ตำนาน"นางเงือก"ในคลองบางกอกน้อย
มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านบางกอกน้อยได้เล่าต่อๆกันมา ในคืนเดือนหงายที่พระจันทร์เต็มดวง ที่แพรยายหนอมสุวรรณเตมี ซึ่งในสมัยนั้นเป็นแพรร้านขายยาไทย ซึ่งมีชื่อเสียงประจำคลองบางกอกน้อย ได้มีสิ่งประหลาดปรากฏอยู่ที่แพรยายหนอม เมื่อแกได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยกันมาจากบริเวณปลายแพร เป็นเสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูมากเท่าไหร่ เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นลักษณะของการพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อยายหนอมได้ยินเสียงจึงลุกขึ้นไปดูที่มาของเสียง ว่าเป็นเสียงของใครมาเล่นน้ำในเวลานี้ ยายหนอมเพ่งไปยังจุดที่มาของเสียงหรือบริเวณหน้าแพร ถึงกับต้องตกใจเมื่อยายหนอมเห็นภาพนางเงือก เป็นหญิงสาวที่สวยมีผมยาว
กำลังใช้มือค่อยๆยันแพรขึ้นมานั่งส่องกระจก นอกจากนั้นแล้วเนี่ยยังเห็นนางเงือก อีกสองตัวกำลังขึ้นมาจากน้ำเช่นเดียวกัน ซึ่งยายหนอมเชื่อว่านี่อาจจะเป็นนางเงือก พ่อแม่ลูกที่ขึ้นมาเล่นบนแพร สิ่งที่ทำให้ยายหนอมต้องตกใจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพบว่าบริเวณขานั้น กับไม่มีขาเหมือนมนุษย์ แต่กลายเป็นเกร็ดปลาที่โบกสบัดไปมาบริเวณผิวน้ำ ราวกับว่ามีปลาขนาดใหญ่กระโดดเล่นน้ำไปมา
ยายหนอมแทบจะสติหลุด เมื่อได้เห็นภาพแบบนั้น ด้วยความตกใจของแก ปรากฏว่ายายหนอมได้ตะโกนถามนางเงือกว่า"ใครเล่นน้ำอยู่หน้าบ้านนะ" นางเงือกหันมาตามเสียงที่ยายหนอมเรียก เมื่อสบสายตา ยายหนอมได้เล่าว่า ตาของนางเงือกเป็นสีแดงประกาย เมื่อนางเงือกเห็นยายหนอมก็ได้โดดลงน้ำทันที เสียงนางเงือกกระโดดลงน้ำดังกระจายไปทั่วคลองบางกอกน้อย
ยายหนอมเห็นหัวของนางเงือกทั้งสาม ค่อยๆว่าย ไปทางวัดขี้เหล็กสุวรรณศรี ยายหนอมได้มองตามจนสุดสายตา แล้วนางเงือกทั้งสามก็ค่อยๆหายไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ยายหนอมนั้นนอนไม่หลับทั้งคืน
เมื่อฟ้าสางยายหนอมจึงตัดสินใจเดินไปยังที่แพร บริเวณที่พบนางเงือกเมื่อคืน ดันพบเข้ากับกระจกที่นางเงือกทิ้งเอาไว้ ยายหนอมจึงได้เก็บไว้เผื่อว่าจะได้คืนให้นางเงือกตัวนั้น แต่สุดท้ายยายหนอมก็ไม่ได้พบกับนางเงืออีกเลย
ในสมัยนั้นเรืองราวของยายหนอมพบนางเงือกได้ถูกเล่าขานกันปากต่อปากจนดังไปทั่วคุ้มน้ำบางกอกน้อย แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่ยายหนอมเล่านั้นเป็นความจริงหรือเปล่า อีกทั้งกระจกที่ยายหนอมอ้างว่าเก็บได้และเป็นของนางเงือกนั้น ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นสักคน จะมีก็แต่เรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณข้อมูล:nuengic