั่งและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก็เป็นสิ่งกล่อมเกลาให้เด็ก ๆ ก้าวสู่ความเป็นวัตถุนิยม ปัญหาทางการเงินกันเยอะขนาดไหน ขนาดประเทศพัฒนาเเล้ว เเต่แทบไม่ช่วยอะไรเลย
ที่ญี่ปุ่ญมีไอดอลเด็กสาวเยอะมาก และสามารถเข้าถึงตัวได้ง่าย แตะเนื้อต้องตัวได้ง่าย ไม่เหมือนฝั่งเกาหลี มีจัดมีตติ้งและพบปะพูดคุยระหว่างไอดอลและแฟนคลับอยู่บ่อยๆ เหมือนเพื่อน เหมือนครอบครัวมากกว่าไอดอล เลยก่อให้เกิดความผูกพันและแน่นแฟ้นระหว่างไอดอลและแฟนคลับ และแฟนบางกลุ่ม บอกได้เลยว่าเปย์หนักมาก
ญี่ปุ่นจะต่างจากเกาหลีใต้ คือมีความเชื่อว่าตลาดในประเทศมีขนาดใหญ่พอเพียง เลยไม่ได้มุ่งสร้างตลาดต่างประเทศ ซึ่งตลาดในญี่ปุ่น ชอบลูกไก่ ไม่ชอบแม่ไก่ (เช่นนักร้องมืออาชีพแบบเกาหลีใต้) ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้ชายญี่ปุ่นยิ่งอ่อนแอ (ประมาณว่าเงินเดือนขั้นต่ำแทบไม่ขึ้นมา 30 ปี ตั้งแต่ 1990) ลูกไก่เพิ่งออกจากไข่ จึงขายดี สวยไม่สวย เอื้อมถึงพอ และขอแค่ให้ดูอ่อนแอ พยายามกัดฟันให้โด่งดัง ยิ่งช่วงโควิท แม่พวกไอดอลบางคน พยายามสร้างรายได้ให้ลูกและครอบครัว พร้อมตามฝัน ใช้ online meet and greet กันง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว
ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่กลาบมาเป็นธุรกิจที่เติบโตทั้งมุมสว่าง มุมมืด นั้นเรียกว่า JK (Jk อ่านว่า โจชิโควเซ(อิ) Joshi kousei 女子高生 โจ ชิ นะครับ ไม่ใช่ โจ คิ เพราะ โจชิมันแปลว่า ผู้หญิง โควเซ แปลว่านักเรียนมัธยมปลาย) คือการปฏิบัติของออกเดทกับสาววัยรุ่น สถานการณ์ทั่วไปของการพบปะสัวสรรค์กับ JK เด็กผู้หญิงรุ่น จะยืนแจกใบปลิวเชิญสำหรับ "JK walk" (JKお散歩, JK osanpo )
ก่อนหน้านี้ เป็นการให้บริการเพื่อ "ฟื้นฟูธุรกิจ" เมื่อตำรวจเริ่มสอบสวนการปฏิบัติของ "JK" "ธุรกิจซันโป" เกิดขึ้น นี่คือเวลาที่เด็กผู้หญิงจะได้รับค่าจ้างสำหรับกิจกรรมบริการทางสังคม เช่น การเดินและการพูดคุย และบางครั้งเรียกว่า "การทำนายดวงชะตา" กิจกรรมอื่นคือการนวดกดจุดสะท้อน ("rifur") เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่จะทำงานในอากิฮาบาระในโตเกียว ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่
จากการตรวจสอบโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน 2017 มีร้าน JK ทั้งหมด 114 แห่งในญี่ปุ่น ร้านค้าประมาณร้อยละ 70 อนุญาตให้นักเรียนหญิงมัธยมปลายติดต่อกับลูกค้าได้ ร้านค้าเหล่านี้ให้บริการต่างๆ เช่น ให้บริการนวดแก่ลูกค้า ให้ลูกค้านอนข้างคนงานหญิง และให้สัมผัสรูปแบบอื่นๆ ร้านค้า 11 แห่งเปิดเป็นแบบให้แค่ "ชื่นชม" ซึ่งลูกค้าสังเกต สัมผัสได้ทางแค่ทางสายตา หรือถ่ายรูปเด็กผู้หญิงที่สวมชุดนักเรียนผ่านกระจกส่องมองเห็นทางเดียว อีกสองร้านเป็นแบบ “แนวร่วม....” หมายความว่าลูกค้าสามารถเดินเล่นกับสาว ๆ ได้
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐรายงานในปี 2017 กับกรณีธุระกิจ JK ไปยังรัฐบาลญี่ปุ่น ว่า "ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการกำจัดของการค้ามนุษย์ " และ "ยังคงเอื้ออำนวยให้ก้าวข้ามไปสูการค้าประเวณีเด็กญี่ปุ่น" อย่างไรก็ตาม ในรายงานปี 2018 ได้ยกระดับญี่ปุ่นเป็น Tier 1 และเน้นว่าญี่ปุ่นมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานในการกำจัดการค้ามนุษย์
ซึ่งเครือข่ายการค้าประเวณีเหล่านี้ มีความซับซ้อนและเป็นระบบ มีเป้าหมายที่ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงชาวญี่ปุ่น ที่มีช่องโหว่ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น รถไฟใต้ดิน แหล่งพบปะสังสรรค์ของเยาวชน โรงเรียน และทางออนไลน์ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงเหล่านี้บางคนกลายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ไปในที่สุด
อ้างอิงจาก: https://www-youtube-com.translate.goog/watch?v=0NcIGBKXMOE&_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th
https://web-archive-org.translate.goog/web/20160304054238/http://www.newsonjapan.com/html/newsdesk/article/104743.php?_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th
https://japantoday-com.translate.goog/category/crime/tokyo-police-take-13-underage-girls-into-custody-for-jk-walking?_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th
https://jkbusinessesinjapan.wordpress.com/
http://j.people.com.cn/n/2015/0722/c94475-8924521.html?urlpage=3#gq